มีรายงานใหม่อ้างว่า Kevin Feige พิจารณาอย่างจริงจังที่จะออกจาก Marvel Cinematic Universe (MCU) ในช่วงเฟสที่ 2 เพื่อเทคโอเวอร์ DC เนื่องจากการมีปัญหาส่วนตัวกับ Ike Perlmutter หลังจากทำงานและผลิตภาพยนตร์ของ Marvel ให้กับสตูดิโออื่นๆ มานานหลายปี

Kevin Feige ได้รับมอบหมายให้ดูแล Marvel Studios ในช่วงกลางปี ​​2000 เพื่อเริ่มพัฒนาบอร์ดบริหารขึ้นมาใหม่และการสร้างภาพยนตร์ที่มีตัวละครในประเภท “B-list” คำแนะนำของเขาที่มีให้กับ Marvel Studios และ MCU ได้กลายเป็นแก่นสำคัญของวงการฮอลลีวูดในทศวรรษที่ผ่านมา ภาพยนตร์ของ MCU ทำเงินได้มากกว่า 26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก และการขยายตัวล่าสุดของสตูดิโอสู่หน้าจอขนาดเล็กกับ Disney+ ได้แสดงให้เห็นว่าจักรวาลภาพยนตร์ที่เกิดขึ้นนั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง

ในช่วงเวลาเดียวกับที่ MCU เฟื่องฟู ทางด้าน Warner Bros. ก็ต้องการสร้างความสำเร็จนี้ขึ้นใหม่ด้วยตัวละครจาก DC Comics มาสู่บนหน้าจอขนาดใหญ่ เริ่มจาก Man of Steel ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเริ่มต้นจักรวาลภาพยนตร์ของเขา แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ตามมาด้วยปัญหาที่แตกแยกกัน การปิดกั้นของผู้บริหาร และก็ได้พบกับทางออกในที่สุดจาก Zack Snyder ที่ทำให้ DC Extended Universe สามารถหมุนอนาคตไปต่อได้หลังจากปล่อย Justice League ออกมา นับตั้งแต่นั้นมา ภาพยนตร์ของ DC ก็เริ่มมีจุดยืนโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันโดยตรงกับการเล่าเรื่องที่เชื่อมโยงกันอย่างมั่นคงในแบบที่ Marvel ดูเหมือนจะเชี่ยวชาญกว่าภายใต้การนำของ Feige และในขณะที่ Feige ถูกมองว่าเป็นผู้นำที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้สำหรับ Marvel Studios ที่จะเข้าสู่เฟสที่ 4 และอาจจะเป็นคนที่ไม่มีวันจากสตูดิโอนี้ไป แต่ความคิดนี้ก็อาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป

หากย้อนกลับไปในช่วงเฟสที่ 2 ของ MCU ทางด้าน Feige เริ่มมีความไม่พอใจ เนื่องจากการกำกับดูแลของ Ike Perlmutter ผู้เป็น CEO ของ Marvel Entertainment ซึ่งก็เป็นหัวหน้าโดยตรงของ Feige จากความคับข้องใจที่เพิ่มขึ้นของเขากับข้อจำกัดที่ Perlmutter ใส่ในภาพยนตร์ที่เขาสามารถสร้างและสามารถทำให้ตัวละครของพวกเขาสามารถใช้ได้ ดูเหมือนว่า Feige คิดอย่างจริงจังที่จะออกจาก Marvel เพื่อย้ายไปฝั่ง DC ข้อมูลนี้มาจากรายงานล่าสุดของ Puck News โดยที่ Matthew Belloni คนวงในได้เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวที่อาจเกิดขึ้นซึ่งก็ยังไม่ได้เกิดขึ้นขณะที่พูดคุยถึงอนาคตของ DC กับ Warner Bros. Discovery เชิญอ่านข้อความที่ตัดตอนมาของ Belloni ด้านล่างนี้:

Zaslav สามารถมุ่งไปที่ Feige อีกครั้ง ซึ่งฉันบอกอย่างจริงจังกับ Warners เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อเขาพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการกำกับดูแลของ CEO ที่บ้าคลั่งของ Marvel อย่าง Ike Perlmutter (Iger และ Horn เข้าข้าง Feige อย่างชาญฉลาด)

ทาง DC ได้ทำการติดต่อกับ Feige ในอดีตเพื่อประเมินความสนใจที่จะออกจาก Marvel ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่การได้รับรู้ว่า Feige คิดอย่างจริงจังว่าจะย้ายออกไปนั้นเป็นเรื่องที่น่าสังเกต ความขัดแย้งระหว่างเขากับ Ike Perlmutter ได้รับการบันทึกไว้เป็นอย่างดีในอดีต เนื่องจาก CEO ของ Marvel ไม่สนับสนุน Feige ที่ผลักดันให้ภาพยนตร์ที่มีผู้หญิงหรือคนผิวสีเป็นฮีโร่หลัก สิ่งนี้ขับเคลื่อนโดยความเชื่อของ Perlmutter ว่าพวกเขาจะไม่ขายของเล่น ในที่สุด Feige สามารถเลี่ยง Perlmutter ได้ในปี 2015 ใกล้กับส่วนท้ายของเฟส 2 และเริ่มรายงานตรงต่อ Bob Iger ผู้เป็น CEO ของ Disney ในขณะนั้น นี่เป็นการปูทางให้สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Captain Marvel, Black Panther และแฟรนไชส์ใหม่อื่นๆ อีกมากมายที่จะสร้างขึ้นในเฟส 3

ในขณะที่ Disney ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องในการรักษา Kevin Feige ให้อยู่ในความสำคัญของ MCU การเคลื่อนไหวที่อาจเกิดขึ้นจะเป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนเกมในอุตสาหกรรมบันเทิง อีกทั้ง Disney น่าจะมีการส่งเสริม Louis D’Esposito ให้รับช่วงต่อใน Marvel Studios ในกรณีที่ไม่มี Feige เว้นเสียแต่ว่าเขาและครีเอทีฟคนอื่นๆ ได้ออกจาก Marvel เพื่อไป DC กับเขาด้วย ในขณะเดียวกัน ถ้าการควบคุมของ Perlmutter ยังคงป้องกันไม่ให้แฟรนไชส์กระจายออกไป และแผน MCU โดยรวมของ Feige ได้สูญหายไปในขณะที่การเป็นผู้นำของ Tanos ได้เกิดขึ้น ในทางตรงกันข้าม Feige คงจะเป็นคนที่ดูแล Batman v Superman: Dawn of Justice และอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อ DC อย่างแน่นอน