ผู้กำกับ Sam Raimi ได้ออกมาเปิดเผยว่าในช่วงก่อนที่เขาจะได้เข้ามาเป็นผู้กำกับของ Spider-Man (2002) ทาง Sony ได้สนใจผู้กำกับคนอื่นมากกว่าเขา โดยเขาอยู่ในลำดับที่ 19 แสดงว่ามีผู้กำกับคนอื่นอีก 18 คน ที่ Sony ต้องการให้มากำกับมากกว่าเขา

Spider-Man ในปี 2002 ถือเป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ประสบความสำเร็จ จนได้มีภาคต่อออกมาอีก 2 ภาค อย่าง Spider-Man 2 ในปี 2004 และ Spider-Man 3 ในปี 2007 ซึ่งภาพยนตร์ภาคแรกในปี 2022 สามารถทำเงินได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ในสุดสัปดาห์แรก และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับการชมเชยในเรื่องการคัดเลือกนักแสดง และสร้างมาตรฐานให้กับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ทุกเรื่องที่ออกมาหลังจากนั้น นำแสดงโดย Tobey Maguire ในบท Peter Parker, Kirsten Dunst เป็น Mary-Jane Watson และ Willem Dafoe ในบท Norman Osborn หรือที่รู้จักกันในชื่อ Green Goblin นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ Marvel ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

Sam Raimi ผู้ซึ่งบางทีอาจเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะผู้สร้างแฟรนไชส์​​ The Evil Dead แถมเขายังมีผลงานทางโทรทัศน์ที่ประสบความสำเร็จหลายรายการ ได้แก่ ซีรีส์ Hercules: The Legendary Journeys และซีรีส์ Xena: Warrior Princess ก่อนที่เขาจะได้รับเลือกให้กำกับ Spider-Man ฉบับไลฟ์แอ็กชันเรื่องแรกของสตูดิโอ Sony โดยโปรเจกต์ Spider-Man มีการวางแผนพัฒนามาตั้งแต่ช่วง 1980 แต่ยังไม่เคยประสบผลสำเร็จ ที่แม้แต่ผู้กำกับ James Cameron จาก Terminator และ Avatar ที่เคยเกือบได้กำกับโปรเจกต์นี้ สุดท้ายก็ถูกล้มเลิกไป ก่อนที่ Sony Pictures จะได้รับสิทธิ์ในภาพยนตร์เรื่องนี้ในปี 1998 และเริ่มต้นการตามล่าหาผู้กำกับที่เหมาะสม

20 ปีผ่านไป Sam Raimi และผู้บริหารหลายคนของภาพยนตร์ Spider-Man ได้มานั่งคุยกับ Variety เพื่อพูดคุยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนโฉมหน้าของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ยุคใหม่ได้อย่างไร ซึ่งเดิมทีรายชื่อผู้มีโอกาสเป็นผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ในตอนแรกนั้นมีหลายคนมาก โดย Sam Raimi ได้เล่าให้ฟังว่า

Josh Donen ตัวแทนของผม บอกกับผมว่า ‘พวกเขาต้องการจะซื่อสัตย์กับคุณ มีผู้กำกับประมาณ 18 คน ที่พวกเขาอยากได้มากกว่าคุณในรายชื่อทั้งหมด’ และผมก็ตอบกลับไปว่า ‘โอเค บอกพวกเขาไปสิ ว่าผมอยู่ในอันดับที่ 19’

โดยรายชื่อผู้กำกับคนอื่น ๆ บางส่วนที่ถูกเสนอชื่อในครั้งนั้น ได้แก่ Tim Burton, Michael Bay, Roland Emmerich, Barry Sonnenfeld, Ang Lee, Chris Columbus, Jan de Bont และ M. Night Shyamalan อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ Sam Raimi ได้รับเลือก ทำให้เขาได้สร้างภาพยนตร์ที่จะกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดในแนวซูเปอร์ฮีโร่ แม้ว่าจะไม่ใช่ภาพยนตร์แนวสยองขวัญทุนต่ำแบบที่เขาถนัด แต่เขากลับทำออกมาได้ดีเยี่ยมและน่าจดจำ เชื่อว่าภาพยนตร์ชุด Spider-Man (2002-2007) คงเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ในความทรงจำของผู้ชมหลายคน

ซึ่งปัจจุบัน Sam Raimi ได้หวนกลับมาสู่การกำกับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อีกครั้ง กับภาพยนตร์เรื่อง Doctor Strange in the Multiverse of Madness ซึ่งกำลังจะเข้าฉายในประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ แถมพึ่งฉายรอบปฐมทัศน์ไปหมาด ๆ และคะแนนวิจารณ์แรกก็ออกมาดีมาก ทำให้ตอนนี้แฟน ๆ ทั่วโลก ต่างตั้งตารอที่จะได้ไปดูการกลับอย่างยิ่งใหญ่ของผู้กำกับ Sam Raimi ในฐานะเป็นผู้กำกับที่ได้วางรากฐานที่แข็งแรงให้กับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่