หลังจากหลายเดือนที่ผู้ใช้ออกมาบ่น Netflix กันยกใหญ่เรื่องการหยุดแชร์รหัสผ่าน ในที่สุด Netflix ก็ได้ออกมาเผยถึงแผนการทั้งหมดรวมถึงกฎระเบียบใหม่ที่จะมาพร้อมกับแผนการนี้ ซึ่งบอกได้เลยว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้อาจทำให้หลายคนปวดหัวและเลือกที่จะเบือนหน้าหนีไปหาแพลตฟอร์มอื่น

ในที่สุด Netflix ก็ได้เปิดออกเผยรายละเอียดของแผนการยุติการแชร์รหัสผ่าน ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อจู่ๆ Netflix ก็ออกมาประกาศว่าจะไม่อนุญาตให้มีการแชร์รหัสผ่านอีกต่อไป พร้อมบอกเป็นนัยว่าจะมีการจับ IP ของผู้ใช้เพื่อดูตำแหน่งในการเข้าใช้งาน ซึ่งจะเริ่มกฎใหม่นี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยในช่วงที่ผ่านมา Netflix ได้ทำการพัฒนาแผนนำร่องของระบบใหม่นี้ และในตอนนี้ก็ได้มีการทดสอบเวอร์ชันใหม่ของแผนการนี้แล้วในหลายประเทศในละตินอเมริกา

สำหรับแผนการห้ามแชร์รหัสผ่านของ Netflix ที่เปิดเผยออกมานี้จะมีเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้แบ่งปันรหัสของตัวเองในวงกว้าง โดยทาง Netflix จะทำการแจ้งให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ผ่าน Wi-Fi ที่บ้านของตัวเองอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุกๆ 31 วัน แพลตฟอร์มจะยังคงอนุญาตให้สมาชิกแชร์บัญชีระหว่างอุปกรณ์หลายเครื่อง แต่อุปกรณ์เหล่านั้นจะต้องอยู่ในครัวเรือนเดียวกัน หรือก็คืออยู่ในรัศมีใกล้เคียงกัน ส่วนจำนวนของอุปกรณ์ที่อนุญาตให้แชร์นั้นจะขึ้นอยู่กับระดับของแพ็คเกจที่สมัคร และหากใครที่พยายามลงชื่อเข้าใช้รหัสเดียวกันนอกพื้นที่ที่กำหนดไว้ หรือนอกบ้าน อุปกรณ์นั้นก็จะถูกบล็อคจากบัญชีทันที

อธิบายแบบง่ายๆ ก็คือ ต่อไปคุณจะดู Netflix ได้แค่ที่บ้านเท่านั้น ถ้าหากคุณลงชื่อเข้าใช้รหัสที่ใช้ที่บ้านกับโทรศัพท์ตอนอยู่นอกบ้าน โทรศัพท์ของคุณก็จะถูกบล็อคไม่ให้สามารถเข้ารหัสนั้นผ่านโทรศัพท์ได้อีก แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะ Netflix ก็ได้คิดวิธีแก้ขัดเอาไว้แล้วในกรณีที่คุณเดินทางออกไปท่องเที่ยวยังต่างจังหวัดหรือต่างเมือง คุณจะยังสามารถลงชื่อเข้าใช้รหัสของคุณที่ดูประจำที่บ้านได้ แต่ต้องลงชื่อเข้าใช้ผ่านทีวีหรือคอมพิวเตอร์เท่านั้น และจะสามารถลงชื่อเข้าใช้ในอุปกรณ์นั้นได้ 7 วัน โดยไม่ถูกแบน แต่หากอยู่นานกว่านั้นก็อาจจะโดนแบน อันนี้คงมีการปรับแก้เรื่อยๆ ในอนาคต

การที่ Netflix เริ่มให้ความสนใจเรื่องการห้ามแชร์รหัสผ่านเป็นเพราะในปีที่ผ่านมาพวกเขาได้สูญเสียจำนวนผู้ใช้ไปพอสมควรและทำให้ผลประกอบการออกมาไม่ดีนัก ซึ่งมีการประมาณการว่าปัจจุบันมีผู้ใช้ที่แชร์รหัสผ่านกันมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก ดังนั้น พวกเขาจึงหวังที่จะจำกัดการใช้และให้คนที่แชร์รหัสกับคนอื่นไปสมัครรหัสใหม่เป็นของตัวเอง และคาดว่าจะมีจำนวนผู้สมัครสมาชิกมากขึ้นกว่าปัจจุบัน หรือก็คืออยากได้ผลประกอบการที่ดีขึ้นนั่นแหละ อย่างไรก็ตาม ในกรณีของคนที่ไม่อยากสมัครรหัสใหม่ก็ยังสามารถยืมรหัสเพื่อนได้แต่จะต้องจ่ายเพิ่มเติม สุดท้ายแล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ Netflix คิดไว้หรือไม่ พวกเขาจะได้คนสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นหรือจะกลายเป็นการสูญเสียสมาชิกจำนวนมหาศาลกันแน่? ทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไป