Thor: Love and Thunder คือภาพยนตร์เดี่ยวเรื่องที่ 4 ของตัวละคร Thor (รับบทโดย Chris Hemsworth) เทพเจ้าสายฟ้าแห่งจักรวาล Marvel Cinematic Universe (MCU) ซึ่งเปิดตัวออกมาเมื่อปี 2022 แต่กลับได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก ล่าสุด Hemsworth ได้ออกมายอมรับแล้วว่าเขาเองก็คิดว่าภาคนี้ติดตลกและไร้สาระเกินไป

เมื่อไม่นานมานี้ Chris Hemsworth เพิ่งได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสาร GQ เพื่อพูดคุยเส้นทางอาชีพนักแสดงของเขา และในระหว่างการพูดคุยกัน นักแสดงหนุ่มได้ยอมรับออกมาตามตรงว่าแม้แต่เพื่อนของลูกๆ เขาที่เป็นเด็กตัวเล็กๆ ยังวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าไม่สนุก พร้อมกับยอมรับว่าภาคนี้ติดตลกมากเกินไปจริงๆ โดยเขาได้กล่าวว่า

มีกลุ่มเด็กอายุ 8 ขวบ วิจารณ์ภาพยนตร์ของผม เราคิดว่าเรื่องนี้มีอารมณ์ขันมากเกินไป แอ็กชันก็เจ๋งดีแหละ แต่งานวิชวลเอฟเฟกต์ไม่ดีเท่าที่ควร ผมรู้สึกอายและหัวเราะเยาะมันเหมือนพวกคุณ ผมคิดว่าเราติดตลกมากเกินไป มันแค่งี่เง่าเกินไป มันยากเสมอที่จะอยู่ตรงกลางของมันและมีมุมมองที่แท้จริง… ผมชอบกระบวนการนี้นะ มันเป็นเหมือนการเดินทางเสมอ เพียงแต่คุณจะไม่รู้ว่าผู้คนจะตอบสนองต่อมันอย่างไร

สำหรับคนที่เคยดูภาพยนตร์ Thor มาครบทุกภาคแล้วก็คงจะรู้กันดีว่า ภาพยนตร์ 2 ภาคแรกนั้นไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากเท่าใดนัก จนกระทั่งในภาคที่ 3 อย่าง Thor: Ragnarok (2017) ที่ได้มีการเปลี่ยนผู้กำกับมาเป็น Taika Waititi ซึ่งได้ทำการเปลี่ยนสไตล์ภาพยนตร์ไปอย่างสิ้นเชิงและประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์ ด้วยเหตุนี้ทางสตูดิโอจึงเปิดไฟเขียวให้ Waititi กำกับต่อในภาคที่ 4 ทว่ามันกลับไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนภาคที่ 3 จึงไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้ Chris Hemsworth จะเคยออกมากล่าวในรายการพอดแคสต์ Happy, Sad, Confused ว่าเขาคิดว่าอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนสไตล์อีกครั้งหาก Marvel ต้องการสร้างภาพยนตร์ Thor เรื่องต่อไป โดยเขาได้กล่าวว่า

ผมหมายถึง ถ้าคุณได้ดู Thor 1 และ 2 พวกมันมีความคล้ายคลึงกัน รวมไปถึง Ragnarok และ Love and Thunder ก็มีความคล้ายคลึงกัน ผมคิดว่ามันเป็นเพียงการคิดค้นมันขึ้นมาใหม่ และผมก็ได้รับโอกาสที่ไม่เหมือนใคร แม้แต่กับ Avengers: Infinity War และ Endgame ก็ทำสิ่งที่รุนแรงกับตัวละครตัวนี้ [เป็นอีกสไตล์หนึ่ง] ผมสนุกกับมัน ผมชอบให้คนอื่นคอยควบคุมดูแล คอยช่วยเหลือผม ทำให้ผมทุ่มเท และผมก็เคยพูดแบบนี้มาก่อนแล้ว เมื่อเราคุ้นเคยกับมันมากเกินไป ผมคิดว่ามันมีความเสี่ยงที่จะทำให้ขี้เกียจ ผมคิดว่า “อ่า ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไร” เอาเป็นว่า ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้รับเชิญให้กลับมาไหม แต่ถ้าเป็นผม ผมคิดว่ามันต้องเป็นเวอร์ชันที่แตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างมาก ทั้งโทนเรื่อง และทุกๆ อย่าง เพียงเพื่อให้ผมไม่ขี้เกียจ [หัวเราะ]