A24 ถือเป็นหนึ่งในสตูดิโอภาพยนตร์อินดี้ที่มาแรงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ผลงานส่วนใหญ่ของสตูดิโอนี้มักได้รับการยอมรับจากเหล่านักวิจารณ์และเข้าชิงรางวัลเวทีใหญ่ๆ มากมาย ซึ่งดูเหมือนว่าสตูดิโอกำลังจะก้าวไปอีกขั้น เนื่องจากล่าสุดมีรายงานออกมาว่า A24 กำลังมีแผนที่สร้างภาพยนตร์เชิงพาณิชย์มากขึ้น

ตามรายงานใหม่จาก The Wrap ได้มีการยืนยันออกมาว่า Noah Sacco ผู้บริหารการเข้าซื้อกิจการของ A24 กำลังทำการค้นหาภาพยนตร์แอ็กชันและโปรเจกต์ทรัพย์สินทางปัญญาขนาดใหญ่มาพัฒนา อีกทั้งในรายงานยังได้ระบุอีกว่า A24 กำลังอยากทำแฟรนไชส์ขนาดใหญ่ และสตูดิโออาจมุ่งเน้นไปที่การนำเรื่องราวที่มีอยู่แล้วมาดัดแปลงแทนที่จะสร้างใหม่ขึ้นมาเอง โดยในรายงานผู้บริหารฝ่ายจัดจำหน่ายของ A24 ได้กล่าวว่า

ทุกคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์อิสระตระหนักดีว่า A24 จำเป็นต้องหันไปหาภาพยนตร์เชิงพาณิชย์มากขึ้นควบคู่ไปกับผลงานที่เป็นศิลปะ ด้วยการประเมินมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจำเป็นต้องขยายไปสู่ภาพยนตร์เชิงพาณิชย์มากขึ้น

สาเหตุที่ทำให้ทางสตูดิโออยากเปลี่ยนโฟกัสไปทำภาพยนตร์เชิงพาณิชย์มากขึ้นอาจเป็นเพราะมีภาพยนตร์หลายเรื่องก่อนหน้านี้ที่ทำผลงานได้ไม่ดี อาทิ Waves (2019), The Green Knight (2021) และ Beau Is Afraid (2023) ที่ล้วนแต่ขาดทุนทุกเรื่อง โดยเฉพาะ Beau Is Afraid ที่มีรายงานออกมาว่าทำสตูดิโอขาดทุนไปมากกว่า 35 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้นับเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะหากใครที่เป็นแฟนๆ ของสตูดิโอ A24 ก็คงจะรู้ดีกันอยู่แล้วว่าสตูดิโอนี้ให้ความสำคัญกับคุณภาพของภาพยนตร์อย่างมาก ดังนั้น จึงน่าติดตามดูว่าเมื่อเปลี่ยนไปทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แล้วจะยังคงรักษาคุณภาพไว้ได้หรือไม่