Scott Derrickson ผู้กำกับสายสยองขวัญจาก Sinister (2012) ได้เคยร่วมงานกับ Marvel Studios ด้วยการกำกับ Doctor Strange ภาคแรกในปี 2016 ซึ่งน่าเสียดายที่หลังจากนั้นเขาได้ตัดสินใจถอนตัวออกไปและไม่ได้กลับมากำกับในภาคที่ 2 โดยล่าสุด Derrickson ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่าเหตุใดในตอนนั้นเขาถึงตัดสินใจรับงานกำกับ Doctor Strange ทั้งที่ไม่ใช่แนวทางของเขา

เมื่อไม่นานมานี้ Scott Derrickson ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทาง Comicbook เพื่อโปรโมต V/H/S/85 ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของเขาที่กำลังจะเปิดตัว ซึ่งในระหว่างการพูดคุยกัน Derrickson ได้เปิดเผยว่าเหตุผลที่เขารับงานกำกับ Doctor Strange เป็นเพราะเขาคิดว่าเขาสามารถทำสิ่งที่น่าสนใจกับมันได้ พร้อมยอมรับว่าหากมีภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อื่นๆ ที่ทำให้เขาสนใจได้ ในอนาคตเขาก็พร้อมที่จะทำ โดยเขาได้กล่าวว่า

ผมไม่ได้สร้าง Doctor Strange เพราะมันเป็นหนังของ Marvel หรือเพราะว่ามันเป็นหนังจากหนังสือการ์ตูน ผมสร้างมันเพราะมันเป็น Doctor Strange มันเป็นการ์ตูนที่ผมรัก มันมีความรู้สึกที่หนักแน่นและทรงพลังจริงๆ ซึ่งผมรู้สึกว่าผมป็นผู้สร้างภาพยนตร์ที่เหมาะสมที่จะดัดแปลงมัน

ดังนั้น ผมจะกลับไปทำหนังจากการ์ตูนแน่นอน ถ้าผมได้ทำงานร่วมกับบางสิ่งที่ผมรู้สึกว่าเป็นวิวัฒนาการที่ดีของแนวนี้ ผมคิดว่าเราอยู่ในจุดที่ผู้ชม และรวมถึงตัวผมเองด้วย ไม่ต้องการเห็นอะไรที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ทำไปแล้วมากเกินไป ผมสนใจภาคแยกมากกว่าการทดลองในประเภทใหม่กับภาพยนตร์จากหนังสือการ์ตูน ผมคิดว่านั่นเป็นวิธีที่คุณทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมกับมันอีกครั้งได้โดยการพัฒนามันอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคงเป็นข้อกำหนดใหญ่ของผมที่จะกลับไปสู่โลกหนังสือการ์ตูนที่ขับเคลื่อนด้วยทรัพย์สินทางปัญญาแบบนั้น

คำตอบของ Scott Derrickson นับว่าเป็นสิ่งที่ไม่แปลกนักสำหรับผู้กำกับที่ส่วนใหญ่ก็มักจะชอบอยากทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำอยู่แล้ว และเป็นคำตอบที่ทำให้เราได้คลายข้อสงสัยกันซักทีว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจถอนตัวออกไป อย่างไรก็ตาม ในบทสัมภาษณ์เดียวกันนี้ Derrickson ยังได้เสริมอีกว่าเขาคิดว่าผู้ชมพร้อมแล้วสำหรับวิวัฒนาการครั้งต่อไปของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ แต่สิ่งสำคัญคือผู้สร้างจะต้องเลือกบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ โดยเขาได้กล่าวว่า

คุณสามารถสร้างสิ่งที่แปลกใหม่และไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนจากทรัพย์สินทางปัญญาเหล่านั้นได้ แต่ต้องเป็นเรื่องราวที่โดนใจ ผู้ชม และคุณต้องเต็มใจที่จะปฏิบัติต่อมันด้วยความคิดริเริ่ม แต่ผมคิดว่าในตอนนี้ผู้ชมน่าจะต้องการรายการต้นฉบับที่สดใหม่ นั่นคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น และมันสำคัญมาก ซึ่งผมแค่หวังว่าสตูดิโอต่างๆ จะไม่สานต่อการสร้างภาพยนตร์ภาคต่อในลักษณะที่ทำให้เราต้องเสียเวลามากขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะตระหนักได้ว่าผู้ชมพร้อมแล้วสำหรับเนื้อหาใหม่