แฟนๆ รอคอยมานานที่จะได้เห็น Keanu Reeves กลับมารับบทนำใน John Wick: Chapter 4 ซึ่งเดิมทีทีมงานวางแผนไว้ว่าจะถ่ายทำภาคที่ 4 และภาคที่ 5 พร้อมกัน แต่เนื่องจากการระบาดของ Covid-19 ได้ส่งผลให้การถ่ายทำต้องหยุดชะงักจนท้ายที่สุดทีมผู้สร้างก็ต้องเปลี่ยนแผนไป โดยล่าสุด Chad Stahelski ผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้ออกมาเปิดถึงเหตุผลที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจ

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้กำกับ Chad Stahelski ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสาร Total Film เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับ John Wick: Chapter 4 ภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เขากำกับซึ่งกำลังจะเปิดตัวในโรงภาพยนตร์ช่วงต้นปี 2023 และในระหว่างการพูดคุยกันผู้กำกับก็ได้เปิดเผยถึงเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจที่จะไม่ถ่ายทำภาค 4 และภาค 5 พร้อมกัน ทั้งที่ตอนแรกเขาคิดไว้ว่าจะทำเช่นนั้น โดยเขาได้กล่าวว่า

รู้สึกไม่ดีกับการทำภาค 4 และภาค 5 พร้อมกัน

ซึ่งเขาได้เสริมว่าหากจะถ่ายทำ John Wick: Chapter 4 และ John Wick: Chapter 5 มันอาจต้องใช้เวลาในการถ่ายทำมากถึง 200 วัน ซึ่งเขารู้สึกว่ามันมากเกินไปสำหรับนักแสดงและทีมงานทุกคน อย่างไรก็ตาม Stahelski กล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องที่ 5 ก็กำลังจะเริ่มถ่ายทำในอีกไม่ช้า พร้อมกล่าวแบบติดตลกว่า

Keanu เรียกมันว่าไข้ John Wick คุณไม่ได้ทำ John Wick มาสองปีแล้ว และคุณก็แบบว่า ‘เราต้องไปทำอะไรสักอย่างแล้ว!’

นอกจากเราจะได้เห็น Keanu Reeves กลับมารับบทบาทเดิมของเขาใน John Wick: Chapter 4 ที่กำลังจะมาถึงแล้วนั้น ภาคต่อเรื่องนี้จะยังมีการสมทบด้วยนักแสดงหน้าใหม่อีกหลายคน ได้แก่ Donnie Yen จาก Rogue One: A Star Wars Story (2016), Bill Skarsgård จาก It (2017) และป๊อปสตาร์ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อังกฤษ Rina Sawayama

นอกจากนี้ John Wick: Chapter 4 นั้นไม่ใช่โปรเจกต์เดียวของแฟรนไชส์ที่กำลังจะมาถึง เพราะจะยังมีซีรีส์อย่าง The Continental ซึ่งจะเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีตก่อน John Wick ภาคแรกหลายสิบปี รวมถึงโปรเจกต์ภาพยนตร์ภาคแยกอย่าง Ballerina ที่นำแสดงโดย Ana de Armas นักแสดงชื่อดังจาก Knives Out (2019) และ No Time To Die (2021) โดยจะโฟกัสไปที่กลุ่มนักฆ่าของ Director (รับบทโดย Anjelica Huston) ใน John Wick: Chapter 3 - Parabellum (2019) ซึ่งล่าสุดได้มีการยืนยันออกมาแล้วว่า Keanu Reeves และ Ian McShane จะได้มาปรากฎตัวในภาคแยกนี้ด้วย

John Wick: Chapter 4 มีกำหนดการฉายในวันที่ 23 มีนาคม 2023