James Cameron พูดอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับโอกาสทางการเงินของ Avatar: The Way of Water ซึ่งจะเป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง Avatar ของเขาในปี 2009 โดยแฟรนไชน์นี้มีแผนที่จะสร้างทั้งหมด 5 ภาค

กว่าทศวรรษหลังจากที่มหากาพย์ไซไฟเรื่องแรกของ James Cameron ได้ขึ้นครองอันดับ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล James Cameron กำลังจะก้าวกระโดดครั้งใหญ่กับแฟรนไชส์นี้ด้วยภาคต่ออย่าง Avatar: The Way of Water ภาคต่อที่ห่างจากภาคแรกอย่าง Avatar (2009) นานถึง 13 ปี โดยมีกำหนดการฉายในบ้านเราวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

สำหรับแฟนๆ ผลงานของ James Cameron ความคิดของเขาในการสร้างภาพยนตร์ Avatar อีก 4 เรื่องที่ไม่มีใครเลียนแบบและแหวกแนวนั้นได้กลายเป็นความฝันที่เป็นจริง ภาพยนตร์ของเขาไม่ได้เป็นภาพยนตร์เฉพาะกลุ่ม ซึ่งเขาก็ได้พิสูจน์มาหลายครั้งแล้วว่าภาพยนตร์ของเขานั้นเข้าถึงผู้คนส่วนใหญ่ได้เสมอ และการที่คิดว่า Avatar: The Way of Water จะออกมาไม่ดีเท่าภาคเก่าก็เป็นเรื่องหน้าขำ หลายคนคิดว่ารู้สึกว่าเวลาที่ยาวนานได้ทำให้แฟนๆ ส่วนใหญ่ลืมเรื่องราวของ Avatar ไปแล้ว และคาดว่าภาคต่อจะต้องออกมาไม่ดีเหมือนเคย และการพูดคุยถึงประเด็นนี้ก็จะยังคงมีต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าที่ Avatar: The Way of Water จะเข้าฉายในเดือนธันวาคม ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครยืนยันว่าภาคต่อจะแย่จริงอย่างที่หลายคนคิดหรือไม่

ตามรายงานล่าสุดของ Slash Film ในการสัมภาษณ์ครั้งใหม่กับ Empire Magazine ผู้กำกับ James Cameron เรียกการตัดสินใจสร้างภาคต่อของ Avatar ทั้ง 4 ภาคว่า “ตัวอย่างของการทำธุรกิจที่โง่ที่สุดในประวัติศาสตร์” แถมเขายังเปิดเผยอีกว่า โปรเจกต์ใหญ่นี้มีโอกาสที่จะล้มเหลวอยู่เสมอ โดยผู้กำกับ James Cameron กล่าวว่า

ถ้าเราทำน้อยลง 20 เปอร์เซ็นต์หรือ 30 เปอร์เซ็นต์ เพียงเพราะว่าตลาดไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว (หมายถึงคนเริ่มไม่สนใจอยากดู Avatar) นั่นคงจะแย่

ส่วนพวกเกรียน นั้นไม่มีใครสนใจหรอก (อาจจะพูดถึงคนที่แอนตี้ Avatar) พวกเขาจำชื่อตัวละครไม่ได้ จำอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นในหนัง… จากนั้นพวกเขาก็จะดูอีกรอบ แล้วพูดว่า ‘โอเค โทษทีนะ เงียบๆ หน่อย! ฉันจะดู’ ผมก็เลยไม่ได้กังวลกับเรื่องนั้นเท่าไหร่

อาจดูแปลกที่ผู้กำกับ James Cameron ออกมายอมรับต่อสาธารณชนว่าแผน Avatar ของเขามีความเสี่ยงเพียงใด หากภาคต่อเรื่องแรกที่กำลังจะมาถึงทำผลงานได้ไม่ดีนัก ก็ยากที่จะบอกได้ชัดเจนว่าก้าวต่อไปของเขาจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์และตัวอย่างที่ออกมาของ Avatar: The Way of Water นั้นดูดีเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับกรณีของ Avatar ดั้งเดิม ที่ในตอนเปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 ที่ดึงดูดผู้คนมากมาย หลายคนไปดูเพียงเพราะอยากรู้ว่าปรากฎการทางภาพยนตร์ในครั้งนี้เป็นอย่างไร และการที่ James Cameron ผลักดันภาคต่อด้วยความทะเยอทะยาน โดยการสร้างเทคโนโลยีการจับภาพใต้น้ำขึ้นมาใหม่ สำหรับการถ่ายทำ Avatar: The Way of Water ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ฮือฮาและดึงดูดผู้ชมได้พอสมควร

ครั้งนี้นับเป็นอีกครั้ง ที่วิชวลเอฟเฟกต์ไม่ได้รับประกันว่าภาพยนตร์จะได้รับความนิยม ดังนั้น Avatar: The Way of Water จะต้องสร้างจุดเด่นบางอย่าง เพื่อดึงดูดผู้ชมทั่วโลก สุดท้ายแล้วในตอนนี้ ก็ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่าภาคต่อจะเป็นอย่างไร คนที่จะดึงศักยภาพที่แท้จริงของแฟรนไชส์ Avatar ออกมาได้ ก็คงมีแต่เพียง James Cameron เท่านั้นที่ทำได้ พวกเราทำได้เพียงรอพิสูจน์ว่าภาคต่อจะออกมาเป็นอย่างไร โดย Avatar: The Way of Water มีกำหนดการเข้าฉายในวันที่ 15 ธันวาคมนี้