The Flash ถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ยักษ์ล้มประจำปีนี้ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จาก Warner Bros. Pictures เรื่องนี้เปิดตัวออกมาครั้งแรกเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แม้ว่าตัวภาพยนตร์จะได้รับกระแสที่ดีก่อนการฉาย แต่เมื่อเข้าฉายจริงกลับทำรายได้ได้น้อยกว่าที่คาดไว้มาก และดูเหมือนว่าจะยังคงไม่ดีขึ้น เนื่องจากล่าสุด The Flash ได้หลุดจาก 10 อันดับแรกของตารางบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาแล้ว

ตามรายงานล่าสุดได้ระบุว่าในสัปดาห์ที่ 4 ของการเปิดตัว The Flash ทำรายได้ในอเมริกาไปได้เพียง 2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ซึ่งลดลงจากสัปดาห์ที่ 3 ถึง 58% ปัจจุบันนี้มีรายได้รวมในอเมริกาอยู่ที่ 105 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ย้อนกลับไปเมื่อกลางเดือนก่อน The Flash เปิดตัวสัปดาห์แรกในอเมริกาเป็นอันดับ 1 ด้วยรายได้เพียง 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 4,234 โรง จากนั้นก็ร่วงลงมาเป็นอันดับที่ 3 ในสัปดาห์ที่ 2 ด้วยรายได้ 15.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากสัปดาห์แรก 72% และลงต่ำกว่าเดิมไปอยู่อันดับ 8 ในสัปดาห์ที่ 3 ด้วยรายได้อันน้อยนิดเพียง 5.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากสัปดาห์ที่ 2 ถึง 65% แถมโรงภาพยนตร์ที่เข้าฉายก็น้อยลงอย่างมากเหลือเพียง 1,723 โรง โดยทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงแค่เพียง 1,286 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ซึ่งจากรายได้ในสัปดาห์ที่ 4 ที่ออกมานี้ ถือเป็นสิ่งที่ย้ำชัดเจนแล้วว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คงไปไม่รอด และน่าจะจบลงด้วยการขาดทุนมหาศาล คงต้องรอติดตามกันต่อไปว่าทางสตูดิโอจะมีแนวทางอย่างไรต่อในอนาคต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขาดทุนแบบนี้อีก

ภาพยนตร์ 10 อันดับแรกบนบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาประจำสุดสัปดาห์ที่ 7-9 ก.ค. 2023

1. Insidious: The Red Door รายได้ 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
2. Indiana Jones and the Dial of Destiny รายได้ 27.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
3. Sound of Freedom รายได้ 19.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
4. Elemental รายได้ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
5. Spider-Man: Across the Spider-Verse รายได้ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
6. Joy Ride รายได้ 5.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
7. No Hard Feelings รายได้ 5.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
8. Transformers: Rise of the Beasts รายได้ 5.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
9. The Little Mermaid รายได้ 3.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
10. Ruby Gillman, Teenage Kraken รายได้ 2.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