ความจริงอยู่ที่จุดเริ่มต้นมาตลอด! The Pale Blue Eye ความลึกลับเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมของความจริง
ทั้งหมดที่เราคิดว่ารู้เกี่ยวกับความลึกลับที่ถูกเก็บไว้สำหรับเราเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของโศกนาฎกรรมของความจริงทั้งหมด
ส่วนที่ดีที่สุดของ The Pale Blue Eye ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากฝีมือนักเขียนบท-ผู้กำกับ Scott Cooper ซึ่งกำลังสตรีมอยู่บน Netflix ขณะนี้
หลังจากที่นักสืบชื่อดังอย่าง Augustus Landor รับบทโดย Christian Bale และนักเรียนนายร้อย West Point Cadet Edgar Allan Poe รับบทโดย Harry Melling พยายามจะตัดสินคดีให้อยู่ในสายตาของกฎหมาย แต่เมื่อความจริงเริ่มปรากฎออกมาซึ่งในการสนทนาที่ยืดเยื้อระหว่างทั้งคู่มีทั้งชั้นเชิงของความเล่ห์เหลี่ยม และความลึกลับทั้งหมดได้ถูกดึงกลับมาเพื่อเปิดเผยคำตอบที่อยู่ใต้จมูกของเรามาโดยตลอด
ขณะที่ยังไม่มีอะไรชัดเจนทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ลึกลับมากๆ ไปจนถึงช่วงสุดท้าย ดังนั้นหากคุณยังไม่ได้ดูเราขอแนะนำว่าให้คุณกลับไปดูก่อนแล้วค่อยกลับมาอ่านใหม่อีกครั้ง แต่หากคุณรับชมเรียบร้อยแล้วก็เตรียมดำดิ่งสู่บทสรุปอันเยือกเย็นของเรื่องราวความตายอันน่าสลดใจนี้ก่อนใคร
เมื่อ Augustus อดีตนักสืบได้ถูกเรียกตัวให้ไปสอบสวนคดีนี้ของทหาร เนื่องจากมีทหารเสียชีวิตอย่างปริศนาและสยดสยอง ก่อนหน้านี้ลูกสาวของเขาเอง Mattie ที่รับบทโดย Hadley Robinson ก็เพิ่งหายตัวไปและเรื่องนี้ได้กลายเป็นความเจ็บปวดที่อยู่ในใจของเขาซึ่งเขาพยายามจะกดความสึกนี้เอาไว้ มีเพียง Edgar นักเรียนนายร้อยสุดลึกลับที่ดูเหมือนจะจดบันทึกข้อมูลต่างๆ เอาไว้ด้วยตัวเอง หลังจากคดีนี้ก็ดูเหมือนว่าจะได้คำตอบตามความเป็นจริงว่าเหล่าทหารที่ถูกสังหารเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมโดยครอบครัวในท้องถิ่น มีเพียงเขาเท่านั้นที่ยังคงคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ในคืนหนึ่งเขาตื่นขึ้นและไปพูดกับ Augustus โดยตรง จากนั้น Edgar ก็ได้เปิดเผยว่า Mattie ถูกทำร้ยโดยทหารกลุ่มเดียวกันนี้ได้อย่างไร และจบลงด้วยการที่ทั้งหมดถูกฆ่าตาย Mattie ได้ปลิดชีพตัวเองต่อหน้า Augustus พ่อของเธอจากความชอกช้ำ และต้องการการแก้แค้น เขาจึงออกเดินทางเพื่อล้างแค้นให้กับการตายของลูกสาว ความลงตัวนี้เกิดขึ้นเมื่อเขาถูกเรียกให้ไปสอบสวนคดีฆาตกรรมสุดปริศนาที่พวกทหารเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อ Edgar เริ่มเปิดเผยเรื่องนี้กับชายผู้ที่เขาคิดว่าเป็นเหมือนเพื่อน Augustus ไม่ได้พยายามโต้แย้ง หรือปกป้องตัวเองเลยแม้แต่น้อย ชายทั้ง 2 เผชิญหน้ากันพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าเกี่ยวกับการเปิดเผยที่น่าตื่นตกใจนี้ Edgar ถาม Augustus ว่าเหตุใดถึงไม่เคยบอกเรื่องการสูญเสียนี้กับเขา เพราะเขาคงอยากที่ปลอบใจ และปลอบโยน Augustus ในเรื่องนี้ได้ ในขณะที่ Edgar เองยังคงพูดผ่านสิ่งที่เขาค้นพบอย่างน่าตกใจนี้ เราได้เห็นภาพในอดีตของ Augustus ที่ทำการฆ่านายทหารเหล่านั้น คนแรกถูกแขวนคอและทิ้งเอาไว้ในความมืดที่เย็นยะเยือก หลังจากนั้นก็ถูกสวมรอยด้วยครอบครัวท้องถิ่นนั่นจึงเป็นเหมือนเกราะกำบังให้กับ Augustus โดยไม่ได้ตั้งใจ สำหรับ Augustus ที่ต้องปลอมแปลงศพให้เหมือนกับพิธีกรรมที่น่าสยดสยองอีกหลายครั้งเพื่อไม่ให้ผู้อื่นสงสัยเขาต่อไป
