Al Madrigal นักแสดงผู้รับบทเป็น เจ้าหน้าที่ FBI นามว่า Alberto Rodriguez ในภาพยนตร์เรื่อง Morbius ได้ออกมาเปิดเผยว่า ภาคแยกของจักรวาล Spider-Man เรื่องนี้ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพียงแต่ว่ามันถูกตัดต่อและแก้ไขมากเกินไป

ภาพยนตร์เรื่อง Morbius เข้าฉายในอเมริกาครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากเข้าฉาย ปรากฎว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ทั้งจากแฟน ๆ และผู้ชมในแง่ลบ โดยมีปัญหามากมายเกี่ยวกับบทภาพยนตร์ เอฟเฟกต์ที่ล้าสมัย และการแสดงที่แบนราบ อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงทำรายได้มากกว่า 150 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก แถมภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสามารถทำกำไรได้หลังจากสร้างด้วยงบประมาณ 83 ล้านดอลลาร์

Morbius จะเล่าเรื่องราวของ Dr.Michael Morbius (รับบทโดย Jared Leto) ซึ่งเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการกระหายเลือดหลังจากเขาได้ทำการทดลองและฉีด DNA ของค้างคาวเข้าไปในร่างกาย เพื่อรักษาโรคเลือดที่เขาเป็นอยู่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังนำแสดงโดย Matt Smith ที่จะรับบทเป็น Milo เพื่อนสนิทของ Dr.Michael Morbius ที่ป่วยเป็นโรคเลือดเหมือนกัน และยังมี Al Madrigal ในบท Alberto Rodriguez เจ้าหน้าที่ FBI ที่กำลังตามล่า Morbius แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะโดนวิพากษ์วิจารณ์ไปในแง่ลบ แต่ดูเหมือนว่าสตูดิโออย่าง Sony ก็ยังคงมีแผนที่จะผลิตภาพยนตร์เดี่ยวของตัวละครจากจักรวาล Spider-Man ออกมาอย่างไม่ขาดสาย

ล่าสุดนักแสดง Al Madrigal ได้ให้สัมภาษณ์กับ ComicBookMovie (CBM) เขาได้บอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คนส่วนใหญ่คิด โดย Al Madrigal ได้กล่าวว่า

อย่างแรกเลย Morbius ไม่ได้แย่อย่างที่ทุกคนคิด แต่แน่นอนว่ามันมีปัญหาและพวกเขาตัดสินใจที่จะหั่นทุกอย่างออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ มีฉากตลกของผมที่ถูกตัดออกไป ผมตลกมาก…พวกเขาฆ่าผมชัด ๆ และผมคิดว่าที่พวกเขาทำแบบนั้นมันเป็นเพราะ COVID-19 ที่ทำให้พวกเขามีเวลากับการกระบวนการตัดต่อมากเกินไป จนสุดท้ายมันออกมาเป็นแบบนี้

ข้อเท็จจริงที่ Morbius ถูกถ่ายทำในปี 2019 และไม่ได้รับการปล่อยตัวเป็นเวลาสามปีแสดงให้เห็นว่า COVID-19 ไม่ใช่ปัจจัยเดียวสำหรับระยะเวลาหลังการผลิตที่ยาวนานของภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะว่ามีการถ่ายทำใหม่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ดังนั้นการที่บอกว่า COVID-19 ทำให้พวกเขามีเวลามากเกินไปจนภาพรวมของภาพยนตร์ออกมาแย่ จึงเป็นเรื่องที่ฟังไม่ค่อยขึ้นนัก เพราะภาพยนตร์หลายเรื่องที่ออกฉายในปี 2021 และปี 2022 ก็ต่างได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทั้งสิ้น แต่ปรากฎว่ามีภาพยนตร์หลายเรื่องที่ได้รับผลกระทบ แต่ภาพยนตร์ยังออกมาดีงามไร้ที่ติเหมือนเดิม

การตัดต่อที่ดีก็มีส่วนช่วยให้ภาพยนตร์ออกมาดีขึ้นได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถึงจะตัดต่อออกมาได้ดีแค่ไหนก็ตาม หากว่าบทภาพยนตร์ไม่สมบูรณ์ บวกกับการแสดงที่แบนราบ และงานเอฟเฟกต์ที่ล้าสมัย การตัดต่อที่ดีที่สุดในโลกก็ไม่สามารถช่วยให้ภาพยนตร์ออกมาดีได้ ถ้าหากยังมีปัญหาเยอะขนาดนี้ มีความคิดเห็นมากมายว่าทำไม Morbius ถึงออกมาเป็นแบบนี้ และหนึ่งในนั้นก็คือ การขาดวิสัยทัศน์ที่เป็นรูปธรรม ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการผลิตที่ดี ตอนทำได้เพียงหวังว่า ทางสตูดิโอ Sony จะนำความล้มเหลวครั้งนี้กลับไปศีกษาและเรียนรู้ เพื่อในอนาคต ภาพยนตร์เรื่องต่อไปที่จะออกมาจะได้ดีขึ้นและไม่เป็นแบบนี้อีก