Chris Hemsworth บอกถึงเหตุผลที่ทำให้เขายอมกลับมาแสดงใน Thor: Love and Thunder

ล่าสุด Chris Hemsworth นักแสดงผู้รับบทเป็น Thor แห่งจักรวาล Marvel Cinematic Universe (MCU) ได้ออกมาเปิดเผยว่า เดิมทีแล้วเขาไมไ่ด้มีความคิดที่จะกลับมาแสดงใน Thor: Love and Thunder ทว่ามีอยู่ 1 เหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจกลับมา

4

ภาคต่อของเทพเจ้าสายฟ้าที่แฟนๆ ทั่วโลกรอคอย นั่นคือภาพยนตร์เรื่อง Thor: Love and Thunder ที่จะเล่าเรื่องราวของ Thor หลังจากเหตุการณ์ใน Avengers: Endgame (2019) เมื่อ Thanos พ่ายแพ้และแอสการ์ดได้ย้ายไปอยู่ที่โลก เขาจึงค้นหาจุดประสงค์ใหม่ในชีวิตของเขา โดยมือเขียนบทและผู้กำกับ Taika Waititi ได้อธิบายว่า ภาคนี้ Thor จะอยู่ในช่วงวิกฤตวัยกลางคน (Midlife crisis) อย่างไรก็ตาม วายร้ายหลักของภาคนี้คือ Gorr the God Butcher (รับบทโดย Christian Bale) ชายผู้มีเป้าหมายว่าจะล้างบางเหล่าทวยเทพทั้งหมด และธอร์ก็ถือเป็นหนึ่งในเทพเจ้า ทำให้เขาตกเป็นเป้าเช่นกัน เขาจึงได้เริ่มรวบรวมทีมเพื่อต่อกรกับ Gorr the God Butcher เขาได้ขอความช่วยเหลือจาก Valkyrie (รับบทโดย Tessa Thompson) เพื่อนสนิทของเขา Korg (รับบทโดย Taika Waititi) และ Jane Foster หรือ Mighty Thor (รับบทโดย Natalie Portman)

โดยในปัจจุบัน สมาชิกชุดดั้งเดิมของทีม The Avengers หลายคน เช่น Robert Downey Jr. (รับบทเป็น Iron Man) และ Chris Evans (รับบทเป็น Captain America) ได้ออกจากจักรวาล MCU ไปแล้ว หลังจากทั้งคู่ได้พบกับจุดจบเรื่องราวของตัวเองใน Avengers: Endgame (2019) ดังนั้น ตอนนี้ Chris Hemsworth ได้กลายเป็นนักแสดงคนแรกของจักรวาล MCU ที่มีภาพยนตร์เดี่ยวเรื่องที่ 4 เป็นของตัวเอง เนื่องจากในภาคที่ 3 อย่าง Thor: Ragnarok (2017) ผู้กำกับ Taika Waititi ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และสร้างรากฐานใหม่ จนภาค 3 ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล และมันเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ทาง Marvel Studios ตัดสินใจเดินหน้าต่อไปยังภาคที่ 4 สุดท้ายโปรเจกต์ Thor: Love and Thunder ก็ได้เกิดขึ้นจริงๆ หลายคนยกย่องว่า Thor: Ragnarok (2017) ทำให้ตัวละคร Thor กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เป็นตัวละครที่ดูตลก อารมณ์ดี แต่ก็กำลังเผชิญกับปัญหาภายในจิตใจ และตอนนี้ Chris Hemsworth ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงเหตุผลที่เขากลับมารับบทนี้ ซึ่งดูเหมือนว่า ผู้กำกับ Taika Waititi จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาคนี้เกิดขึ้น

3

ในวิดีโอใหม่ที่งาน Vanity Fair Chris Hemsworth ได้กล่าวถึงอาชีพของเขาและพูดคุยสั้นๆ เกี่ยวกับตัวละคร Thor ว่ามีผลกระทบอย่างไรต่อชีวิตของเขา เขายอมรับว่า เขาไม่พอใจกับการแสดงของตัวเองใน Thor: The Dark World (2013) และเมื่อได้พบกับผู้กำกับ Taika Waititi ใน Thor: Ragnarok (2017) ทุกอย่างก็ได้เปลี่ยนไป เขาเคยบอกกับ Taika ว่าเขาเบื่อกับตัวละครตัวนี้ และ Taika ก็เห็นด้วยกับเขา จากนั้นทั้งสองจึงได้ทำงานร่วมกันเพื่อชุบชีวิต Thor ขึ้นมาใหม่ แต่หลังจากจบภาค 3 ตัวของ Chris Hemsworth เคยออกมาบอกว่าเขาลังเลที่จะกลับมาในภาค 4 แต่มีหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เขากลับมา โดยเขาได้อธิบายให้ฟังว่า

ผมรักการที่จะแสดงเป็นตัวละครตัวนี้ ผมรักการเดินทางที่ผมเคยทำร่วมกับเขา ไม่ใช่แค่ในฐานะ Thor แต่มันคือชีวิตของผม ทั้งชีวิตของผม และ Thor เติบโตมาเคียงข้างกันในช่วง 10-11 ปี ที่ผ่านมา และทั้งสองก็ได้ข้ามผ่านเข้ามารวมอยู่ในโลกเดียวกันบ้างเป็นครั้งคราว

