Christian Bale อาจโบกมือลาสตูดิโิอ DC Films และเข้าร่วม Marvel Cinematic Universe (MCU) แต่ก่อนร่วมงานใน Thor: Love and Thunder (2022) เจ้าของบทบาท Dark Knight ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวย่อพวกนั้นหมายถึงอะไร และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองได้เข้าสู่ “จักรวาลภาพยนตร์” ใดๆ เลย

Bale เจ้าของรางวัลออสการ์บอกกับ Total Film ว่าเขา “ไม่ลังเลเลย” ที่จะรับบทบาทซูเปอร์ฮีโร่อีกครั้งหลังจากภาพยนตร์ไตรภาค Batman ของ Christopher Nolan

นั่นไม่ได้อยู่ในความคิดของผมเลย ผมอ่านมันแล้วทุกคนก็จะพูดประมาณว่า ‘โอ้ ดูนี่สิ! เขาเข้าสู่ MCU แล้ว!’ และผมก็พูดไปว่า ‘ผมทำอะไรลงไปนะ ผมไม่ได้เข้าจักรวาลอะไรเลย ขอบคุณมาก’ ผมแบบ 'MCU เหรอ ผมถึงกับต้องถามว่ามันคืออะไร

Bale รับบทเป็นจอมวายร้ายชื่อ Gorr the God Butcher ในภาพยนตร์ Thor: Love and Thunder (2022) แต่ผู้กำกับ Taika Waititi อธิบายว่าภาพยนตร์ที่ “บ้าระห่ำ” เรื่องนี้ไม่ได้สร้าง Gorr ออกมาให้ดูหน้ากลัวเกินความจำเป็นถึงแม้ว่าจากภาพที่ออกมารูปลักษณ์ของเขาจะดูน่ากลัวก็ตาม นอกจากนี้ Bale กล่าวต่อว่า

เห็นได้ชัดว่าตัวละครดังกล่าวมีลักษณะแบบพวกผีดูดเลือดพวกสัตว์ประหลาดอะไรพวกนั้น (Nosferatu) มันให้ความรู้สึกประมาณว่า ‘คุณรู้อยู่แล้วว่าตัวละครนั้นจะเป็นแบบไหน’ เพราะชื่อของมันชัดเจนมาก แต่ผมกลับทำเรื่องผิดพลาดเผลอใช้ Google เสิร์ชชื่อเขา และผมก็ตะโกน โอ้ ไม่นะ! ในคอมิกส์เขาวิ่งไปทั่วด้วยจีสตริงตลอดเวลา และผมก็คิดว่า ‘ทีมงานเลือกคนผิดแล้วล่ะ!’ แล้ว Taika ก็อธิบายและปัดเป่าความคิดต่างๆ ที่วิ่งวนในหัวออกไป แต่ผมก็คิดเสมอว่าเขาจะทำอะไรกับสิ่งนี้เพราะเราถ่ายทำกับบลูสกรีน (Bluescreen) เขาจะทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการในภายหลัง

Waititi และ Bale มีแผนจะใช้เพลงของ Kate Bush ซึ่งได้รับกระแสอีกครั้งจากซีรีส์ Stranger Things (2016) รวมถึงร่วมงานกับนักดนตรีอิเล็กทรอนิกส์สายทดลอง (Experimental) อย่าง Aphex Twin

Taika กับผมอยากได้ฉากเต้นรำแต่เรากลับไม่ได้ทำมัน แต่ Kate Bush ก็เป็นแรงบันดาลใจในงานที่พวกเราทำ ผมคิดว่า Taika รู้ว่าเขาจะไม่มีวันได้รับอนุญาตให้นำส่วนนั้นไปใส่ในภาพยนตร์ฉบับจริงแน่นอน ผมอยากจะบอกว่าสิ่งที่ผมดูบ่อยๆ ในการเตรียมตัวเพื่อบทนี้คือวิดีโอ Aphex Twin ของ ‘Come to Daddy’ แต่ผมไม่รู้นะว่ามันจะอยู่ในภาพยนตร์หรือเปล่า

Thor: Love and Thunder (2022) จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 8 กรกฎาคม 2022 Waititi ผู้เขียนบทและผู้กำกับกล่าวก่อนหน้านี้ว่านักแสดงในเรื่อง “คือการใส่ทุกสิ่งทุกอย่างลงไป ทุกความคิดและทุกแนวคิดที่ไร้สาระ ทุกมุขตลกหรือการแสดงแทนหรือตัวละคร เราใส่ทุกสิ่งทุกอย่างลงไปในภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆ” เสริมต่อว่า “ผมไม่สามารถมีความสุขกับมันไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว”