Christopher Nolan ถือเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่โด่งดังและได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งในโลกใบนี้ ผลงานการกำกับส่วนใหญ่ของเขาล้วนแล้วแต่เป็นผลงานระดับขึ้นหิ้ง อาทิ ไตรภาค The Dark Knight, Inception (2010) และ Interstellar (2014) เป็นต้น ก่อนหน้านี้เขาจะสร้างภาพยนตร์ภายใต้สตูดิโอ Warner Bros. Pictures เป็นหลัก ก่อนที่ภายหลังจะทะเลาะและแยกทางกันในปี 2021 จนตอนนี้ Nolan ได้ย้ายไปอยู่กับ Universal Pictures แต่ดูเหมือนว่าทาง Warner Bros. จะกลับมาง้อยอดผู้กำกับคนนี้อีกครั้ง เนื่องจากล่าสุดประธานของ Warner Bros. ได้ออกมากล่าวว่าพวกเขาต้องการดึงตัว Nolan กลับมา

ตามรายงานล่าสุดจาก Variety ได้ระบุว่า Michael De Luca และ Pam Abdy ซีอีโอร่วมของ Warner Bros. Film Group ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาเป็นหัวหอกในการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ในสตูดิโอตั้งแต่การล็อคตัวและการแสดงความเคารพต่อศิลปินให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา และยังเน้นไปที่การทำให้ภาพยนตร์สามารถยืนระยะฉายในโรงภาพยนตร์ให้นานขึ้น ไปจนถึงการตลาดต่างๆ มากมายเพื่อสร้างกระแสให้กับภาพยนตร์ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือพวกเขาได้กล่าวว่าทางสตูดิโอต้องการที่จะแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับ Christopher Nolan อดีตผู้กำกับมือรางวัลที่เคยดูแลโปรเจกต์ฟอร์มยักษ์มากมายให้กับสตูดิโอ

ในอดีต Christopher Nolan เคยทำงานร่วมกับสตูดิโอ Warner Bros. Pictures มายาวนานกว่า 20 ปี ซึ่งเขาได้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมามากมาย ได้แก่ ภาพยนตร์ไตรภาค The Dark Knight, Inception (2010) และ Tenet (2021) ผลงานสุดท้ายก่อนที่เขาจะออกจากสตูดิโอ สายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของพวกเขากลับพังทลายลงเมื่อ Warner Bros. เริ่มเปลี่ยนกลยุทธ์การเปิดตัวภาพยนตร์ในช่วงที่เกิดการระบาดของ Covid-19 ด้วยการนำภาพยนตร๋จำนวนมากที่เดิมทีมีแผนจะฉายในโรงภาพยนตร์เปลี่ยนไปฉายผ่านมางแพลตฟอร์มสตรีมมิง HBO Max ซึ่งหนึ่งในภาพยนตร์ที่โดนไปด้วยก็คือ Tenet (2021) สิ่งนี้ทำให้ Nolan ไม่พอใจเป็นอย่างมากจนต้องขอถอนตัวออกไป และท้ายที่สุดเขาก็ได้ย้ายไปอยู่กับ Universal Pictures แทน โดยในปลายปีนี้เขากำลังจะเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่ผลิตภายใต้สตูดิโอ Universal ได้แก่ Oppenheimer อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูกันต่อไปว่าท้ายที่สุดแล้ว Nolan จะยอมกลับไปอยู่กับ Warner Bros. หรือไม่ แต่บอกตามตรงว่ามีโอกาสน้อยมากที่เขาจะกลับไป