Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในเดือนหน้า และนับเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ของแฟรนไชส์นี้ที่กำกับโดย Christopher McQuarrie เขาเป็นผู้กำกับคนแรกที่ได้กำกับมากกว่าหนึ่งภาคในแฟรนไชส์นี้ [ปกติเปลี่ยนผู้กำกับทุกภาค] ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีกาประกาศออกมาว่า Dead Reckoning จะถูกแบ่งออกเป็นภาพยนตร์ 2 ภาค โดยล่าสุด McQuarrie ได้ออกมาเปิดเผยว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจทำเช่นนี้

เมื่อไม่นานมานี้ผู้กำกับ Christopher McQuarrie ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งใหม่กับทาง Collider เกี่ยวกับภาพยนตร์ Mission: Impossible ภาคใหม่ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งในระหว่างการพูดคุยกัน ผู้กำกับได้เปิดเผยถึงเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจแบ่ง Mission: Impossible – Dead Reckoning ออกเป็น 2 ภาค โดยเขาได้อธิบายเอาไว้ว่า

เรารู้จัก Fallout ดี [ภาคก่อนหน้านี้] Fallout เติบโตขึ้นเพราะตัวละครและอารมณ์ทั้งหมดที่เราใส่ลงไปในเรื่องราว ทุกๆ สิ่งที่เราค้นพบใน Rogue Nation [ภาค 5] เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง ผมรู้ว่าผมต้องการเพิ่มนักแสดง และผมรู้ว่าผมต้องการให้ตัวละครแต่ละตัวมีบทบาทมากขึ้น ดังนั้น ผมจึงรู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะยิ่งใหญ่และยาวกว่า Fallout จนมันถึงจุดที่ผมต้องพูดว่า ‘ทำไมเราถึงต่อสู้กับเรื่องนี้ ทำไมเราถึงพยายามยัดเยียดให้ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมง? ทำไมเราไม่แบ่งครึ่งแล้วสร้างเป็นภาพยนตร์ 2 เรื่องล่ะ?’ นั่นเป็นเหตุผลจริงๆ ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์ 2 ภาค มันไม่ใช่แค่เรื่องราวที่ใหญ่ขึ้นแต่เราต้องการอารมณ์ที่มากขึ้นในภาพยนตร์

ใช่ มันใหญ่มาก และมันก็ซับซ้อนด้วยความจริงที่ว่าบางสิ่งใน Part Two จำเป็นต้องหยุดการถ่ายทำ Part One เอาไว้เพื่อถ่ายทำบางส่วนก่อน ไม่ว่าจะเป็นเพราะสภาพอากาศหรือความพร้อมของนักแสดงก็ตาม ไปจนถึงความท้าทายอื่นๆ ทั้งหมดที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องเผชิญในระหว่างที่เราสร้างมัน มีความท้าทายในการหยุดกลางคัน โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภาพยนตร์ตัวเต็มจะเป็นอย่างไร และพยายามคาดเดาว่ามันคืออะไรในภาคที่ 2 สิ่งเหล่านี้มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าทีมนี้ยอดเยี่ยมแค่ไหนและอดทนแค่ไหน รวมไปถึงนักแสดงด้วย

Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One มีกำหนดการเปิดตัวในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้