ในที่สุด James Gunn และ Peter Safran ก็ประกาศแผนการระยะยาวของ DC Universe ใหม่ ในนามของ DC Studios

เมื่อพูดถึงแบรนด์ DC เป็นเวลาสองสามเดือนโดยประมาณที่ Warner Bros. Discovery ทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างมากมาย ในขณะที่ภาพยนตร์และทีวีซีรีส์หลายรายการที่เกี่ยวข้องกับ DC ถูกถอนออกไป สตูดิโอก็พยายามที่จะไปในทิศทางใหม่ ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว DC Studios ได้รับการเปิดตัวพร้อม James Gunn และ Peter Safran ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานและประธานฝ่ายสร้างสรรค์ร่วมกัน ซึ่งในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา Gunn ได้เปรยบนโซเชียลมีเดียว่าจะมีการเปิดเผยแผนสำหรับ DC Universe (DCU) บางรายการในสิ้นเดือนมกราคม (ตามเวลาประเทศสหรัฐอเมริกา)

Gunn และ Safran กำลังดำเนินงาน ภาพยนตร์ ซีรีส์ แอนิเมชัน และวิดีโอเกม สำหรับจักรวาล DCU ซึ่งเมื่อวันที่ 31 มกราคม Gunn ก็ได้เปิดเผยแผนการของพวกเขาผ่าน Screen Rant และสื่ออื่นๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ Gunn และ Safran เปิดตัวครึ่งแรกของ Chapter 1 (บทที่ 1) สำหรับ DCU ที่เรียกว่า “Gods & Monsters” และจะเริ่มเปิดฉากในปี 2025 การประกาศดังกล่าวมาพร้อมกับภาพยนตร์และทีวีซีรีส์ทั้งหมด 10 เรื่อง ที่จะเชื่อมต่อกันในจักรวาลใหม่นี้ โดยเป้าหมายหลักคือการเปิดตัวภาพยนตร์และซีรีส์ของ HBO Max ปีละสองเรื่อง ซึ่งรายชื่อภาพยนตร์และซีรีส์มีดังนี้

ภาพยนตร์

• Superman: Legacy : ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทโดย Gunn เอง โดยคาดว่า (ยังไม่ยืนยัน) Safran จะเป็นผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งมีกำหนดฉายในวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 ภาพยนตร์ Superman: Legacy จะไม่ใช่เรื่องราวต้นกำเนิด แต่จะมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้ของ Clark Kent เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตซูเปอร์ฮีโร่กับชีวิตมนุษย์ และเรื่องราวจะสำรวจว่า Superman จะเป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตาในโลกที่เชื่อว่าความเมตตานั้นล้าสมัยได้จริงหรือไม่?
• The Authority : Gunn กำลังร่างเค้าโครงของภาพยนตร์ซึ่งจะอิงจากตัวละครของสำนักพิมพ์ Wildstorm ในเครือ DC Comics โดยจะนำตัวละครเหล่านั้นเข้าสู่จักรวาลหลักด้วยภาพยนตร์ฉบับคนแสดง จากข้อมูลของ The Authority จะสำรวจเรื่องราวของกลุ่มแอนติฮีโร่ขณะที่ต้องเผชิญเหตุการณ์สุดอันตรายระดับหายนะของโลก
• The Brave and the Bold : จะเป็นเรื่องราวของ Batman และ Robin ที่นำแสดงโดยดาราหน้าใหม่ในบทอัศวินรัตติกาล ดังนั้น Robert Pattinson และ Ben Affleck จะไม่ได้แสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ พล็อตเรื่องคร่าวๆ ก็คือ Bruce Wayne ซึ่งเป็นพ่อของ Damian (Robin คนที่ 4) ต้องดูแล Damian ทั้งในฐานะฮีโร่ฝึกหัดและในฐานะลูกชาย The Brave and the Bold จะนำเสนอสมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูล Bat Family แต่ตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าใครจะเป็นนักแสดงนำ
• Supergirl: Woman of Tomorrow : Girl of Steel (สตรีเหล็ก) กำลังจะมีหนังเดี่ยวของเธอเอง ซึ่งจะอิงจากหนังสือ DC ล่าสุดที่เขียนโดย Tom King มีเรื่องย่อดังนี้ ในขณะที่ Superman ถูกเลี้ยงดูบนโลกโดยมีพ่อแม่ใจดี แต่ Supergirl ต้องถูกบังคับให้ต้องเห็นคนที่รักมากมายเสียชีวิตรวมถึงการล่มสลายของอารยธรรมบ้านเกิด
• Swamp Thing : DC Studios กำลังสร้างภาพยนตร์ที่สำรวจเรื่องราวต้นกำเนิดอันมืดมิดของ Swamp Thing