ในไม่ช้าเรื่องราวก็เป็นที่ชัดเจนมากขึ้นว่า Edgar ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงเขา Edgar เพียงต้องการมาที่นี่เพื่อเผชิญหน้ากับความจริงและ Augustus ก็บอกว่าเขารู้ว่าช่วงเวลาเหล่านี้จะต้องมาถึง และเขาพร้อมที่จะขอโทษหากถูกถาม อย่างไรก็ตาม Edgar ยังคงพยายามหาคำตอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เขาทรมานทหารเหล่านั้นเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการก่อนที่จะสังหาร
การสืบสวนนี้ถูกสร้างขึ้นจากความปรารถนาที่จะฆ่าพวกเขาให้หมดสิ้น เหมือนกับที่ Edgar กล่าวว่ามีชายคนหนึ่งรอดพ้นจากเงื้อมมือของเขา Augustus เขาแก่และไม่มีแรงมากพอที่จะไล่ตามไป และเขาหวังว่านายทหารผู้นั้นจะมีชีวิตอยู่ด้วยความกลัวและความหวาดระแวงไปตลอดชีวิต
ความจริงจะไม่ปล่อยให้เป็นอิสระ
Edgar บอกว่าเขามีข้อมูลมากพอที่จะส่ง Augustus เข้าคุกได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตามเขาเผากระดาษโน๊ตที่เป็นเหมือนเบาะแสที่จะชี้มายัง Augustus ทิ้ง จากนั้น Augustus ก็เริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาไม่สามารถเก็บอาการสงบเอาไว้ได้อีกต่อไป ลูกสาวของเขาไม่มีทางกลับมาได้อีกแล้ว และในตอนนี้ด้วยความกระหายที่จะล้างแค้นทำให้ทั้งคู่ต้องแยกย้ายกันไปคนละทาง
ความยุติธรรมไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาโดยง่ายๆ เพื่อให้เรื่องราวกับโลกที่มืดมิดของภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินไปนี่จึงเป็นส่วนหนึ่งของวิธีการทั้งหมด หลังจากความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมาน Augustus ยังคงถูกทิ้งให้อยู่ในช่องว่างของชีวิตที่ไม่มีทางแก้ไขได้ในแบบที่เขาต้องการ การสูญเสียลูกสาวได้ผลักดันให้เขากระทำการรุนแรงด้วยความหวังว่าเขาจะได้คลายความทุกข์ลงได้บ้างในตอนท้าย แต่สิ่งนี้มักจะล้มเหลวเสมอ และทุกย่างได้กลับมาสู่โลกแห่งความจริงนั่นคือความโดดเดี่ยวอย่างแท้จริงและมากกว่าที่เคยเป็นมา
แม้ว่า Edgar จะไม่ส่งเขาเข้าคุก แต่ทั้ง 2 ก็ไม่มีวันที่จะแบ่งปันบทสนทนาร่วมกันได้อีก ซึ่ง Augustus เคยหวังว่าพวกเขาน่าจะได้พบกันอีกภายใต้สถานการณ์อื่น ในฉากของครอบครัวที่มีความสุข เมื่อ Edgar จากไป เขาจึงได้เดินทางไปยังที่ที่ Mattie ลูกสาวของเขาเสียชีวิตอีกครั้ง ภาพที่ตัดกับอดีตของเขาตัดจากไปและดวงอาทิตย์ที่ตัดผ่านต้นไม้ทั้งยังปกคลุมด้วยหิมะ เขายืนอยู่ตรงขอบตรงที่เธอโดดลงไป จากนั้นเขาก็โยนริบบิ้นของเธอให้ปลิวไปตามสายลม นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังปล่อยมือ และสิ่งที่เขาสามารถพูดได้ในตอนนั้นคือ “พักผ่อนเถอะนะลูกสาวของพ่อ” มันทำให้ชัดเจนมากขึ้นซึ่งแม้ว่าเขาจะได้รับความยุติธรรมเพียงเล็กน้อยจากสิ่งที่เขาลงมือด้วยตัวเอง
บางครั้งโลก และผู้คนต้องอยู่กับความทุกข์ทรมาน วิธีที่จะบอกตัวเองว่าสามารถแก้ปัญหาจากความอยุติธรรมนี้ได้อาจถูกกลบด้วยความเป็นจริงที่แสนเจ็บปวดที่เราต้องผ่านไปให้เท่านั้น
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้