Chris Evans ได้ออกมาเล่าถึงความรู้สึกของเขาในตอนที่เขาได้รู้ข่าวว่า เขาถูกรับเลือกให้เป็นคนพากย์เสียงตัวละคร Buzz Lightyear ในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Lightyear ของ Pixar ที่พึ่งเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไปเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา

Lightyear เป็นภาคแยกของแฟรนไชส์ Toy Story แฟรนไชส์ภาพยนตร์แอนิเมชันยอดฮิตที่สร้างมาแล้ว 4 ภาค ภาพยนตร์เรื่อง Toy Story ภาคแรกเปิดตัวออกมาในปี 1995 จากนั้นก็มีภาคต่อตามออกมาเรื่อยๆ จนถึงภาคที่ 4 ที่ออกฉายในปี 2019 จากนั้นในปี 2020 ทางสตูดิโอก็ได้ออกมาประกาศสร้างภาคแยกของแฟรนไชส์อย่างเป็นทางการในชื่อเรื่อง Lightyear ภาคแยกเรื่องนี้จะเล่าเรื่องราวต้นกำเนิดของตัวละคร Buzz Lightyear ที่เป็นแรงบันดาลใจในการออกผจญภัยให้กับเหล่าของเล่นใน Toy Story โดยตัวละคร Buzz ในแฟรนไชส์ Toy Story นั้นเดิมทีพากย์เสียงโดย Tim Allen แต่ทว่าในภาคแยกอย่าง Lightyear สตูดิโอกลับตัดสินใจอยากจะเปลี่ยนเสียงพากย์ใหม่ การที่ตัดสินใจแบบนี้ เพราะตัวละคร Buzz ที่เป็นมนุษย์ใน Lightyear กับตัวละคร Buzz ที่เป็นของเล่นใน Toy Story นั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก

ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Lightyear ออกฉายครั้งแรกในวันที่ 16 มิถุนายน 2022 และได้รับการวิจารณ์แบบผสม คือมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ แต่ค่อนไปทางบวกเพราะมีคนที่ชอบเยอะกว่า คำวิจารณ์ส่วนใหญ่บอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นต้นกำเนิดที่สนุกและบันเทิงมากๆ แถมยังเป็นเรื่องราวต้นกำเนิดที่อบอุ่นหัวใจ แต่ก็ไม่ได้ประทับใจจนยากจะลืมเลือนเท่ากับที่ Toy Story เคยทำเอาไว้ นอกจากจะได้ Chris Evans มาพากย์เสียงตัวละครหลักให้แล้ว ภาพยนตร์เรื่อง Lightyear ยังมีนักแสดงชื่อดังอีกหลายคนที่มาพากย์เสียงให้กับตัวละครในเรื่อง ได้แก่ Keke Palmer, James Brolin, Peter Sohn, Taika Waititi และ Bill Hader แต่คนที่ดูจะต้องรับงานหนักสุดก็คงจะเป็น Chris Evans ที่ต้องพากย์เสียงให้กับตัวละครสุดคลาสสิค ที่เหล่าผู้ชมติดเสียงพากย์เดิมของ Tim Allen ไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องทำให้ได้ดีระดับนึง เพื่อจะได้ไม่ถูกแฟนๆ Toy Story ต่อว่า

ล่าสุด Chris Evans ได้ให้สัมภาษณ์กับ BuzzFeed Celeb เขาได้ถูกถามว่า เขารู้สึกอย่างไรในตอนที่เขาได้รู้ว่าตัวเองถูกคัดเลือกให้พากย์เสียงให้กับตัวละครที่เป็นที่รักอย่าง Buzz Lightyer และในระหว่างการสัมภาษณ์ เขาก็นั่งเล่นกับลูกสุนัขไปด้วย ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถให้คำตอบที่ละเอียดที่สุดได้ (เพราะมัวแต่เล่นกับน้องหมา) โดย Chris Evans ได้ตอบคำถามนี้ว่า

ผมรู้สึกประหม่ามากๆ รู้สึกเหมือนถูกข่มขู่ และก็ตื่นเต้นมากๆ

คลิปสัมภาษณ์ของ Chris Evans

การที่ Chris Evans ตอบแบบนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะเขาต้องแบกรับความคาดหวังมหาศาลจากแฟนๆ ทั่วโลก แถมตัวเขาเองก็ไม่ได้พากย์เสียงมานานมากแล้ว ครั้งล่าสุดที่เขาพากย์เสียงให้กับภาพยนตร์แอนิเมชันคือตอนปี 2007 ในภาพยนตร์เรื่อง TMNT และ Battle for Terra และอย่างที่บอก เขาได้รับการคาดหวังอย่างสูง แถมเมื่อมีการยืนยันออกมาว่า Chris Evans จะมาพากย์เสียง Buzz หลังจากนั้นก็มีข่าวลือออกมามากมายว่าที่ Tim Allen ไม่ได้กลับมาพากย์เสียงให้ Buzz อาจเป็นเพราะมุมมองที่อนุรักษ์นิยม (หัวโบราณ) ของเขา ซึ่งแน่นอนว่าแฟนๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับทางสตูดิโอ ดังนั้นการที่เขารู้สึกประหม่า และรู้สึกเหมือนถูกข่มขู่ จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่แท้จริงแล้ว Chris Evans ก็เป็นแฟนตัวยงของ Pixar และ Toy Story เหมือนกัน ทำให้ผู้ชมพออุ่นใจได้บ้างว่าเขาจะรู้จักนิสัยของตัวละครเป็นอย่างดี และถ้าถามว่า Chris Evans เป็นแฟนตัวยงแค่ไหน บอกได้อย่างเดียวว่าเขาเคยออกมาบอกไว้ว่า ไม่ว่าทาง Pixar จะให้เขาแสดงเป็นตัวละครอะไรก็ตาม เขาก็พร้อมทำมันขอแค่เพียง Pixar บอกมา แค่นี้ก็รับประได้เป็นอย่างดีว่าเขาเป็นแฟนตัวยงจริงๆ

โชคดีมากๆ ที่สุดท้ายแล้ว เมื่อภาพยนตร์เรื่อง Lightyear เข้าฉาย กลับกลายเป็นว่าผู้ชมส่วนใหญ่ยอมรับและชื่นชมฝีมือการพากย์ของ Chris Evans พร้อมกับชื่นชมเหล่านักแสดงชื่อดังคนอื่นๆ ที่มาพากย์เสียงในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน Chris Evans พบจุดสมดุลที่ดีในการพากย์ด้วยการใช้เสียงที่ผสมระหว่างเสียงแบบ Tim Allen กับเสียงในแบบฉบับของตัวเอง แต่สิ่งที่สำคัญคือ ดูเหมือนว่าเขาจะสนุกกับการพากย์เสียงตัวละครตัวนี้ อาจเป็นเพราะบทบาทในอดีตของเขาในฐานะ Captain America ในจักรวาล Marvel Cinematic Universe (MCU) ที่เป็นซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งก็มีความใกล้เคียงกับตัวละคร Buzz Lightyear พอสมควร นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าเขาพร้อมที่จะพากย์เสียงให้ตัวละครนี้ต่อไปในอนาคต ถ้าหากทาง Pixar ยังต้องการเขา ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดู Lightyear หากมีเวลาว่างก็หาโอกาสไปดูกันได้ มีฉายทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