มีรายงานออกมาว่า Legendary Pictures กำลังพิจารณาที่จะหาสตูดิโอใหม่มาเป็นผู้จัดจำหน่าย หลังจากที่ข้อตกลงล่าสุดของพวกเขากับ Warner Bros. Discovery เพิ่งหมดอายุลง ซึ่งแฟรนไชส์ของ Legendary ที่ตอนแรกอยู่กับ Warner Bros. คือ Dune และ Gozilla

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีรายงานจาก The Ankler ออกมาว่า Legendary Pictures กำลังจะหาสตูดิโอเจ้าใหม่มาเป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์แทนที่ของ Warner Bros. Discovery ซึ่งในรายงานได้มีการระบุว่า ทั้ง Sony Pictures และ Paramount Pictures ต่างร่วมมือกันทำข้อตกลงกับทาง Legendary และดูเหมือนว่า Sony Pictures จะถูกจับตามองในฐานะผู้นำ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสัญญากับ Warner Bros. จะสิ้นสุดลง แต่ก็ยังมีโอกาสที่ Legendary จะต่อสัญญากับ Warner Bros. ต่อไป เนื่องจากสตูดิโอรายงานว่ากำลังเจรจาข้อตกลงใหม่อยู่ ก่อนหน้านี้ Legendary ได้ร่วมมือกับ Warner Bros. ตั้งแต่ปี 2005 ถึงปี 2014 และก็ได้แยกทางกันไป ก่อนที่จะกลับมาร่วมมือกันอีกครั้งในปี 2020

เมื่อปีก่อนได้มีข่าวออกมาว่า Legendary Pictures ไม่ค่อยพอใจกับกลยุทธ์ “Project Popcorn” ของ Warner Bros. คือกลยุทธ์ที่จะเปิดตัวภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์พร้อมกับเปิดตัวทาง HBO Max ในวันเดียวกัน ซึ่งเมื่อปีก่อนก็มีภาพยนตร์ที่ถูกใช้กลยุทธ์นี้ ได้แก่ Godzilla vs. Kong และ Dune โดยภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องนี้ได้รับการสนับสนุนจากทาง Legendary ด้วยเหตุนี้ ทางสตูดิโอ Legendary จึงพิจารณาการดำเนินการทางกฎหมายโดยสังเขป และมีรายงานออกมาว่าพวกเขาได้แสวงหาเงินมากถึง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อปล่อยภาพยนตร์ Godzilla vs. Kong ลงบทแพลตฟอร์มสตรีมมิง แต่ท้ายที่สุดแล้วภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องนี้ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นผลงานที่ทำรายได้สูงสุดให้กับ Project Popcorn และทั้ง 2 เรื่องก็ได้รับไฟเขียวให้มีการสร้างภาคต่อ

ตามรายงานที่ออกมาระบุว่า Legendary เริ่มพิจารณาข้อตกลงกับสตูดิโออื่นๆ ในระหว่างการควบรวมกิจการของ Warner Bros. Discovery เมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจาก David Zaslav ซีอีโอคนใหม่ของ Warner Bros. ได้ตัดข้อตกลงหรือยกเลิกโครงการทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับผู้กำกับที่มีชื่อเสียง ก่อนหน้านี้ Legendary ได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการขายกิจการหรือการควบรวมกิจการกับบริษัทอื่น แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังๆ มานี้ทาง Legendary ไม่ได้ร่วมือแค่กับ Warner Bros. เท่านั้น แต่ยังได้ไปร่วมสร้างภาพยนตร์ให้กับแพลตฟอร์มสตรีมมิงยักษ์ใหญ่หลายเจ้า ได้แก่ Enola Holmes และ Texas Chainsaw Massacre ของ Netflix, Paper Girls ของ Amazon Prime Video และ Fresh ของ Hulu (บริษัทลูกของ Disney)

ในขณะนี้ โปรเจกต์ภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึงของ Legendary รวมถึงภาคต่อของ Dune และ Godzilla vs. Kong นอกจากนี้สตูดิโอก็กำลังพัฒนาโปรเจกต์ภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง ได้แก่ Enola Holmes 2, A Christmas Story Christmas, The Toxic Avenger ฉบับรีบูต, Duke Nukem, Gundam ฉบับคนแสดง และ God Country อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเพียงแต่โปรเจกต์ภาพยนตร์เท่านั้น เพราะ Legendary ก็กำลังจะมีโปรเจกต์ซีรีส์ด้วยเช่นกัน ได้แก่ ซีรีส์ Dune: The Sisterhood ภาคแยกจากภาพยนตร์ Dune, ซีรีส์ภาคแยกจากจักรวาล MonsterVerse ที่จะฉายทาง Apple TV+, ซีรีส์ Sin City, ซีรีส์ My Friend Pedro และซีรีส์ Heathcliff โดยท้ายที่สุดแล้วผู้จัดจำหน่ายคนใหม่ของ Legendary จะเป็นสตูดิโอไหนนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไป