Ted Sarandos ซีอีโอของ Netflix เปิดเผยว่าจะมีแพ็คเกจแบบมีโฆษณามากขึ้นในอนาคต
หลังจากเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาที่ทาง Netflix ได้ทำการเปิดตัวแพ็คเกจใหม่แบบมีโฆษณาไปใน 12 ประเทศ (ประเทศไทยยังไม่มี) โดยหลังจากผ่านมา 1 เดือน ล่าสุด Ted Sarandos ซีอีโอร่วมของ Netflix ได้ออกมาเปิดเผยว่ามีแนวโน้มที่ในอนาคตจะมีโฆษณามากขึ้น รวมถึงจะมีแพ็คเกจใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ชม
แพ็คเกจแบบมีโฆษณาหรือที่มีชื่อว่า Basic with ads ที่ Netflix ได้เปิดตัวออกมาเมื่อ 1 เดือนก่อนนั้นมีราคาอยู่ที่ 6.99 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน หรือประมาณ 244 บาท ซึ่งผู้ที่สมัครแพ็คเกจนี้จะต้องรับชมโฆษณาในระหว่างการใช้งาน Netflix โดยจะเป็นโฆษณาแบบกดข้ามไม่ได้ความยาวประมาณ 4-5 นาทีต่อชั่วโมง หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือ หากคุณดูหนังความยาว 2 ชั่วโมง คุณก็จะต้องดูโฆษณา 2 ครั้ง ซึ่งมีความยาวรวมกันประมาณ 8-10 นาที และอย่าลืมว่ามัน กดข้ามไม่ได้! ปัจจุบันนี้มีแพ็คเกจแบบมีโฆษณาอยู่แค่แบบเดียว ส่วนแพ็คเกจอื่นๆ ที่เหลือก็จะยังคงเป็นแบบเดิมที่เรารู้จักกันคือไม่มีโฆษณาแต่จะมีราคาสูงกว่า มีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ Basic ราคา 9.99 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (350 บาท) ดูความละเอียดได้แค่ 720p, Standard ราคา 15.49 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (542 บาท) ดูได้ถึง 1080p และสุดท้ายคือ Premium ราคา 19.99 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (700 บาท) ดูได้ถึงความละเอียดแบบ 4K อย่างไรก็ตาม ราคาทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือราคาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในประเทศไทยของเรานั้นเรตราคาจะต่างกันและจะมีราคาถูกกว่ามาก โดยในบ้านเรามีแพ็คเกจ Netflix ให้เลือกทั้งหมด 4 แบบดังนี้ มือถือ 99 บาท/เดือน, พื้นฐาน 279 บาท/เดือน, มาตรฐาน 349 บาท/เดือน และพรีเมียม 419 บาท/เดือน จากราคานี้จะเห็นได้ว่าของบ้านเรามีราคาถูกกว่าพอสมควร ดังนั้น เมื่อแพ็คเกจแบบโฆษณาเข้าไทยจึงมีแนวโน้มว่าน่าจะมีราคาไม่เกิน 200 บาท/เดือน ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวเรื่องนี้ คงต้องรอดูกันไปก่อน
ในงาน UBS Global TMT Conference เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Ted Sarandos ซีอีโอร่วมของ Netflix ได้ขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งเขาได้เปิดเผยว่าในที่สุดผู้ใช้ Netflix ก็จะมีตัวเลือกที่มากขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยเขาได้กล่าวว่า
เรามีหลายระดับในปัจจุบัน [หมายถึงแพ็คเกจ] ดังนั้น มีแนวโน้มว่าเราจะมีแพ็คเกจแบบมีโฆษณาในหลายระดับเมื่อเวลาผ่านไป แต่ยังไม่มีอะไรจะพูดถึงในตอนนี้ และตัวผลิตภัณฑ์เองก็จะพัฒนาไปเรื่อยๆ ผมคาดว่ามันจะยอดเยี่ยมมาก แต่อย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป
นับตั้งแต่ Netflix เปิดตัวแพ็คเกจแบบมีโฆษณาโดยร่วมมือกับ Microsoft บริษัทก็เปิดตัวคุณสมบัติการจัดการการเข้าถึงและอุปกรณ์ ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถออกจากระบบของอุปกรณ์ที่ต้องการได้ [อุปกรณ์ที่เคยล็อกอินเอาไว้] และเพื่อแก้ปัญหาการแชร์รหัสผ่านระหว่างบัญชีภายนอกครัวเรือนของผู้ใช้ [เอารหัสให้คนอื่นไปดูแบบฟรีๆ] Netflix ก็มีแผนที่จะเปิดตัวคุณสมบัติการโอนข้อมูลโปรไฟล์ให้สำหรับ “ผู้ยืม” ซึ่งอาจมีการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม โดยในตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัดว่าระบบนี้จะเป็นอย่างไร แต่ทุกคนจะได้รู้กันเร็วๆ นี้ เพราะระบบนี้จะเริ่มใช้จริงในต้นปี 2023 ที่จะถึงนี้
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกไม่พอใจ แต่ Ted Sarandos ก็ได้ออกมาบอกถึงเหตุผลที่เขาทำแบบนี้ โดยเขาได้เคยกล่าวว่า Netflix “เพิกเฉย” ต่อปัญหาการแบ่งปันรหัสผ่านโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมมานานเกินไป และเป้าหมายคือการให้ผู้บริโภค “เห็นคุณค่าของ Netflix” ซึ่งสิ่งที่เขากล่าวมันก็ถูกต้องและไม่เกินจริง นอกจากนี้การที่พวกเขาตัดสินใจออกแพ็คเกจแบบมีโฆษณามาก็เพื่อช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้เช่นกัน เนื่องจากมีผู้ใช้หลายคนที่เลือกจะไม่สมัคร Netflix เพราะมองว่าค่าแพ็คเกจแพงจนเกินไป พวกเขาจึงพยายามหาสิ่งใหม่มาเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าที่มีความต้องการที่หลาก แต่หากให้จะพูดจริงๆ แพ็คเกจโฆษณานี้นั้นอาจจะมอบผลประโยชน์มหาศาลให้กับ Netflix เพราะนอกจากจะดึงดุดให้มีคนมาสมัครมาขึ้นแล้ว บริษัทก็จะยังได้ค่าโฆษณามหาศาลจากลูกค้าอีกหลายเจ้า แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อแพ็คเกจนี้ประสบความสำเร็จและมีคนสมัครใช้จำนวนมาก ซึ่งมันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่นั้นเราคงต้องรอติดตามกันต่อไป
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้