Ana de Armas ถือเป็นหนึ่งในนักแสดงดาวรุ่งพุ่งแรงที่โด่งดังเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากผลงานการแสดงของเธอในภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ Blade Runner 2049 (2017), Knives Out (2019) และ No Time to Die (2021) โดยหลังจากทำงานในฮอลลีวูดมานานหลายปี ล่าสุดนักแสดงสาวเพิ่งออกมาเปิดเผยว่าในอีกไม่นานนี้เธอกำลังจะได้กลายเป็นพลเมืองชาวอเมริกันอย่างเต็มตัว

เมื่อปีที่แล้วนับเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Ana de Armas เนื่องจากเธอได้ร่วมแสดงใน The Gray Man (2022) ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และ Blonde (2022) ที่ช่วยส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่ในปัจจุบันนี้เธอจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงเบอร์ต้นๆ ที่ผู้กำกับหลายคนนึกถึง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในระหว่างการปรากฎตัวของเธอในรายการ Saturday Night Live เธอได้เปิดเผยว่าเธอกำลังจะได้กลายเป็นพลเมืองอเมริกันในเร็วๆ นี้ พร้อมกับเปิดใจเกี่ยวกับอดีตของเธอและการเดินทางของเธอในการย้ายจากคิวบาไปยังสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เธอยังกล่าวถึงความน่ารักของ Robert De Niro ในตอนที่เธอได้ร่วมงานกับเขาใน Hands of Stone (2016) โดยเธอได้อธิบายว่า

ปีนี้เป็นปีที่มหัศจรรย์ ไม่เพียงแค่ฉันได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เท่านั้น แต่ในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า ฉันกำลังจะได้กลายเป็นพลเมืองอเมริกันอย่างเป็นทางการ ฉันภูมิใจที่ได้เป็นพลเมือง เพราะตอนที่ฉันย้ายมาที่นี่ ทุกคนต้อนรับฉันดีมาก

วันหนึ่งในกองถ่าย [Robert De Niro] บอกฉันว่า ‘ผมอาจจะไปคิวบาเร็วๆ นี้ ถ้าผมไป ผมจะไปทักทายครอบครัวของคุณ’ เขาขอเบอร์โทรศัพท์ฉันด้วย จนฉันลืมไปหมดแล้ว แล้ววันหนึ่งจู่ๆ ฉันได้รับโทรศัพท์จากพ่อ เขาตีโพยตีพายยกใหญ่ และฉันก็ถามว่า ‘พ่อเกิดอะไรขึ้น?’ และเขาก็พูดว่า ‘Robert De Niro เพิ่งมาเยี่ยมพ่อที่ทำงาน’ นั่นเป็นท่าทางที่ใจดีจริงๆ และฉันโชคดีมากที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงที่สนับสนุนฉันเต็มที่ พ่อของฉันภูมิใจในตัวฉันมาก และท่านคงภูมิใจที่ได้เห็นฉันยืนอยู่บนเวทีในวันนี้ ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ได้อยู่ที่นี่