The Last of Us ของ HBO ทำให้เพลงของวง Depeche Mode จากยุค 80s มียอดสตรีมเพิ่มขึ้นกว่า 200%!
ในตอนที่ 1 ของซีรีส์ The Last of Us ของ HBO เพลง “Never Let Me Down Again” ของวง Depeche Mode ในปี 1987 ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นในเรื่องราว! อย่างไรก็ตาม หลังจากรอบปฐมทัศน์ที่ได้ฉายเปิดตัวไปก็ส่งผลให้เพลงนี้มียอดสตรีมเพลงเพิ่มขึ้น 200% ในทันที!
(บทความต่อไปนี้มีสปอยล์ตอนที่ 1 ของ The Last of Us)
หลังกำแพง Boston QZ ทางด้าน Joel (รับบทโดย Pedro Pascal) นักค้าของเถื่อนได้ใช้หนังสือ ‘The Billboard Book of Number One Hits’ ของ Fred Bronson เพื่อใช้ส่งข้อความที่เป็นรหัสถึงผู้รอดชีวิตอย่าง Bill (รับบทโดย Nick Offerman) และ Frank (รับบทโดย Murray Bartlett) แต่เมื่อ Ellie (รับบทโดย Bella Ramsey) ได้เข้ามาในชีวิตของเขาเพียงแค่ชั่วครู่ เธอก็สามารถถอดรหัสของพวกเขาได้! โดยมีความหมายดังนี้: หากเปิดเพลงยุค 60s หมายถึง “ไม่มีอะไร”, เพลงยุค 70s หมายถึง “มีสินค้ามาใหม่” และเพลงยุค 80s หมายถึง “เกิดปัญหา” ซึ่งในตอนจบของตอนที่ 1 เพลง “Never Let Me Down Again” จากปี 1987 ก็ถูกเปิดขึ้นมาทางวิทยุ
หลังจากการดัดแปลงมาสู่ไลฟ์แอ็กชันของวิดีโอเกมจาก PlayStation และ Naughty Dog ที่โด่งดังได้ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็นับว่าเป็นการเปิดตัวที่ใหญ่เป็นอันดับสองของ HBO นับตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งรองจากภาคแยกของ Game of Thrones อย่าง House of the Dragon เท่านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดแรงสั่นสะเทือนตามมาก็คงจะเป็นเพลง “Never Let Me Down Again” ของวง Depeche Mode ที่มีผู้เล่นมากกว่าสามเท่าในการสตรีมแบบออนดีมานด์ของสหรัฐฯ จากข้อมูลของบริษัทขายเพลงอย่าง Luminate (ผ่าน Billboard) เผยว่าการสตรีมเพิ่มขึ้นเป็น 220.5% ในชั่วข้ามคืน
ในช่อง YouTube อย่างเป็นทางการของวง Depeche Mode ก็มีการอัปเดตมิวสิควิดีโอเพลงนี้ โดยเพิ่มคำบรรยายว่า “(Heard during the HBO series: The Last Of Us)”
คุณสามารถรับชมเพลง “Never Let Me Down Again” ได้ด้านล่างนี้:
ตอนแรกของ The Last of Us รับชมได้ทาง HBO GO สำหรับตอนที่ 2 จะมาในวันที่ 22 มกราคมนี้ และตอนใหม่จะออกทุกสัปดาห์โดยซีซัน 1 จะมีทั้งหมด 9 ตอน
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้