สมาชิก
เจมส์ คาเมรอน
รู้จักกันในฐานะ
ผู้กำกับ
เพศ
ผู้ชาย
วันเกิด
16-08-1954 (69 ปี)
สถานที่เกิด
Kapuskasing, Ontario, Canada
James Cameron was born in Kapuskasing, Ontario, Canada, on August 16, 1954. He moved to the USA in 1971. The son of an engineer, he majored in physics at California State University but, after graduating, drove a truck to support his screen-writing ambition. He landed his first professional film job as art director, miniature-set builder, and process-projection supervisor on Roger Corman's Battle Beyond the Stars (1980) and debuted as a director with Piranha Part Two: The Spawning (1981) the following year. In 1984, he wrote and directed The Terminator (1984), a futuristic action-thriller starring Arnold Schwarzenegger, Michael Biehn, and Linda Hamilton. It was a huge success. After this came a string of successful science-fiction action films such as Aliens (1986) and Terminator 2: Judgment Day (1991). Cameron is now one of the most sought-after directors in Hollywood. He was formerly married to producer Gale Anne Hurd, who produced several of his films. He married Kathryn Bigelow in 1989.
Avatar: The Way of Water ที่ออกฉายไปแล้วทั่วโลก แต่ James Cameron และ Jon Landau ต้องการให้แน่ใจว่าการกลับมาในโลกสีฟ้าของพวกเขาจะไม่สูญเปล่า พวกเขายังได้มีการประกาศภาคต่ออีก 3 ภาคควบคู่ไปกับการผลิต The Way of Water ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ในภาคที่ 3 ของซีรีส์นี้ได้ถ่ายทำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมจำนวนมากและอยากที่จะรู้ว่าพวกเราจะได้เห็นอะไรต่อจากนี้บ้าง
Avatar: The Way of Water ของ James Cameron ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งนักวิจารณ์และแฟนๆ ด้วยการเป็นโปรเจกต์ที่ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำตัวละครดั้งเดิมกลับมา รวมทั้งตัวละครของ Sigourney Weaver ที่เสียชีวิตในภาพยนตร์เรื่องแรกด้วย และแฟนๆ ส่วนหนึ่งก็คิดว่าตัวละครของเธอมีความคล้ายคลึงกันกับพระเจ้าของชาวนาวี ซึ่งล่าสุดนักเขียนบทได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้
แม้ว่าภาคต่ออย่าง Avatar: The Way of Water จะออกฉายหลังจาก Avatar (2009) ภาคแรกมานานกว่าทศวรรษ แต่ทีมผู้สร้างก็มีแผนการที่ทะเยอทะยานสำหรับอนาคตของแฟรนไชส์ โดยจะมีภาคต่อที่ตามมา ซึ่งก็มีขั้นตอนการพัฒนาที่หลากหลาย และการสัมภาษณ์ล่าสุดผู้เขียนบทก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวของ Avatar 3 ในอนาคตแล้ว
Avatar: The Way of Water เปิดตัวออกมาในโรงภาพยนตร์เมื่อสัปดาห์ก่อน และดูเหมือนว่าภาคต่อของผู้กำกับ James Cameron ที่แฟนๆ รอคอยกันมานานกว่า 13 ปี เรื่องนี้จะยังคงได้รับความนิยมจากผู้ชมจำนวนมาก เนื่องจากล่าสุดภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำรายได้ทั่วโลกได้ทะลุ 600 ล้านดอลลาร์ อย่างเป็นทางการแล้ว
เมื่อมีการประกาศว่า Stephen Lang จะกลับมาในแฟรนไชส์ Avatar หลายๆ คนก็ต่างคาดเดาว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ Quaritch ผู้ที่ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จะเริ่มต้นการไถ่ถอนตัวเอง และการกลับมาของเขาในร่าง Avatar ที่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับใครหลายคน ที่สำคัญเขายังได้รับการแนะนำจากภาคแรกว่าเป็นบุคคลที่ไร้ซึ่งความสำนึกผิดต่อการสังหารชาว Na’vi จำนวนมากอีกด้วย
ยังคงแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับ Avatar: The Way of Water ที่เพิ่งเข้าฉายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภาพยนตร์ที่สานต่อโลกของ James Cameron ยังคงครองตำแหน่งบ็อกซ์ออฟฟิศอยู่ การนำสมาชิกนักแสดงใหม่จำนวนหนึ่งเข้าสู่วงโคจรร่วมกับนักแสดงเก่าที่เราคุ้นเคยเป็นอะไรที่ลงตัวอย่างมาก ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีว่าตัวละครชาวนาวีที่เป็นเอกลักษณ์มักจะถูกนำมาใช้เล่นกันในโลกโซเชียลมีเดียมาเสมอ และล่าสุดเชฟทำอาหารและดาราโทรทัศน์ชื่อดังอย่าง Guy Fieri ก็เอากับเขาด้วย
