สำหรับบ็อกซ์ออฟฟิศในช่วง Thanksgiving นี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วงเพราะรายได้รวมค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับปีอื่นๆ ซึ่งทาง Disney ก็ดูจะแห้งเหี่ยวไปมาก แต่ในขณะที่ Black Panther: Wakanda Forever จากทาง Marvel Studios ก็ยังคงขึ้นครองอันดับหนึ่งในในบ็อกซ์ออฟฟิศเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันด้วยรายได้กว่า 60-62 ล้านดอลลาร์จากการเข้าฉายในช่วงห้าวันนี้

โดย Black Panther: Wakanda Forever สามารถทำรายได้จากการเข้าฉายเมื่อวันพุธที่ผ่านมาได้อยู่ที่ 10 ล้านดอลลาร์จากโรงภาพยนตร์ 4,174 โรง รวมรายได้สะสมในประเทศอยู่ที่ 313.7 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะได้เพิ่มอีก 8.1 ล้านดอลลาร์จากการเข้าฉายในวันพฤหัสบดี

ส่วน Strange World แอนิเมชันเรื่องใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวในวันพุธที่ผ่านมาด้วยรายได้ 4.2 ล้านดอลลาร์จาก 4,174 โรงภาพยนตร์ หลังจากได้รับอันดับ B จากใน CinemaScore ก่อนที่จะได้เพิ่มอีก 2.5 ล้านดอลลาร์จากการเข้าฉายในวันพฤหัสบดี

ซึ่งในขณะนี้ Strange World กำลังเตรียมตัวสำหรับการเข้าฉายในวันที่ห้าด้วยรายได้กว่า 20-24 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการเปิดตัวที่แย่ที่สุดของทางแอนิเมชันจาก Disney แล้วสำหรับการเข้าฉายในช่วงวัน Thanksgiving เพราะโดยปกติแล้วแอนิเมชันจาก Disney มักจะขึ้นครองในช่วงวันหยุดแบบนี้เสมอ ยกตัวอย่างเช่น แอนิเมชันจากแฟรนไชส์ Frozen

หรืออย่างในปีที่แล้ว Encanto สามารถทำรายได้จากการเข้าฉาย 5 วันได้อยู่ที่ 7.8 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับการระบาดของ COVID-19 ก็ตาม หากย้อนกลับไปไกลกว่านั้นในปี 2019 Frozen 2 ก็สามารถขึ้นทำรายได้สูงที่สุดในประวัติการณ์ที่ 125 ล้านดอลลาร์จากการเข้าฉายในห้าวัน

ส่วน Strange World นั้นได้เปิดตัวเข้าฉายเพียงไม่กี่วันหลังจากการกลับมาของ ของ Bob Iger ในฐานะ CEO ของ Walt Disney Co. หลังจากที่มีการไล่ Bob Chapek ออกไปอย่างน่าตกใจ

ในขณะที่ Glass Onion: A Knives Out Mystery ผลงานของ Rian Johnson ที่นำแสดงโดย Daniel Craig โดยมีการคาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถทำรายได้อยู่ที่ 10-12 ล้านดอลลาร์จากในประเทศหลังจากที่เข้าฉายได้ 5 วัน ผ่านการเข้าฉายใน 638 โรงภาพยนตร์ที่อเมริกาและอีก 60 โรงภาพยนตร์ในแคนาดา แต่นอกเหนือจากนี้ก็จะเข้าฉายใน Netflix ต่อในเดือนธันวาคม

นอกจากนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมาก็ยังมี Devotion ภาพยนตร์แอ็กชันดราม่าสงรามเกาหลีจาก Sony ที่ว่าด้วยเรื่องราวของนักบินรบจากกองทัพเรือสองคนก็สามารถทำรายได้อยู่ที่ 1.8 ล้านดอลลาร์จากการเข้าฉายใน 3,228 โรงภาพยนตร์ ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถทำรายได้ในช่วงห้าวันแรกได้อยู่ที่ 9.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สามารถทำรายได้เพิ่มอีก 1.2 ล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี นำแสดงโดย Glen Powell จาก Top Gun: Maverick

The Menu ภาพยนตร์ดาร์กคอเมดี้จากทาง Searchlight ก็กำลังเข้าฉายในสัปดาห์ที่สองแล้ว โดยอยู่ในอันดับที่ 4 และทำเงินได้ในวันพุธที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.1 ล้านดอลลาร์จากการเข้าฉายใน 3,228 โรงภาพยนตร์ และในช่วงห้าวันนี้อาจจะทำรายได้อยู่ที่ 8 ล้านดอลลาร์หรือมากกว่านั้น

Bones and All ภาพยนตร์ดราม่าโรแมนติกของ Luca Guadagnino ว่าด้วยเรื่องคู่รักหนุ่มสาวกินคนที่แสดงโดย Taylor Russell และ Timothée Chalamet ก็ทำรายได้ไปประมาณ 921,000 ดอลลาร์ในวันพุธจากการเข้าฉายใน 2,727 โรงภาพยนตร์ โดยมีการคาดการณ์เอาไว้ว่าอาจจะทำรายได้ภายในห้าวันนี้อยู่ที่ 4 ล้านดอลลาร์

สุดท้ายคือภาพยนตร์ของ Steven Spielberg ในเรื่อง The Fabelmans หลังจากที่เปิดตัวในนิวยอร์กและลอสแองเจลิสไปเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมาก็ทำรายได้ไปประมาณ 400,000 ดอลลาร์จากในวันพุธที่ผ่านมา และก็ทำรายได้ไปอีก 470,000 ดอลลาร์จากในวันพฤหัสบดี โดยมีการคาดการณ์เอาไว้ว่าอาจจะทำรายได้ภายในห้าวันนี้อยู่ที่ 3.5 ล้านดอลลาร์