ปัจจุบันนี้การประท้วงของสมาคมนักเขียนแห่งอเมริกา (Writers Guild of America: WGA) และสมาคมนักแสดงแห่งอเมริกา (The Screen Actors Guild – American Federation of Television and Radio Artists: SAG-AFTRA) ยังคงดำเนินต่อไปและไม่มีวี่แววว่าจะสิ้นสุดลงในเร็วๆ นี้ ซึ่งการประท้วงนี้ได้ส่งผลให้การทำงานเกือบทั้งหมดในฮอลลีวูดต้องหยุดชะงัก แต่ดูเหมือนว่าจะมีข่าวดี เนื่องจากล่าสุด Bob Iger ประธานใหญ่ของ Disney ได้ออกมาบอกว่าเขาจะหาทางเพื่อยุติการประท้วงให้จบลงโดยเร็ว

ปัจจุบันนี้สถานการณ์โดยรอบการนัดหยุดงานยังคงรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น อาทิ ข่าวลือที่ว่า Disney จะนำปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อว่า AI เข้ามาใช้อย่างจริงจัง ทั้งที่ต้นเหตุของการประท้วงครั้งนี้คือการออกมาเรียกร้องเรื่อง AI เนี่ยแหละ หรือแม้แต่บทสัมภาษณ์ของ Iger เมื่อเดือนก่อนที่ออกมาบอกว่าต้นเหตุของการประท้วงครั้งนี้ “ไม่มีน้ำหนัก” ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การประท้วงรุนแรงขึ้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า Iger จะเริ่มรู้แล้วว่าสิ่งที่เขาควรทำคืออะไร เพราะเมื่อวันพุธที่ผ่านมาในระหว่างการรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสของ Disney เขาได้ออกมากล่าวว่าเขา “มีความมุ่งมั่นเป็นการส่วนตัว” ที่จะหาทางออกเพื่อให้การประท้วงยุติลงโดยเร็ว

เมื่อพูดถึงเนื้อหาที่เราสร้างขึ้น ผมอยากจะพูด 2-3 คำเกี่ยวกับการนัดหยุดงานที่กำลังดำเนินอยู่ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าบริษัทนี้อีกแล้ว และความสัมพันธ์กับชุมชนนักสร้างสรรค์ ได้แก่ นักแสดง นักเขียน แอนิเมเตอร์ ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์ พวกเขาถือเป็นส่วนสำคัญ ผมเคารพและขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อทุกคนที่มีส่วนสำคัญต่อสร้างสรรค์ที่ไม่ธรรมดาที่ขับเคลื่อนบริษัทนี้และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของเรา ผมมีความหวังอย่างแรงกล้าที่จะหาทางแก้ไขปัญหาที่ทำให้เราห่างกันในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาโดยเร็ว และผมมีความมุ่งมั่นเป็นการส่วนตัวที่จะบรรลุผลลัพธ์นี้

การที่ Bob Iger ออกมาพูดแบบนี้ถือเป็นข่าวที่ดีมากๆ เพราะอย่าลืมว่า Disney คือสตูดิโอภาพยนตร์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งหากท้ายที่สุดแล้ว Disney ตัดสินใจยอมลงไปพูดคุยเจรจาและหาทางยุติกับเหล่าผู้ประท้วงได้อย่างลงตัว ก็จะทำให้มีแนวโน้มที่เหล่าสตูดิโอยักษ์ใหญ่เจ้าอื่นๆ จะเดินรอยตาม Disney เพื่อให้การประท้วงในครั้งนี้ยุติลง และถ้าให้พูดกันตามตรง การประท้วงในครั้งนี้มันไม่ส่งผลดีต่อใครเลย ไม่ว่าจะกับสตูดิโอ คนทำงาน หรือแม้แต่ผู้ชม ขนาดการประท้วงเพิ่งเริ่มขึ้นได้ไม่นานยังส่งผลให้โปรเจกต์ภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่องต้องล่าช้ากันไปเกือบหมด ซึ่งแน่นอนว่าหากการประท้วงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ สตูดิโอเองก็จะถูกวิพากย์วิจารณ์ แถมยังไม่สามารถสร้างงานใหม่ๆ ออกมาขายได้อีก สิ่งที่จะตามมาคือหุ้นบริษัทก็จะตกไปตามๆ กัน ส่วนผู้ชมอย่างเราๆ ก็จะต้องปาดน้ำตาเพราะไม่มีอะไรจะดู ภาพยนตร์และซีรีส์ที่เรารอกันมานานหลายปีเราก็จะต้องรอนานไปมากกว่าเดิมอีก อย่างไรก็ตาม คำพูดก็เป็นเพียงคำพูด สุดท้ายแล้วต้องรอดูกันต่อไปว่า Iger จะทำได้อย่างที่พูดหรือไม่ คงต้องรอติดตามกันต่อไป