Avatar: The Way of Water ภาพยนตร์ภาคต่อของผู้กำกับ James Cameron ได้ทำการเปิดตัวในอเมริกาแล้วในวันนี้ โดยได้มีทารฉายรอบพรีวิวก่อนแล้วในคืนวันพฤหัสบดีหรือเมื่อคืนนี้ ซึ่งปรากฎว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถกวาดรายได้ภายในคืนเดียวไปได้มากถึง 17 ล้านดอลลาร์

ตามรายงานล่าสุดของ Deadline ได้มีการระบุว่า Avatar: The Way of Water ภาคต่อที่แฟนๆ รอคอยกันมานานถึง 13 ปี ได้กวาดรายได้ในอเมริกาจากการฉายรอบพรีวิวในคืนวานนี้ไปได้มากถึง 17 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับ Guardians of the Galaxy Vol. 2 (2017) ที่ทำเงินในการฉายพรีวิวได้ 17 ล้านดอลลาร์เท่ากัน แต่ยังคงเป็นรอง The Batman (2022) ของผู้กำกับ Matt Reeves ที่กวาดเงินไป 17.6 ล้านดอลลาร์ และยังคงห่างจาก Black Panther: Wakanda Forever (2022) ที่ทำรายได้รอบพรีวิวได้สูงถึง 28 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจากการฉายรอบพรีวิวนี้ไม่สามารถระบุความสำเร็จของภาพยนตร์ได้

แม้ว่ารายได้รอบพรีวิวของ Avatar: The Way of Water จะดูเป็นตัวเลขที่ไม่มากนัก แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้รับการคาดการณ์ว่าจะสามารถทำเงินได้มากขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงอย่างมาก โดยมีการคาดการณ์ว่าภาคต่อของผู้กำกับ James Cameron เรื่องนี้จะสามารถทำรายได้ในอเมริกามากกว่า 175 ล้านดอลลาร์ และนอกอเมริกา (ทุกประเทศทั่วโลก) ได้มากกว่า 350 ล้านดอลลาร์ ทำให้จะมีรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 525 ล้านดอลลาร์ ในช่วงสุดสัปดาห์แรกของการเปิดตัว (3 วันหลังเข้าฉาย) ซึ่งหากทำได้ตามที่คาดการณ์ไว้จริงๆ ก็มีโอกาสอย่างมากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะประสบความสำเร็จและไม่ขาดทุน

ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานออกมาว่า Avatar: The Way of Water ใช้งบประมาณการสร้างที่บานปลายไปมากถึง 400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากคำนวณแบบง่ายๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องทำรายได้มากถึง 800 ล้านดอลลาร์ถึงจะคืนทุน และหากอยากทำกำไรก็จำเป็นต้องทำเงินให้ได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และหากเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปีนี้อย่าง Top Gun: Maverick (2022) ที่ยืนระยะฉายในโรงอยู่นานหลายเดือนแต่ก็ยังทำเงินจากทั่วโลกไปได้แค่เพียง 1.49 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่สิ่งที่ต่างออกไปก็คือ Avatar: The Way of Water ได้เข้าฉายในช่วงท้ายปีที่เป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจโรงภาพยนตร์จะคึกคักเป็นพิเศษ แถมภาพยนตร์เรื่องนี้จะยังได้เข้าฉายในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่สำคัญในการทำเงิน ต่างจาก Top Gun: Maverick (2022) ที่ไม่ได้เข้าฉายในจีน ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะทะยานได้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์

แม้ว่า Avatar: The Way of Water จะได้เข้าฉายในประเทศจีน แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะทำเงินได้มหาศาล เนื่องจากในตอนนี้ประเทศจีนยังประสบปัญหากับการระบาดของโรค Covid-19 ทำให้มีการล็อกดาวน์เมืองหลายเมือง รวมถึงปิดโรงภาพยนตร์หลายแห่ง อย่างไรก็ตาม หากว่ามันไม่ประสบความสำเร็จดังที่ตั้งเป้าไว้จริงๆ ก็ดูเหมือนทีมผู้สร้างเองก็ได้เตรียมแผนการรอไว้แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ James Cameron ผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เคยออกมาเปิดเผยกับทางนิตยสาร Total Film ว่าเขาจะทำอย่างไรถ้า Avatar: The Way of Water ล้มเหลว โดยเขาได้กล่าวว่า

ตลาดอาจจะบอกเราว่ามันจะจบภายใน 3 เดือน หรือเราอาจจะจบได้แบบครึ่งๆ กลางๆ [ไม่ทำกำไร] นั่นจะหมายความว่า ‘โอเค มาจบเรื่องราวทั้งหมดในหนังเรื่องที่ 3 กันเถอะ อย่าไปต่อจนจบ’ ถ้าหากมันไม่ได้กำไร ตอนนี้เราอยู่ในโลกที่แตกต่างจากตอนที่ผมเขียนเรื่องนี้ มันคือหมัดหนึ่ง-สอง ซึ่งจากการแพร่ระบาด [ของ Covid-19] และระบบสตรีมมิง [ที่กำลังได้รับความนิยม] บางทีเราอาจจะเตือนผู้คนได้ว่าการไปโรงภาพยนตร์นั้นสำคัญอย่างไร หนังเรื่องนี้ทำแบบนั้นได้แน่นอน

Avatar: The Way of Water ฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์