การได้ร่วมงานกับ Taika Waititi อีกครั้ง ผมไม่รู้เหมือนกันว่า ผมจะกลับมารับบทนี้อีกไหม ถ้าหาก Taika ไม่เอาด้วย เขากำลังจะทำมันและเขาได้เขียนบทที่สวยงามนี้ออกมา ซึ่งเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด บ้า โรแมนติก คอมเมดี้ โดยเรื่องราวตั้งอยู่ในอวกาศอันกว้างใหญ่ และมันเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

2

เป็นที่เข้าใจได้ว่า Chris Hemsworth ต้องการร่วมงานกับ Taika Waititi อีกครั้ง หลังจากประสบการณ์ที่ดีที่ทั้งคู่มีร่วมกันใน Thor: Ragnarok (2017) ย้อนกลับไปในปี 2013 ในตอนที่ภาคที่ 2 อย่าง Thor: The Dark World ได้เปิดตัวออกมาสู่สายตาผู้ชมครั้งแรก ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับการเยาะเย้ย และการวิจารณ์ในแง่ลบจำนวนมาก แถมยังถูกยกให้เห็นภาพยนตร์ที่ห่วยที่สุดในจักรวาล MCU จวบจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังคงไม่มีเรื่องไหนในจักรวาล MCU ที่ห่วยไปกว่าเรื่องนี้แล้ว แม้ว่า Chris Hemsworth จะได้รับการยกย่องในเรื่องการแสดงของเขาในบท Thor แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ภาพรวมของ Thor: The Dark World (2013) ดีขึ้น เนื่องจากเรื่องนี้มีปัญหาในหลายด้าน ทั้งโครงเรื่องไม่น่าสนใจ การดำเนินเรื่องที่ไปไม่สุด ค้างคา โชคยังดีที่ ผู้กำกับ Taika Waititi สามารถกอบกู้แฟรนไชส์นี้ให้กลับมาแข็งแกร่งได้ และช่วยให้ผู้ชมหลงรักตัวละครของ Chris Hemsworth มากขึ้น

ผู้กำกับ Taika Waititi ได้ทำให้ตัวละคร Thor กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง โดยใน Thor: Ragnarok (2017) Thor ได้ค้นพบกับพลังที่แท้จริงของเขา และได้สร้างสายสัมพันธ์ใหม่กับน้องชายของเขา Loki (รับบทโดย Tom Hiddleston) และในตอนจบ Thor ยังได้ถูกวางตัวให้เป็นราชาคนใหม่ของแอสการ์ดอีกด้วย โดยในตอนจบของ Thor: Ragnarok (2017) คือ Thor กำลังพาทุกคนขึ้นยานและท่องออกอวกาศ เพื่อเดินทางไปหาที่ตั้งใหม่ของแอสการ์ด ทว่าในตอนต้นเรื่องของ Avengers: Infinity War (2018) ระหว่างที่ Thor และชาวแอสการ์ดกำลังเดินทาง พวกเขาได้บังเอิญไปเจอกับยานของ Thanos (รับบทโดย Josh Brolin) และ Thanos ก็ได้โจมตียานของชาวแอสการ์ดจนชาวแอสการ์ดเสียชีวิตเกือบทั้งหมด รวมถึง Loki ก็เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้เช่นกัน สิ่งนี้ทำให้ Thor โกรธแค้น Thanos เป็นอย่างมาก แต่ทุกอย่างก็คลี่คลายใน Avengers: Endgame (2019) ดังนั้น ในภาพยนตร์ Thor: Love and Thunder เราจะได้เห็น Thor ในช่วงชีวิตที่กำลังอิ่มตัวในการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ หลังจากที่เขาได้ผ่านเรื่องราวและความสูญเสียมามากมาย นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังอาจเป็นจุดจบของตัวละครตัวนี้อีกด้วย Thor: Love and Thunder มีกำหนดการฉายในบ้านเราวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

ที่มา: Screen Rant
ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ เพราะหนังให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด
1 ความคิดเห็น
NEKO
Eating your own dog food

ถ้าภาคนี้เป็นภาคจบ ขอแบบตราตรึงใจเลยนะ ให้เหมือนกัปตันหรือไอร่อนแมน


คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้

poster

Chris Hemsworth

คริส เฮมส์เวิร์ธ

รู้จักกันในฐานะ

นักแสดง

วันเกิด

11-08-1983 (40 ปี)

เพศ

ผู้ชาย

สถานที่เกิด

Melbourne, Victoria, Australia


การแสดง
  1. Transformers One

    Orion Pax / Optimus Prime (voice)

    Arnold & Sly: Rivals, Friends, Icons

    Self (archive footage) (uncredited)

  2. Extraction 2

    Tyler Rake

แสดงข้อมูลเพิ่มเติม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวจัดอันดับ

ประจำเดือนนี้