ซีรีส์

• Creature Commandos : นี่เป็นซีรีย์แอนิเมชันเพียงเรื่องเดียวที่ประกาศให้เป็นส่วนหนึ่งของ DCU โดย Gunn รับหน้าที่เขียนบทเจ็ดตอนสำหรับซีรีส์นี้ Creature Commandos จะเน้นที่ตัวละคร Rick Flagg Sr. (ซึ่งผู้ให้เสียงตัวละครเหล่านี้จะปรากฏตัวในฉบับคนแสดงของจักรวาลหลักด้วย) Nina Mazursky, Doctor Phosphorus, Eric Frankenstein, Bride of Frankenstein, GI Robot และ Weasel
• Waller : ซีรีส์ภาคแยกของ Amanda Waller ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้กำลังก้าวไปข้างหน้าโดยที่ Viola Davis ยังคงแสดงนำ เหตุการณ์ในเรื่องจะเกิดขึ้นตรงกลางระหว่าง Peacemaker ซีซัน 1 และ ซีซัน 2 เนื่องจาก Gunn ไม่มีเวลาสำหรับซีรีส์ของ Peacemaker ในตอนนี้ Jeremy Carver ผู้อำนวยการสร้าง Doom Patrol ซีซัน 4 และ Christal Henry ผู้เขียนบทซีรีส์ Watchmen (2019) จึงเข้ามารับหน้าที่เป็นผู้กำกับซีรีส์นี้
• Lanterns : แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่านี่หมายถึงซีรีส์ Green Lanterns ของ Greg Berlanti หรือไม่ แต่ Lanterns จะมีศูนย์กลางอยู่ที่ Hal Jordan และ John Stewart จากข้อมูลของ DC Studios มันเป็นเรื่องลึกลับที่มี Green Lanterns ทำหน้าที่เป็นสุดยอดตำรวจอวกาศในเขตแดนของโลกมนุษย์ Lanterns จะนำไปสู่เรื่องราวเกี่ยวกับความสยองขวัญในยุคโบราณและจะเชื่อมต่อระหว่างภาพยนตร์และทีวีซีรีส์ของ DC
• Paradise Lost : ภาคต่อ (หรืออาจเป็นภาคแยก) ที่ 3 ของ Wonder Woman จะดำเนินเรื่องในอาณาจักรเธอมิสกีรา (Themyscira) ก่อน Diana Prince (ของ Gal Gadot) จะถือกำเนิด Paradise Lost จะสำรวจว่าเกมการเมืองใน Themyscira เป็นอย่างไร รวมถึงสิ่งที่ผู้หญิงทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจปกครอง
• Booster Gold : ซีรีส์ที่มุ่งเน้นไปที่ซูเปอร์ฮีโร่จากอนาคต ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมมากนัก

ตัวละคร DC ที่สำคัญหายไปจาก DC Universe บทที่ 1
ตามที่ระบุไว้ว่าอีกครึ่งหนึ่งของแผนงานจะถูกเปิดเผยในภายหลัง แต่นี่เป็นแนวคิดที่ชัดเจนว่า DCU จะเชื่อมต่อผ่านสื่อต่างๆ ได้อย่างไร สำหรับ DC Studios สิ่งสำคัญคือต้องทำให้เรื่องราวและบทภาพยนตร์เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่จะเริ่มทำสิ่งอื่นนอกเหนือจากการเขียนบท ด้วยสองบทที่จะครอบคลุมระยะเวลา 8-10 ปี แน่นอนว่าโปรเจกต์เพิ่มเติมจะประกาศเมื่อ DC Studios รู้สึกว่าพร้อม Gunn และ Safran ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าแผนงานยังคงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามที่เห็นสมควร ซึ่งทั้งหมดนี้นำไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวของ DCU ถึงกระนั้นโปรเจกต์จักรวาลแยก Elseworlds ก็ยังคงดำเนินไปโดยไม่ถูกแทรกแซง