หรือว่าตอนนี้จะหมดยุคของหนังฮีโร่แล้ว? เพราะในตอนนี้ The Marvels ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากจักรวาล Marvel Cinematic Universe (MCU) กำลังเผชิญกับความล้มเหลวครั้งใหญ่ หลังจากเปิดตัวออกมานานกว่า 3 สัปดาห์ จนถึงตอนนี้ภาคต่อเรื่องนี้ก็ยังทำรายได้ทั่วโลกได้ไม่ถึง 200 ล้านดอลลาร์ ถึงขนาดที่หากจะเรียกว่าเป็นความล้มเหลวที่สุดในประวัติศาสตร์ของจักรวาล MCU ก็ยังดูจะไม่เกินจริงนัก

ตามรายงานล่าสุดจาก Collider ได้มีการเปิดเผยรายได้ล่าสุดของ The Marvels ออกมา ปรากฎว่าหลังจากเปิดตัวออกมาเกือบ 1 เดือน ภาคต่อของผู้กำกับ Nia DaCosta เรื่องนี้ก็ยังทำเงินทั่วโลกได้ไม่ถึง 200 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบันมีรายได้อยู่ที่ 197 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นรายได้จากการฉายในอเมริกา 80.7 ล้านดอลลาร์ และรายได้จากตลาดต่างประเทศทั่วโลกอีก 116.3 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ในรายงานยังได้เปิดเผยออกมาอีกว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา The Marvels ทำรายได้จากในอเมริกาลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วมากถึง 60% โดยทำเงินไปได้เพียง 2.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในตลาดต่างประเทศเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพราะสามารถทำรายได้ไปเพียง 3.4 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากสัปดาห์ก่อนถึง 57%

จากความล้มเหลวในครั้งนี้ของ The Marvels จึงให้ทำเกิดการตั้งคำถามมากมาย เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้รับคำวิจารณ์อยู่ระดับกลางๆ ไม่ได้แย่มากนัก นั่นหมายความว่าคุณภาพของภาพยนตร์ไม่ใช่เพียงปัจจัยเดียวที่ทำให้มันล้มเหลว แต่อาจจะรวมถึงกระแสของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่เริ่มลดน้อยลง นอกจากนี้ยังอาจรวมถึงการมัดรวมเรื่องราวทั้งในซีรีส์และภาพยนตร์จนมากเกินไป ทำให้หลายคนเริ่มขี้เกียจตามดู เพราะมันเยอะมากจนดูไม่ไหว สำหรับตอนนี้คงพูดได้อย่างเต็มปากกันแล้วว่า The Marvels ต้องเผชิญกับการขาดทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากตัวภาพยนตร์มีงบประมาณการสร้างที่สูงถึง 250 ล้านดอลลาร์ (ไม่รวมงบการโปรโมต) และมีจุดคุ้มทุนที่สูงถึง 700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งดูจากรายได้ในตอนนี้คงยากแล้วที่จะไปถึง