Bob Chapek ซีอีโอของ Disney ได้ออกมายืนยันแล้วว่าสตูดิโอ Disney กำลังมีแผนการที่จะเข้าซื้อหุ้นส่วนที่เหลือของ Hulu ซึ่งบริษัท Comcast เป็นเจ้าของอยู่ การเข้าซื้อในครั้งนี้ก็เพื่อหวังที่จะรวม Hulu และ Disney+ เข้าด้วยกันเป็นแพลตฟอร์มใหม่ โดยในขณะเดียวกัน Disney ก็ได้ออกมาปฏิเสธที่จะขายหุ้นของ ESPN (บริษัทในเครือ) ที่มีแพลตฟอร์มเป็นของตัวเองเช่นกัน ได้แก่ ESPN+

ล่าสุดที่งาน Goldman Sachs Communacopia + Technology Conference ประจำปี 2022 ในสัปดาห์นี้ (วันที่ 12-16 กันยายน) Bob Chapek ซีอีโอคนปัจจุบันของ Disney ได้ทำการพูดคุยกับนักลงทุนของบริษัท ซึ่งในระหว่างการพูดคุยกันนั้น เขาได้ทำการแถลงการณ์เกี่ยวกับเป้าหมายทางธุรกิจของ Disney ในอนาคต และได้มีการพูดถึงการรักษาผลประกอบการ รวมถึงการเพิ่มเงินลงทุนเพื่อหนุนธุรกิจสตรีมมิงมากขึ้น โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Hulu Bob Chapek ได้บอกกับนักลงทุนว่า

ผมเชื่อว่าเราต้องขึ้นเป็นเจ้าของ Hulu เพียงคนเดียว เพื่อจะทำการรวมแพลตฟอร์ม Hulu เข้ากับ Disney+ และถ้าหากเราไปถึงจุดนั้นได้ ผมก็ยินดีที่จะพยายามอำนวยความสะดวกให้กับทุกคนมากกว่านี้

ย้อนกลับไปในปี 2019 ในช่วงที่ทาง Hulu กำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก แต่ยังโชคดีที่จู่ๆ สตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่าง Disney ได้ตัดสินใจเข้าซื้อหุ้น Hulu มากถึง 60% และกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างเป็นทางการ ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของแผนการควบรวมกิจการของ Disney และ 20th Century Fox เนื่องจากสตรีมมิงของ Hulu นั้นเป็นบริการที่ทาง Fox สร้างขึ้นมาในปี 2010 เพื่อเป็นช่องทางสำหรับการสตรีมภาพยนตร์และซีรีส์ของ Fox ด้วยเหตุนี้ ทาง Disney จึงต้องเข้าซื้อ Hulu และได้ใช้เป็นช่องทางในการฉายภาพยนตร์และซีรีส์ของ Fox ที่อยู่ในเรตผู้ใหญ่แทนการฉายลงบน Disney+ โดยซีรีส์ที่ฉายทาง Hulu ได้แก่ Pam & Tommy และ Pistols เป็นต้น ซึ่งในบ้านเราไม่มี Hulu ซีรีส์พวกนี้จึงเข้าฉายทาง Disney+ แทน และนอกจากนี้ เนื้อหาที่อยู่ใน Hulu ยังรวมถึงรายการทีวีที่รวบรวมได้จากทั้ง Fox, ABC และ FX Networks อีกด้วย โดยเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการจัดระเบียบแพลตฟอร์ม Hulu ใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น “FX on Hulu”

โดยในปัจจุบันนี้ ผู้ชมจำนวนมากในอเมริกากำลังเผชิญกับความสับสนว่าแบรนด์สตรีมมิงทั้ง 3 แบรนด์ของ Disney ได้แก่ Disney+, Hulu และ ESPN+ นั้นทำงานร่วมกันอย่างไร มีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร เพราะการแยก Hulu และ Disney+ ออกจากกันโดยสิ้นเชิงนั้นสร้างความงงงวยให้กับผู้คนจำนวนมาก และเป็นปัญหาอย่างมาก มีผู้ชมหลายคนที่มีความคิดว่า เนื้อหาที่ Disney เป็นเจ้าของทั้งหมดควรพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ในทุกแพลตฟอร์มเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ และไม่ต้องวุ่นวายสมัครหลายแบรนด์ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าทาง Disney เองก็ได้ยินเสียงบ่นของผู้ใช้งานเช่นกัน เนื่องจากซีอีโอใหญ่อย่าง Bob Chapek ก็เล็งเห็นว่าการรวม Disney+ และ Hulu เข้าด้วยกันเป็นสิ่งสำคัญลำดับต่อไปที่บริษัทต้องทำ

ในด้านของ Comcast ที่เป็นหุ้นส่วนเงียบๆ ของ Hulu มาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากหลังการควบรวมกิจการของ Disney และ Fox ทางบริษัท Comcast ก็ได้เข้าถือหุ้นของ Hulu อยู่ที่ 33% และข้อตกลงดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้ทาง Disney ได้เจรจาซื้อหุ้น Hulu ในส่วนที่เหลือของ Comcast ได้ตามมูลค่าในตลาด ซึ่งเป็นราคาที่ยุติธรรม โดยการเข้าซื้อหุ้นรอบนี้จะเริ่มขึ้นในปี 2024 นอกจากนี้ ย้อนกลับไปในปี 2021 ทางบริษัท Comcast ได้เคยออกมากล่าวหา Disney ว่าจงใจจำกัดการเติบโตของ Hulu เพื่อควบคุมราคาตลาดด้วยการละทิ้งการเข้าถึงระหว่างประเทศของ Hulu หรือก็คือไม่ยอมนำ Hulu ไปเปิดตัวในตลาดต่างประเทศ แต่กลับไปผลักดัน Disney+ Hotstar ในตลาดต่างประเทศแทน ซึ่งหลังจากที่มีปัญหาเกิดขึ้น ทาง Comcast ก็ได้ตัดสินใจเริ่มดึงเนื้อหาจาก NBCUniversal TV, Bravo, ภาพยนตร์ของ Universal และอื่นๆ อีกมากมายออกจาก Hulu และนำเนื้อหาเหล่านั้นไปสร้างบริการสตรีมมิงแบรนด์ใหม่ในชื่อ Comcast Peacock อย่างไรก็ตาม ตอนนี้การเข้าซื้อหุ้นของ Disney ยังคงเป็นเพียงแผนการเท่านั้น สุดท้ายแล้วทาง Disney จะสามารถครอบครอง Hulu ได้แต่เพียงผู้เดียวหรือไม่นั้นไม่มีใครรู้ คงต้องรอติดตามข่าวสารกันต่อไป