มีความจริงมากแค่ไหน? ใน Queen Charlotte: A Bridgerton Story กับเรื่องราวความรักสุดยุ่งเหยิง

เนื้อหาต่อจากนี้มีสปอยล์ซีรีส์เรื่อง Queen Charlotte: A Bridgerton Story

Queen Charlotte: A Bridgerton Story ของ Netflix เป็นซีรีส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากข้อเท็จริง ซึ่งอยู่ในจักรวาลของ Bridgerton ในการติดตามเรื่องราวความรักของสตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดอย่าง ราชินี Charlotte ที่รับบทโดย Golda Rosheuvel ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ ที่มีประเด็นสำคัญมากมายอันเป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น

Screen Shot 2566-05-11 at 16

กษัตริย์ George ที่ 3 นั้นมีอีกชื่อที่หลายคนรู้จักคือ ‘ชาวไร่ George’ จากความสนในด้านเกษตรกรรมของพระองค์ และ ‘กษัตริย์ George ผู้บ้าคลั่ง’ จากสภาพจิตที่ไม่ปกติของเขา ข้อเท็จจริงหนึ่งคือเขาถูกบังคับให้ต้องครองราชบัลลังก์โดยไม่อาจปฏิเสธได้ จนถึงวัยกลางคนเขาได้มีอาการทางจิตอย่างชัดเจน ซึ่งผู้อ่านสามารถอ่านเรื่องราวความจริงของ กษัตริย์ George ที่ 3 ได้ >ที่นี่<

Screen Shot 2566-05-11 at 16

ขณะเดียวกันก็มีคำถามจากผู้ชมว่า ราชินี Charlotte เป็นหญิงผิวสีจริงหรือไม่? ซึ่งในเรื่องนี้เธอต้องรับมือกับปัญหาด้านเชื้อชาติและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดขึ้น ขณะที่ข้อเท็จจริงเพียงอย่างเดียวคือรูปวาดของเธอนั้นมีสีผิวที่ซีด แต่หากสืบย้อนไปถึงสายเลือดเยอรมันของเธอจะพบว่าเธอเป็นหญิงผิวขาวจนถึงทศวรรษที่ 1940 ได้มีข้อสันนิษฐานว่าเธออาจมีเชื้อสายผิวสีหรือเชื้อสายผสมของ 2 เชื้อชาติที่มีการระบุในหนังสือ Sex and Race: Volume 1 ของ J.A. Rogers ว่า “เธอมีรูจมูกกว้าง และมีริมฝีปากหนา” แต่ก็ยังมีการถกเถียงกันมาจนถึงปัจจุบันว่าอาจมีการผิดพลาดในการแปล ซึ่งทาง Netflix ก็ได้ตัดสินใจให้ ราชินี Charlotte มีผิวสี

Screen Shot 2566-05-11 at 16

อีกคำถามที่ตามมาคือ มีการทดสอบจริงหรือไม่ในการคัดเลือกคู่ครองสำหรับกษัตริย์ ในตอนหนึ่งแม่ของกษัตริย์ George ที่รับบทโดย Michelle Fairley จัดการเรื่องการแต่งงานของพวกเขาโดยไม่คาดคิดมาก่อนว่า Charlotte จะมีผิวสีเข้ม แต่ด้วยปัญหาสุขภาพของ George ในเวลานั้นจึงจำเป็นที่จะต้องหาทายาทเพื่อสืบทอดบัลลังก์อย่างเร่งด่วน ในเรื่องยังมีการต่อสู้เกี่ยวกับความทเท่าเทียมในชุมชนของ Lady Danbury ที่รับบทโดย Arsema Thomas

อย่างไรก็ตามความเป็นจริงนั้นไม่ได้มีหลักฐานยืนยันช่วงเวลาเหล่านี้ในประวัติศาสตร์อังกฤษ และแม้ว่าการค้าทาสจะถูกยกเลิกในปี 1807 จนถึงปี 1838 ทานในอาณานิคมอังกฤษถึงได้รับการปลดปล่อยอย่างแท้จริง ดังนั้นไทม์ไลน์ของราชินี Charlotte ในปี 1761 ประชาชนผิวดำส่วนใหญ่ยังคงถูกล่ามโซ่ และห่างไกลจากการปฏิบัติเยี่ยงมนุษย์ ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ที่พวกเขาเหล่านั้นจะได้รับอนุญาตให้เป็นเจ้าของที่ดิน และมียศตำแหน่งในระดับ Load และ Lady

Screen Shot 2566-05-11 at 16

ในซีรีส์ได้บรรยายถึงชีวิตสมรสของทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ที่เริ่มต้นด้วยการถูกจับคลุมถุงชน และจบลงด้วยความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข และหลายคู่ในยุคสมัยนั้นมีการแต่งงานด้วยวิธีนี้อย่างแพร่หลาย ตามประวัติศาสตร์ยังอ้างว่า ทั้งคู่รักกันดี และ ราชินี Charlotte อุทิศตนเพื่อกษัตริย์ George อย่างแท้จริง ทั้งคู่ยังมีโอรสและธิดาจำนวนมากอีกด้วยซึ่งถือเป็นเครื่องชี้วัดว่าชีวิตสมรสของพวกเขาประสบความสำเร็จดี ราชินี Charlotte ยังเป็นราชินีที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดถึง 57 ปี แม้ว่าทั้งคู่จะพยายามอยู่ด้วยกันให้นานที่สุดก็ตาม แต่ด้วยโรคที่กษัตริย์ George เป็นทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกันช่วงต้นทศวรรษที่ 1800 จนกระทั่งสิ้นพระชนม์

Screen Shot 2566-05-11 at 16

ข้อเท็จจริงตามประวัติศาสตร์อีกเรื่องคือการค้นหาทายาทโดยชอบธรรมของราชินี Charlotte ซึ่งเป็นวิกฤตอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าพระองค์จะมีโอรสและธิดาที่มีชีวิตอยู่ถึง 13 คน แต่ไม่มีใครสามารถมีทายาทที่เป็นสายเลือดบริสุทธิ์สักคน จนในที่สุดเธอก็พบทายาทที่เหมาะสมนั่นคือราชินี Victoria ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุด ซึ่งยาวกว่าราชินี Elizabeth ที่ 2

Queen Charlotte: A Bridgerton Story สามารถรับชมได้แล้วทาง Netflix

ที่มา: Collider
0 ความคิดเห็น

คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้

poster
Queen Charlotte: A Bridgerton Story

ควีนชาร์ล็อตต์: เรื่องเล่าราชินีบริดเจอร์ตัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวจัดอันดับ

ประจำเดือนนี้