ถึงแม้ว่าภาพยนตร์ Avatar: The Way of Water จะยังคงมีรายได้น้อยกว่าาที่คาดการณ์ แต่ก็ยังทำลายสถิติของ Box Office ในหลายๆ รายการ และขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์อันดับ 1 ในตลาดภาพยนตร์ในหลายประเทศ ยกเว้นในประเทศญี่ปุ่นที่ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่อันดับที่ 2 นอกจากนี้ การกลับมาของ Avatar: The Way of Water ก็นับได้ว่าเป็นภาพยนตร์ Hollywood ที่มีอันดับการเปิดตัวทั่วโลกสูงสุดเป็นอันดับที่ 3 นับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19
Avatar: The Way of Water ได้เปิดตัวในโรงภาพยนตร์ไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากการเข้าฉายเพียงไม่กี่วัน ภาคต่อของผู้กำกับ James Cameron เรื่องนี้ก็กวาดรายได้ไปพอสมควรแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะมีนักแสดงในเรื่องอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าภาพยนตร์เพิ่งเข้าฉาย เนื่องจากล่าสุด Edie Falco นักแสดงผู้รับบทเป็นนายพล Frances Ardmore ได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอคิดว่าภาค 2 เข้าฉายไปนานแล้วและคิดว่าภาพยนตร์ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเธอถ่ายทำบทนี้ไปตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน
ในที่สุดการรอคอยของ Avatar: The Way of Water ก็สิ้นสุดลง เนื่องจากภาคต่อเรื่องนี้ได้เปิดตัวในโรงภาพยนตร์ไปแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าแฟรนไชส์นี้ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ เนื่องจากตอนนี้ Avatar: The Way of Water กวาดรายได้ในอเมริกาไปแล้วทั้งสิ้น 150 ล้านดอลลาร์ หลังจากการเข้าฉายเพียง 4 วัน
Avatar: The Way of Water ภาพยนตร์ภาคต่อที่แฟนๆ รอคอยได้เปิดตัวในโรงภาพยนตร์ไปแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากแฟนๆ จนตอนนี้ได้ทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาประจำสัปดาห์นี้อย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะทำรายได้ได้ต่ำกว่าที่คาดไว้ก็ตาม
เพลงที่ชื่อ “Nothing Is Lost (You Give Me Strength)” เป็นแทร็กความยาวกว่า 4 นาทีถูกนำเสนอในเอนด์เครดิตของ Avatar: The Way of the Water และถูกแชร์ลงสื่อหนึ่งวันก่อนที่ภาพยนตร์จะเข้าฉายในสหรัฐอเมริกา เพลงนี้ทำการแต่งและขับร้องโดย The Weeknd และอำนวยการสร้างโดย Swedish House Mafia ร่วมกับ Simon Franglen
Avatar: The Way of Water ภาพยนตร์ภาคต่อของผู้กำกับ James Cameron ได้ทำการเปิดตัวในอเมริกาแล้วในวันนี้ โดยได้มีทารฉายรอบพรีวิวก่อนแล้วในคืนวันพฤหัสบดีหรือเมื่อคืนนี้ ซึ่งปรากฎว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถกวาดรายได้ภายในคืนเดียวไปได้มากถึง 17 ล้านดอลลาร์
Avatar: The Way of Water ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกไปแล้ว 15.8 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ในตลาดภาพยนตร์ 15 แห่ง ทางด้าน Disney ยังคงต้องการให้ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับบริษัท และยังคงต้องการเงินจำนวนมหาศาลเพื่อมาชดเชยกับการใช้จ่ายที่ลงทุนไปของบริษัท
เป็นกระแสอย่างต่อเนื่องสำหรับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่เพิ่งเข้าฉายอย่าง Avatar: The Way of Water ของผู้กำกับ James Cameron ที่ได้ปล่อยของแบบเต็มที่เป็นเวลาฉายประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งถือเป็นเวลาที่ยาวนานสำหรับการฉายในโรงภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม แฟนๆ ส่วนใหญ่ที่มาชมก็เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ภาพที่ไม่เหมือนใครที่ผู้กำกับได้สร้างขึ้น และการพลาดช่วงเวลาสำคัญจึงเป็นสิ่งที่เดิมพันสูง ดังนั้น เราจะลุกไปเข้าห้องน้ำช่วงเวลาไหนจึงจะดีที่สุด?
Avatar: The Way of Water ที่เพิ่งเข้าฉายไปเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา ที่จะพาเรามุ่งหน้ากลับสู่ Pandora เพื่อพบกับการผจญภัยครั้งใหม่ ซึ่ง James Cameron ได้สร้างสรรค์ผลงานนี้ในภาคต่อ ซึ่งก็เป็นเวลานานถึง 13 ปี นานจนเราอาจหลงลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องแรก และเรื่องเกี่ยวกับตำนานชาว Na’vi ที่เกี่ยวข้องกับการทำความเข้าใจในภาคต่อที่กำลังดำเนินมานี้ ดังนั้นหากว่าใครที่ยังไม่ได้ดูและกำลังจะตีตั๋วเข้าชมในสุดสัปดาห์นี้ ต้องไม่พลาดบทความนี้เลยนะคะ