สตูดิโอ Warner Bros. ได้ออกมาประกาศเลื่อนการฉาย Shazam: Fury of the Gods ออกไปอีก 5 วัน ซึ่งดูเหมือนว่าต้องการเลียกเลี่ยงที่จะฉายตรงกับ Avatar: The Way of Water ภาพยนตร์ภาคต่อที่ทุกคนรอคอย ของผู้กำกับ James Cameron

เดิมทีภาพยนตร์ Shazam: Fury of the Gods มีกำหนดการฉายในเดือนมิถุนายน 2023 ก่อนที่จะเลื่อนมาเป็นเดือนธันวาคม 2022 เนื่องจากทางสตูดิโอ ได้เลื่อนวันฉายของ Aquaman and the Lost Kingdom และ The Flash ออกไปเป็นปี 2023 แต่ถึงอย่างนั้น วันฉายใหม่ของ Shazam: Fury of the Gods ในวันที่ 16 ธันวาคม 2022 ดันไปชนกับ Avatar 2 หรือ Avatar: The Way of Water ภาคต่อที่แฟนหนังทั่วโลกต่างตั้งตารอ

ภาพยนตร์ Shazam: Fury of the Gods เราจะได้เห็นการกลับมาของ Zachary Levi รับบทเป็น Shazam (ตอนแปลงร่าง) และ Asher Angel รับบทเป็น Billy Batson (ก่อนแปลงร่าง) เหมือนเดิม โดยตัวละคร Billy Batson จะแปลงร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้ด้วยการตะโกนคำว่า “Shazam” และเขาจะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีพลังมหาศาล ส่วนรายละเอียดของพล็อตใน Shazam: Fury of the Gods ยังคงถูกปกปิดเป็นความลับ รู้เพียงว่าจะเกี่ยวข้องกับตัวละครคู่หูวายร้าย Hespera (รับบทโดย Helen Mirren) และ Kalypso (รับบทโดย Lucy Liu) นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังได้ทำการฉายฟุตเทจตัวใหม่ในงาน CinemaCon 2022 ที่ผ่านมา

นอกจาก Shazam: Fury of the Gods ที่ได้ไปเปิดตัวที่งาน CinemaCon 2022 แล้ว ภาพยตร์ฟอร์มยักษ์ที่ทุกคนรอคอยอย่าง Avatar 2 หรือ Avatar: The Way of Water ก็ได้เปิดตัวที่งานนี้เช่นเดียวกัน และปรากฎว่าหลังจากเปิดตัวไปภายใน 24 ชั่วโมง ก็มีแฟนหนังจำนวนมากที่ให้ความสนใจและตื่นเต้นที่จะได้ดู Avatar 2 ในปลายปีนี้ จนเกิดเป็นกระแสและมีคนพูดถึงกันอย่างแพร่หลาย ทำให้ทางสตูดิโอ Warner Bros. ตัดสินใจที่จะไม่ส่ง Shazam: Fury of the Gods ลงไปร่วมต่อสู้และแย่งรายได้กับ Avatar 2 โดยได้ตัดสินใจเลื่อนวันฉายออกไปอีก 5 วัน จากเดิมที่จะฉายในวันที่ 16 ธันวาคม 2022 ได้เปลี่ยนไปเป็น 21 ธันวาคม 2022 ซึ่งหมายความว่า Shazam: Fury of the Gods จะเข้าฉายในวันพุธก่อนวันหยุดคริสต์มาส และจะเปิดในวันเดียวกับ Puss in Boots: The Last Wish นอกจากนี้ ผู้กำกับ David F. Sandberg ยังได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงหยอกล้อ ถึงการเลื่อนวันฉายของ Shazam 2 ที่เขากำกับ โดยบอกว่า “ด้วยความยินดีคาเมรอน”

แม้ว่า Avatar: The Way of Water จะฉายในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน ก็ไม่ได้ความว่า Shazam: Fury of the Gods จะสามารถคว้าความสำเร็จได้ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สตูดิโอ Warner Bros. ต้องฉายตรงกับภาพยนตร์ของ James Cameron ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 ที่ Avatar ภาคแรกเข้าฉาย ทางสตูดิโอ Warner Bros. ก็ได้เปิดตัวภาพยนตร์ Sherlock Holmes ของผู้กำกับ Guy Ritchie หลังจาก Avatar เข้าฉายเพียง 1 สัปดาห์ และถึงแม้ว่า Sherlock Holmes จะไม่ได้กวาดรายได้เป็นอันดับ 1 ในสัปดาห์ที่เปิดตัว แต่ก็สามารถทำรายได้เปิดตัวสัปดาห์แรกในอเมริกาสูงถึง 62 ล้านดอลลาร์ และกวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง 524 ล้านดอลลาร์

และจากวันฉายของ Shazam: Fury of the Gods ที่อยู่ในช่วงปลายเดือนธันวาคม คือวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ Aquaman เข้าฉายในปี 2018 โดยภาพยนตร์ Aquaman ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก กลายเป็นภาพยนตร์จาก DC ที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลก ด้วยรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ แถมภาพยนตร์ Shazam ก็เป็นภาพยนตร์แนวครอบครัว คือเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี จึงมีความเป็นไปได้ที่หลังจากผู้ชมได้ดู Avatar: The Way of Water และอยากจะหาภาพยนตร์เบาสมองซักเรื่องดู Shazam: Fury of the Gods ก็อาจจะเป็นทางเลือกนั้น ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่ Shazam: Fury of the Gods จะสามารถกวาดความสำเร็จมาครองได้เหมือนที่ทำไว้ในภาคแรก