ในที่สุดการรอคอยของ Avatar: The Way of Water ก็สิ้นสุดลง เนื่องจากภาคต่อเรื่องนี้ได้เปิดตัวในโรงภาพยนตร์ไปแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าแฟรนไชส์นี้ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ เนื่องจากตอนนี้ Avatar: The Way of Water กวาดรายได้ในอเมริกาไปแล้วทั้งสิ้น 150 ล้านดอลลาร์ หลังจากการเข้าฉายเพียง 4 วัน

ย้อนกลับไปในปี 2009 ตอนที่ Avatar ภาคแรกเปิดตัวออกมาในโรงภาพยนตร์และได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยสามารถกวาดรายได้มหาศาลและขึ้นเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลนับตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบัน Avatar ภาคแรกทำเงินไปทั้งสิ้น 2.9 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าภาคต่ออย่าง Avatar: The Way of Water จะห่างจากภาคแรกนานถึง 13 ปี แต่ดูเหมือนว่าผู้คนยังคงตื่นเต้นกับโลก Pandora เหมือนเคย และยังคงพร้อมที่จะติดตามเรื่องราวของแฟรนไชส์นี้ต่อไป ด้วยการกวาดรายได้ 3 วันแรกได้อย่างมหาศาล

Avatar: The Way of Water เปิดตัวในอเมริกาในวันศุกร์ที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งวันแรกของการฉาย ภาคต่อเรื่องนี้สามารถทำรายได้ในอเมริกาไป 53.2 ล้านดอลลาร์, วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม (44.32 ล้านดอลลาร์) และวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม (36.57 ล้านดอลาร์) ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศประจำสัปดาห์ของอเมริกาด้วยรายได้ 134.1 ล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่หมดเท่านั้นเพราะล่าสุดมีรายงานฉบับใหม่ออกมาว่าเมื่อวานนี้ (19 ธันวาคม 2022) ภาคต่อเรื่องนี้ทำรายได้ในอเมริกาเพิ่มได้อีก 16 ล้านดอลลาร์ ทำให้ตอนนี้มีรายได้รวมในอเมริกาอยู่ที่ 150.1 ล้านดอลลาร์ แค่รายได้ในประเทศก็ว่าเยอะแล้ว แต่ดูเหมือนว่า Avatar: The Way of Water จะได้รับความนิยมไปทั่วโลก เนื่องจากตอนนี้มีรายได้จากต่างประเทศ (ทุกประเทศยกเว้นอเมริกา) สูงถึง 307.6 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ตอนนี้มีรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 458.95 ล้านดอลลาร์

เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งมีรายงานออกมาว่า Avatar: The Way of Water ใช้งบประมาณการสร้างที่บานปลายไปมากถึง 460 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากคำนวณแบบง่ายๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องทำรายได้มากถึง 920 ล้านดอลลาร์ถึงจะคืนทุน และหากอยากทำกำไรก็จำเป็นต้องทำเงินให้ได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เป็นอย่างต่ำ และหากเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปีนี้อย่าง Top Gun: Maverick (2022) ที่ยืนระยะฉายในโรงอยู่นานหลายเดือนแต่ก็ยังทำเงินจากทั่วโลกไปได้แค่เพียง 1.49 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น ดังนั้น ความหวังที่จะโกยรายได้ให้ทะลุ 2 พันล้านดอลลาร์ แบบภาคแรกจึงดูเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็ไม่ได้หมายความเป็นไปไม่ได้ เพราะสิ่งที่ต่างออกไปก็คือ Avatar: The Way of Water ได้เข้าฉายในช่วงท้ายปีที่เป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจโรงภาพยนตร์จะคึกคักเป็นพิเศษ แถมภาพยนตร์เรื่องนี้จะยังได้เข้าฉายในประเทศจีนอีกด้วย ซึ่งเป็นตลาดภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญในการทำเงิน ต่างจาก Top Gun: Maverick (2022) ที่ไม่ได้เข้าฉายในจีน และจากรายได้ทั่วโลกในปัจุบันที่ใกล้ทะลุ 500 ล้านดอลลาร์หลังเข้าฉายเพียงไม่ก็วัน ทำให้ความหวังที่จะทะยานให้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์ เป็นเรื่องที่ไม่ใกล้เกินเอื้อมมากนัก คงต้องรอติดตามกันต่อไป

Avatar: The Way of Water ฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์