Godzilla Minus One ของสตูดิโอ TOHO ได้กวาดความสำเร็จครั้งใหญ่กลับไปหลังจากเปิดตัวออกมาเมื่อปลายปีก่อน และจากคุณภาพของผลงานที่ออกมาดีเกินคาดนั้นก็ได้ทำให้มีหลายคนสงสัยกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีงบประมาณการสร้างเท่าไหร่ แต่จนถึงตอนนี้ตัวเลขต้นทุนก็ยังคงถูกปกปิดเอาไว้ ซึ่งล่าสุดผู้กำกับได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่าทำไมมันจึงถูกปิดเป็นความลับ

ก่อนหน้านี้ได้เคยมีข่าวลือออกมาว่า Godzilla Minus One ได้ถูกผลิตขึ้นด้วยงบประมาณที่น้อยกว่าคุณภาพของผลงานวิชวลเอฟเฟกต์ที่ออกมา มีการคาดเดาเอาไว้ว่าน่าจะมีงบประมาณอยู่ที่ 10-15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรืออาจจะน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ) และหากถามว่างานวิชวลเอฟเฟกต์ออกมาดีแค่ไหน มันก็ดีมากพอจะส่งให้ Godzilla Minus One ได้เข้าชิงออสการ์ในสาขาวิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม (Best Visual Effects) จึงไม่แปลกเลยที่หลายๆ คนจะอยากรู้กันว่าแท้จริงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้งบประมาณการสร้างไปเท่าไหร่กันแน่ ซึ่งล่าสุด Takashi Yamazaki ผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้ออกมาเปิดเผยกับทาง Deadline แล้วว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจไม่เปิดเผยตัวเลขงบประมาณการสร้าง โดยเขาได้กล่าวว่า

ถ้าบอกไปทุกคนก็คงอยากให้ผมสร้างหนังด้วยตัวเลขนั้น!

แต่ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะผู้กำกับ Yamazaki ยังได้ถูกถามอีกว่าเขารู้สึกอย่างไรที่ Godzilla Minus One ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาวิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม (Best Visual Effects) เคียงข้างกับ Oppenheimer ของผู้กำกับ Christopher Nolan ซึ่งผู้กำกับได้เผยว่าเขาคิดว่า Godzilla Minus One ของเขาและ Oppenheimer นั้นมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือมันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสงคราม โดยเขาได้กล่าวว่า

มันน่าสนใจ เพราะโลกแตกต่างไปอย่างมากตอนที่เราเริ่มพัฒนาภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่เมื่อเราเข้าสู่ขั้นตอนหลังการถ่ายทำ (Post-Production) และเราเริ่มสร้างวิชวลเอฟเฟกต์ มีเกือบทุกทิศทางที่เรารู้สึกว่าโลกกำลังมุ่งหน้าไป และผมคิดว่าทุกคนก็รู้สึกแบบนั้นในระดับหนึ่งว่าเรากำลังเข้าใกล้สงครามมากขึ้นเรื่อยๆ

และบางทีนั่นอาจเป็นปรากฏการณ์เดียวกันกับที่เกิดขึ้นกับ Oppenheimer และภาพยนตร์ 5 อันดับแรกในญี่ปุ่นก็เกี่ยวข้องกับสงครามไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หรือหลังสงครามในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นแอนิเมชัน อานิเมะ หรือไลฟ์แอ็กชัน ดังนั้น ผมอยากจะบอกว่ามันมีบรรยากาศที่แปลกประหลาดมาก และเมื่อคุณดูภาพยนตรเรื่องต่างๆ ทั่วโลก ผมคิดว่าบางทีผู้สร้างภาพยนตร์และครีเอทีฟอาจรู้สึกอะไรบางอย่าง และพวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องแสดงเรื่องนี้ออกมา (หมายถึงบรรยากาศอันโหดร้ายของสงคราม)