Finn Wolfhard เปรียบเทียบ Stranger Things ซีซัน 4 จะมีความคล้ายคลึงกับแฟรนไชส์ Harry Potter
Finn Wolfhard นักแสดงจาก Stranger Things ได้เปรียบเทียบ Stranger Things ซีซันที่ 4 ที่กำลังจะมาถึง โดยบอกว่าในซีซันนี้จะมีการพัฒนาการของตัวละครเหมือน แฟรนไชส์ภาพยนตร์ยอดนิยมอย่าง Harry Potter
Stranger Things คือซีรีส์ยอดฮิตทาง Netflix ของ Matt Duffer และ Ross Duffer ซึ่งฉายรอบปฐมทัศน์ครั้งแรกในปี 2016 ซึ่งเรื่องราวในซีซันแรก ได้แนะนำให้ผู้ชมได้รู้จักตัวละคร Eleven (รับบทโดย Millie Bobby Brown) ตัวละครเด็กสาววัยรุ่นที่มีพลังลึกลับ และมีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดา ซึ่งนอกจาก Millie Bobby Brown ซีรีส์เรื่องนี้ยังมีนักแสดงที่มีบทบาทโดดเด่นอีกหลายคน ได้แก่ Will (รับบทโดย Noah Schnapp), Mike (รับบทโดย Finn Wolfhard), Lucas (รับบทโดย Caleb McLaughlin), Dustin (รับบทโดย Gaten Matarazzo), Erica (รับบทโดย Priah Ferguson), Max (รับบทโดย Sadie Sink), Nancy (รับบทโดย Natalia Dyer), Jonathan (รับบทโดย Charlie Heaton), Steve (รับบทโดย Joe Keery), Robin (รับบทโดย Maya Hawke), Jim Hopper (รับบทโดย David Harbour) และ Joyce Byers (รับบทโดย Winona Ryder)
ความสำเร็จของซีรีส์ Stranger Things ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากช่วงเวลาที่ดำเนินในซีรีส์เป็นบรรยากาศที่ชวนให้ผู้ชมรู้สึกลำรึกถึงอดีต เนื่องจากเหตุการณ์ในซีรีส์จะพาเรากลับไปในช่วงยุค 1980 โดยในซีซันแรก เรื่องราวทั้งหมดเริ่มในปี 1983 ซึ่งจะติดตามเรื่องราวของตัวละครหลักที่เป็นกลุ่มเด็กมัธยมต้น และตัวละครสมทบอย่าง Nancy, Jonathan และ Steve จะอยู่ในชั้นมัธยมปลาย เหล่าตัวละครหลักได้จบมัธยมต้น และ Eleven กับ ครอบครัว Byers ได้ย้ายออกจากเมือง Hawkins ในตอนจบของซีซัน 3 โดยในซีซัน 4 จะอยู่ในช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิในปี 1986
ในการให้สัมภาษณ์กับ Screen Rant เมื่อปีที่แล้ว Finn Wolfhard ได้พูดถึงซีซัน 4 ของซีรีส์ ที่ถูกตั้งความคาดหวังไว้อย่างสูง ซึ่งเขาได้อธิบายว่า
“ผมคิดว่าเนื้อแท้ของซีรีส์เรื่องนี้ คือมันจะต้องมืดมน และดาร์กกว่าเดิมในทุกซีซัน แต่มันก็ยังสนุกขึ้น น่ากลัวขึ้น และมีดราม่ามมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มาพร้อมกับพวกเรานักแสดงหลักทุกคนที่เติบโตขึ้นและอายุมากขึ้น และผมอยากที่จะเปรียบเทียบซีรีส์เรื่องนี้กับ Harry Potter เพราะภาพยนตร์แฟรนไชส์นี้จะมืดมนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในภาคหลัง ๆ และนั่นก็คือความก้าวหน้าในแบบเดียวกับที่เราทำอยู่ ผมคิดว่าเป็นอย่างนั้น”
จากการเดินทางที่ยาวนานกว่าทศวรรษของแฟรนไชส์ Harry Potter ถือเป็นตัวอย่างที่สำคัญของของแฟรนไชส์ที่แสดงให้เห็นการเติบโตของตัวละคร นักแสดง และผู้ชม ดูได้จากการจัดเรตของ Harry Potter ที่ในภาค 1 ถึงภาค 3 ถูกจัดอยู่ในเรต PG (รับชมได้ทุกวัย) และหลังจากภาคที่ 3 เป็นต้นไปก็ได้เปลี่ยนเรตไปอยู่ในเรต PG-13 (ไม่เหมาะกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 13 ปี) ยกเว้นในภาคที่ 6 อย่าง Harry Potter and the Half-Blood Prince ในปี 2009 ที่ถูกจัดอยู่ในเรต PG ส่วนซีรีส์ Stranger Things ถูกจัดอยู่ในเรต TV-14 (ไม่เหมาะกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 14 ปี) สุดท้ายแล้ว ซีซัน 4 ที่พวกเรารอคอย จะออกมารุนแรงและมืดมนกว่าเดิมจริงไหม ต้องรอดูกันในซีรีส์ โดยตัวซีรีส์ Stranger Things ซีซัน 4 มีกำหนดการแบ่งฉายเป็น 2 ส่วน โดยครึ่งแรกจะมาในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ และครึ่งหลังจะมาในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะฉายทาง Netflix
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้