Tom Rothman ประธานบริษัท Sony Pictures ได้ออกมายืนยันว่า ภาพยนตร์เรื่อง Bad Boys 4 ยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนา แม้ว่าจะมีประเด็นเรื่องที่ Will Smith ถูกแบนจากแฟน ๆ ทั่วโลก หลังจากเหตุการณ์ที่เขาเดินขึ้นไปตบหน้า Chris Rock กลางเวที Oscars ประจำปี 2022

ย้อนกลับไปในปี 1995 นับเป็นครั้งแรกที่ผู้กำกับ Michael Bay ได้ปล่อยภาพยนตร์เรื่อง Bad Boys ออกมาสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย Will Smith และ Martin Lawrence รับบทเป็นคู่หูตำรวจสุดฮา ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก จากนั้นภาคต่ออย่าง Bad Boys II ก็ได้ออกมาในปี 2003 นักแสดงทั้ง 2 ยังคงกลับมาแสดงนำในภาคต่อเหมือนเดิม และ Michael Bay ก็กลับมารับหน้าที่ผู้กำกับเช่นกัน

ทว่าหลังจากนั้น ภาพยนตร์ชุดนี้ก็เงียบหายไปนานหลายปี แม้ว่า Bad Boys II จะประสบความสำเร็จมากกว่าภาคแรก ด้วยการกวาดรายได้ทั่วโลกได้มากถึง 273 ล้านดอลลาร์ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ต้องรอถึงปี 2020 กว่าที่ทางสตูดิโอ Sony Pictures จะตัดสินใจหวนคืนแฟรนไชส์นี้ด้วยภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ในชื่อ Bad Boys For Life ซึ่งในภาคนี้นักแสดงนำทั้ง 2 ยังคงกลับมาเหมือนเคย แต่ผู้กำกับคู่บุญอย่าง Michael Bay นั้นไม่ได้กลับมารับหน้าที่เดิม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มี Michael Bay แต่ Bad Boys For Life ก็ยังประสบความสำเร็จและสามารถทำรายได้ทั่วโลกได้มากถึง 426 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขรายได้นี้เป็นสิ่งที่ช่วยรับประกันได้ว่า เราอาจจะได้เห็นภาคต่อของแฟรนไชส์นี้อีก และสุดท้ายในช่วงกลางปี 2020 ก็มีการประกาศสร้าง Bad Boys 4 ออกมาอย่างเป็นทางการ

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าโปรเจกต์ Bad Boys 4 จะต้องเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่จากเหตุการณ์ที่ Will Smith เดินขึ้นไปตบหน้า Chris Rock บนเวทีออสการ์ ประจำปี 2022 เพื่อตอบโต้เรื่องที่ Chris Rock พูดจากล้อเลียน Jada Pinkett Smith ภรรยาของเขา ซึ่งอันที่จริงแล้ว หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ไม่นาน ในเดือนเมษายนก็ได้มีข่าวลือออกมาว่าโปรเจกต์ Bad Boys 4 ถูกหยุดไว้ชั่วคราว เนื่องจากกระแสในแง่ลบของ Will Smith อย่างไรก็ตาม ล่าสุด Tom Rothman ประธานบริษัท Sony Pictures ได้ออกมาแถลงการณ์ผ่าน Deadline เพื่อปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว พร้อมกับบอกว่าข่าวลือดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง โดย Tom Rothman ได้กล่าวว่า

ไม่ นั่นมันไม่ใช่เรื่องจริง ภาพยนตร์เรื่องนั้น (Bad Boys 4) ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาและยังคงเป็นอยู่ มันไม่เคยหยุดชะงัก เพราะมันยังไม่ได้เริ่มเลย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันน่าผิดหวังมาก (เรื่อง Will Smith) และผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่ผมควรจะแสดงความคิดเห็น บอกได้แค่ว่าผมรู้จัก Will Smith มาหลายปีแล้ว และผมรู้ว่าเขาเป็นคนดี นั่นเป็นตัวอย่างของคนดีที่มีช่วงเวลาที่เลวร้ายต่อหน้าคนทั้งโลก ผมเชื่อว่าคำขอโทษและความเสียใจของเขาเป็นเรื่องจริง และผมเชื่อในการให้อภัยและการให้โอกาสแก้ตัว

ซึ่งอย่างที่เรารู้กันดี ว่าตัว Will Smith นั้น ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบจำนวนมากหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น เพราะผู้คนไม่เห็นด้วยกับการที่เขาเลือกใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา และคำวิจารณ์ไม่ใช้เพียงอย่างเดียวที่เขาได้รับ โดย Will Smith ได้รับบทลงโทษจาก Academy Awards ด้วยการถูกห้ามส่งชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นเวลา 10 ปี แต่ก็ยังไม่จบแค่นั้น เพราะโปรเจกต์ภาพยนตร์ของ Will Smith หลายเรื่องได้ถูกยกเลิกไป เริ่มตั้งแต่ในต้นเดือนเมษายนหลังจากเกิดเหตุการณ์อันอื้อฉาวได้ไม่นาน ทาง Netflix ก็ได้ออกมาประกาศยกเลิกโปรเจกต์ภาพยนตร์ที่กำกับโดย David Leitch เรื่อง Fast & Loose จากนั้นในปลายเดือนเมษายนก็ได้มีการเปิดเผยออกมาอีกว่า ภาพยนตร์เรื่อง Bright 2 ที่อยู่ในการพัฒนามานานก็ได้ถูก Netflix ยกเลิกไปเช่นกัน ต่อมาในเดือนพฤษภาคมก็ได้มีรายงานออกมาว่า ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ Will Smith กับ Apple TV+ เรื่อง Emancipation ได้ถูกเลื่อนวันฉายออกไปในปี 2023

แม้ว่าโปรเจกต์หลายโปรเจกต์ของ Will Smith ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อื้อฉาวในครั้งนี้ แต่สิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับโปรเจกต์ Bad Boys 4 เพราะการที่ประธานของ Sony Pictures ออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ แสดงว่าโปรเจกต์นี้จะยังคงเดินหน้าต่อไป และ Sony Pictures เลือกที่จะยืนเคียงข้างและให้โอกาส Will Smith ซึ่งตรงกันข้ามจาก Netflix ที่ตัดสินใจรีบยุติความสัมพันธ์กับ Will Smith หลังจากเกิดเหตุการณ์ในคืนออสการ์ สุดท้ายแล้ว ตอนนี้โปรเจกต์ Bad Boys 4 ก็ยังไม่ได้เป็นรูปเป็นร่าง และยังคงอยู่ในช่วงพัฒนา อาจต้องใช้เวลาอีกซักพักกว่าจะพร้อมเข้าฉาย ต้องรอติดตามกันต่อไป