Disney กำลังจะเพิ่มภาพยนตร์ Marvel ของ Sony Pictures จำนวนหลายเรื่องลงทาง Disney+ ในบางประเทศ หนึ่งในภาพยนตร์ที่กำลังจะถูกเพิ่มเข้ามานั้น รวมถึงภาพยนตร์ไตรภาค Spider-Man ของผู้กำกับ Sam Raimi

ปัจจุบันนี้ ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่นั้นมีออกมาเยอะมากจนทำให้หลายคนสับสน เนื่องจากกรรมสิทธิ์ของตัวละครฮีโร่ ได้มีการเปลี่ยนมือผู้ถือกรรมสิทธิ์หลายต่อหลายครั้ง ส่งผลกระทบต่อทั้งการจัดจำหน่ายภาพยนตร์และสิทธิ์ของตัวละครตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ต้องมีการรีบูตซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ด้วยการที่ Walt Disney Corporation ได้เข้าซื้อกิจการของ Marvel Studios ในปี 2009 จึงทำให้ตัวละครส่วนใหญ่ได้มารวมกัน และกระบวนการสร้างจักรวาล Marvel Cinematic Universe (MCU) จึงได้เริ่มต้นขึ้น จากนั้นในปี 2019 Disney ได้เข้าซื้อกิจการของ Fox ทำให้ Disney ได้รับสิทธิ์ในการใช้ตัวละคร Marvel เกือบทั้งหมด เหลือก็เพียงแต่ตัวละครจักรวาล Spider-Man ที่ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของ Sony และตัวละคร The Incredible Hulk ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Universal Pictures

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวละครอย่าง The Incredible Hulk และ Spider-Man จะสามารถปรากฏตัวในภาพยนตร์ MCU ได้อย่างอิสระแล้วก็ตาม แต่ภาพยนตร์ของพวกเขาก็ไม่ได้มีให้รับชมทาง Disney+ เพราะแม้ว่าสตูดิโอจะได้รับสิทธิ์ในการใช้ตัวละครเหล่านั้นในภาพยนตร์จักรวาล MCU แต่ Disney ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของสิทธิ์ในการจัดจำหน่าย ซึ่งสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายยังคงเป็นของ Sony และ Universal เหมือนเดิม ดังนั้นภาพยนตร์ไตรภาค Spider-Man ของ Sam Raimi ที่นำแสดงโดย Tobey Maguire และ The Incredible Hulk ในปี 2008 ที่นำแสดงโดย Edward Norton นั้นไม่เคยมีให้รับชมใน Disney+ มาก่อน

แต่ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป เนื่องจากภาพยนตร์ Marvel ที่ไม่ใช่ของ Disney กำลังจะมีให้รับชมทาง Disney+ ในบางประเทศเร็วๆ นี้ ล่าสุด บัญชี Twitter อย่างเป็นทางการของ Disney+ Japan ได้ออกมาทวีตว่า ภาพยนตร์อย่าง Iron Man เป็นของ Paramount, The Incredible Hulk (2008) และ Venom (2018) กำลังจะเข้าฉายทาง Disney+ ประเทศญี่ปุ่นวันที่ 17 มิถุนายนนี้ ในขณะเดียวกัน Disney+ Italy ก็ออกมาทวีตว่า Spider-Man: Into The Spider-Verse (2018) กำลังจะเข้า Disney+ ประเทศอิตาลี ในวันที่ 17 มิ.ย. เหมือนกัน นอกจากนี้ Disney+ UK ได้ทวีตว่า ไตรภาค Spider-Man ของ Sam Raimi, The Amazing Spider-Man ทั้ง 2 ภาค และ Spider-Man: Homecoming (2017) ก็กำลังจะสตรีมทาง Disney+ ของสหราชอาณาจักรในวันที่ 17 มิ.ย. เช่นกัน ส่วนในประเทศไทยบ้านเรา มาเยอะยิ่งกว่าพวกเขาอีก เพราะของ Disney+ Hotstar วันที่ 17 มิ.ย.นี้ ภาพยนตร์ Marvel ของ Sony ที่จะเข้าได้แก่ Spider-Man 2 (2004), Spider-man 3 (2007), The Amazing Spider-Man (2012), Venom (2018) และ Spider-Man: Into The Spider-Verse (2018)

เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการเพิ่มภาพยนตร์เหล่านี้ลงใน Disney+ ดูเหมือนจะเป็นความตั้งใจและเป้าหมายของ Disney ที่อยากจะรวบรวมภาพยนตร์ Marvel ทุกเรื่องมาอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน และการทำแบบนี้ถือเป็นแผนการที่ชาญฉลาดมาก นอกจากผู้ชมจะถูกใจแล้วที่จะได้ดูครบทุกเรื่องเพียงแค่สมัคร Disney+ ก็ทำให้ Disney มีรายได้มากขึ้นเช่นกัน และการมาของภาพยนตร์เหล่านี้ยังเป็นการดึงดูดผู้ใช้ใหม่อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ Disney กวาดรายได้มหาศาล และถือเป็นก้าวสำคัญในการเติบโตในตลาดตรีมมิง ที่มีการแข่งขันสูงมาก เพราะมีผู้ให้บริการสตรีมมิงหลายเจ้า อาทิ Amazon Prime Video, HBO Max, Paramount+ และ Netflix

อย่างไรก็ตาม ตามข้อตกลงที่ Sony และ Netflix ได้เซ็นสัญญากันไว้เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ Netflix ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าแรกที่จะได้สตรีมภาพยนตร์ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ของ Sony Pictures ซึ่งหมายความว่า Disney+ ไม่มีสิทธิ์ในการฉายภาพยนตร์ของ Sony Pictures ที่พึ่งเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ อย่าง Venom: Let There Be Carnage (2021), Spider-Man: No Way Home (2021) และ Morbius (2022) ซึ่งถ้าหากสัญญายังเป็นเช่นนี้ต่อไป ภาพยนตร์ Marvel ของ Sony ที่จะมีขึ้นในอนาคตก็จะถูกฉายทาง Netflix อย่างไรก็ตาม จากความพยายามของ Disney ที่ต้องการนำภาพยนตร์หลายเรื่องของ Sony มาสตรีมทาง Disney+ นั้นถือเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า พวกเขาอยากรวมหนังทุกเรื่องมาไว้ด้วยกัน ดังนั้น ในอนาคต Disney อาจจะทำได้ตามที่ตั้งใจไว้ก็ไ้ด้ ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