ล่าสุด Netflix ผู้ให้บริการสตรีมมิงอันดับ 1 ของโลก ได้ออกมารายงานตัวเลขการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 พร้อมกับได้มีการออกมาเปิดเผยว่า ทางบริษัทได้สูญเสียผู้สมัครสมาชิกไปเกือบ 1 ล้านบัญชี ภายในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

มองย้อนกลับไปในปี 1998 ในตอนนั้น Netflix ยังไม่ใช่ผู้ให้บริการสตรีมมิงออนไลน์แบบทุกวันนี้ พวกเขาเป็นเพียงร้านเช่าวิดีโอที่มีแนวคิดแปลกใหม่กว่าร้านอื่นๆ ในยุคนั้น พวกเขาได้เปิดให้สมัครสมาชิกรายเดือนในราคาถูก และสามารถเช่าภาพยนตร์หรือซีรีส์กี่เรื่องก็ได้ ไม่จำกัดจำนวน แถมยังมีระบบการส่งดีวีดีให้ลูกค้าถึงบ้านผ่านทางไปรษณีย์อีกด้วย และนับตั้งแต่นั้นมา Netflix ก็ได้พัฒนาตัวเองเรื่อยมาจนได้กลายมาเป็นผู้บริการสตรีมมิงเจ้าใหญ่ มีการสร้างภาพยนตร์และซีรีส์เป็นของตัวเองมากมาย มีหลายเรื่องที่ได้รางวัลออสการ์ พวกเขาเปรียบเสมือนผู้ริเริ่มการให้บริการสตรีมมิงภาพยนตร์ จนปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ทำแบบเดียวกัน เช่น Disney ที่ได้เปิดตัวบริการสตรีมมิงของตัวเองอย่าง Disney+ หรือ HBO ที่เปิดตัว HBO Max นอกจากนี้การมาของระบบสตรีมมิง ก็เป็นปัจจัยที่นำไปสู่การล่มสลายของธุรกิจร้านเช่าวิดีโอ

นับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา Netflix ได้เพิ่มราคาการสมัครสมาชิกหลายครั้ง ซึ่งในปัจจุบันมีราคาแพ็คเกจพื้นฐานเริ่มต้นอยู่ที่ 15.49 ดอลลาร์สหรัฐ (568.17 บาท) แต่ในประเทศไทยราคาแพ็คเกจพื้นฐานคือ 279 บาท ส่วนแพ็คเกจสำหรับโทรศัพท์มือถือจะอยู่ที่ 99 บาท นอกจากราคาที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ Netflix ต้องเผชิญกับปัญหาสูญเสียผู้ใช้ ทั้งคู่แข่งที่แข็งแกร่ง และเพิ่มขึ้นมากมาย เช่น HBO Max, Prime Video และ Disney+ ต่างก็เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวทั้งสิ้น ทุกเจ้ามีลิขสิทธิ์และมีภาพยนตร์เป็นของตัวเอง แถมการมาของ Disney+ และ HBO Max ก็ได้ทำให้ภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่องของ Netflix ถูกดึงออกไป เพราะภาพยนตร์ของ Disney จะถูกถอดกลับไปอยู่ใน Disney+ และภาพยนตร์ของ Warner Bros. ก็จะถูกดึงกลับไปยัง HBO Max นอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว ยังมีอีกอย่าง คือภาพยนตร์และซีรีส์ที่ผลิตโดย Netflix ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ทำให้ผู้ใช้เริ่มจะเบื่อและรู้สึกไม่มีอะไรดู บวกกับค่าสมัครสมาชิกที่ถือว่าสูงกว่าเจ้าอื่นๆ ทำให้มีจำนวนผู้ใช้ลดลง โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Netflix ได้ออกมาเปิดเผยว่าพวกเขาสูญเสียสมาชิกไป 2 แสนคน และเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ไล่พนักงานออกอีก 150 คน โดยอ้างว่ารายได้เติบโตช้าและต้องเผชิญกับการสูญเสียสมาชิก จึงจำเป็นต้องลดต้นทุน

ล่าสุด Netflix ได้เปิดเผยยอดสมาชิกที่สูญหายไปในไตรมาสที่ผ่านมา ตามรายงานของ IndieWire ได้ระบุไว้ว่า Netflix รายงานการสูญเสียสมาชิกแบบชำระเงินไปทั้งหมด 970,000 ราย ใน 3 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จำนวนสมาชิกที่ลดลงในไตรมาสที่ 2 ก็ยังคงดีกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากในตอนแรก Netflix คาดการณ์ว่าบริษัทจะสูญเสียสมาชิกในไตรมาสนี้ถึง 2 ล้านบัญชี แม้ว่าสุดท้ายไตรมาสนี้จะจบลงด้วยการขาดทุน แต่ก็ถือว่า Netflix ทำได้ดี ที่ยังคงรักษาสมาชิกส่วนใหญ่ไว้ได้ โดยในปัจจุบัน Netflix มีจำนวนผู้สมัครสมาชิกทั้งหมด 220.67 ล้านบัญชีจากทั่วโลก

ดูเหมือนว่าในตอนนี้ Netflix มีแผนที่จะแก้ไขความผิดพลาดของบริษัท และคาดการณ์ว่าจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้น 1 ล้านบัญชี ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 ดูเหมือนว่ายักษ์ใหญ่แห่งการสตรีมมิงรายนี้จะเริ่มดำเนินการตามแผนแล้ว และเริ่มคำนึงถึงเรื่องราคาค่าสมัครสมาชิกที่สูงกว่าเจ้าอื่น ว่าอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้บริษัทขาดทุน ก่อนหน้านี้ ได้มีรายงานออกมาว่า Netflix ได้เริ่มการประชุมเชิงปฏิบัติการความร่วมมือกับ Microsoft เพื่อเปิดตัวแพ็คเกจใหม่ที่จะมีราคาถูกลงและเป็นมิตรมากขึ้น แต่ต้องทดแทนด้วยการมีโฆษณาคั่นระหว่างใช้งาน โดยวางแผนจะเปิดตัวแพ็คเกจนี้ในช่วงต้นปี 2023

แม้ว่าจะสูญเสียสมาชิกไปเป็นจำนวนมาก แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในปัจจุบันนี้ Netflix ยังคงมีความแข็งแกร่ง และยังเป็นฐานหลักสำหรับเนื้อหาที่เป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สุดในอุตสาหกรรมบันเทิง แถมยังมีซีรีส์ของตัวเองที่น่าจับตามองหลายเรื่อง เช่น Stranger Things, Squid Game, Cobra Kai และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนในด้านของภาพยนตร์ ในวันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคมนี้ ก็กำลังจะมีการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง The Gray Man ของ Joe และ Anthony Russo ผู้กำกับ 2 พี่น้องจาก Avengers: Endgame (2019) และหลังจากนั้นก็ยังมี Knives Out 2 ที่จะตามมาในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้น แม้ว่าในไตรมาสนี้ Netflix จะสูญเสียสมาชิกไปจำนวนมาก แต่ตัวเลขที่ออกมาก็ยังดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และยังพอมีเวลาเหลือพอที่จะให้พวกเขาได้แก้ไขสิ่งต่างๆ เพื่อจะได้กลับขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการสตรีมมิงอันดับ 1 อีกครั้ง