เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แฟนๆ ซีรีส์ The Last of Us ของ HBO ก็ได้เฮกัน เมื่อทางด้านเครือข่ายได้ออกมาประกาศต่ออายุซีซัน 2 ของซีรีส์เรื่องนี้อย่างเป็นทางการแล้ว! หลังจากนั้นซีรีส์ก็กำลังเดินทางมาถึงตอนที่ 3 โดยในตอนนี้ก็ได้สร้างประสบการณ์สุดลึกซึ้งให้แฟนๆ ได้ชมกันในแบบที่วิดีโอเกมไม่เคยทำมาก่อน!

คำเตือน: บทความนี้มีเนื้อหาสปอยล์!

ในตอนที่ 3 ของ The Last of Us มีชื่อว่า “Long Long Time” เราจะได้พบว่า Joel (รับบทโดย Pedro Pascal) ต้องเดินหน้าต่อกับ Ellie (รับบทโดย Bella Ramsey) หลังจากในตอนที่ 2 ที่ Tess (รับบทโดย Anna Torv) ต้องสละชีวิตของเธอเนื่องจากติดเชื้อ ซึ่งเธอก็ได้ขอให้ Joel พาตัว Ellie ไปหา Bill และ Frank โดยเชื่อว่าทุกอย่างจะสำเร็จ “แล้ว Bill กับ Frank คือใคร?” เป็นคำถามที่ Ellie ช่างสังสัยถาม Joel

Bill และ Frank ถูกเอ่ยชื่อถึงสองครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งพวกเขาคือซัพพลายเออร์ของ Joel และ Tess ในการช่วยกันหาสิ่งของต่างๆ และทั้งสองคนคือผู้ที่คิดไอเดียการส่งสัญญาณวิทยุเป็นรหัสโดยการเปิดเพลง โดยมีความหมายดังนี้: หากเปิดเพลงยุค 60s หมายถึง “ไม่มีอะไร”, เพลงยุค 70s หมายถึง “มีสินค้ามาใหม่” และเพลงยุค 80s หมายถึง “เกิดปัญหา” ซึ่งในตอนจบของตอนที่ 1 เพลง “Never Let Me Down Again” จากปี 1987 ก็ถูกเปิดขึ้นมาทางวิทยุ

Bill (รับบทโดย Nick Offerman) และ Frank (รับบทโดย Murray Bartlett) ต้องซ่อนตัวอยู่ในเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของบอสตัน โดยการสร้างกับดักไว้รอบๆ สำหรับตอนที่ 3 นี้เราจะได้เห็นความสัมพันธ์ที่โรแมนติกระหว่าง Bill และ Frank ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่เคยบอกใบ้ในวิดีโอเกมเท่านั้น ทางด้าน Neil Druckmann ผู้ร่วมสร้างวิดีโอเกมและการดัดแปลงซีรีส์ของ HBO กล่าวกับ The New Yorker ไว้ว่า:

สำหรับผมแล้ว เรื่องราวนี้ (ตอนที่ 3) เราสามารถพูดได้ว่ามันเป็นความจริงของมนุษย์โลก มันเป็นแก่นแท้สำหรับธีมที่เรากำลังพูดถึง

ทางด้าน Craig Mazin ผู้ร่วมสร้างซีรีส์และเป็นผู้เขียนบทตอนที่ 3 ได้พูดถึงนักแสดง Nick Offerman และ Murray Bartlett กับทาง TVInsider ไว้ว่า:

ผมไม่แปลกใจเลยที่รู้ว่า Nick สามารถทำอะไรแบบนี้ได้ สิ่งที่ผมประหลาดใจคือเขาเก่งแค่ไหนกัน ผมหมายถึง ผมมีความคาดหวังสูง และเขาก็ก้าวไปสู่จุดสูงสุดนั้นได้ การได้ดูเคมีที่เข้ากันของเขากับ Murray Bartlett มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก คุณรู้ไหม เราคัดเลือก Murray Bartlett และหลังจากนั้นไม่กี่เดือน Murray Bartlett ก็คว้ารางวัลเอ็มมี่ (สำหรับเรื่อง The White Lotus ของ HBO) และเราก็เลยคิดว่า ‘นี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ’ ดังนั้นเราจึงมีสิ่งเหล่านี้ เช่นเดียวกับเหล่านักแสดง A-List ที่นำมันไปสู่ในระดับที่สูงขึ้นได้

Mazin กล่าวถึงโครงเรื่องตอนที่ 3 ต่อว่า:

สำหรับโครงเรื่องนั้นเป็นเพียงผลผลิตของเราที่เราคิดว่า ‘เฮ้ เรามีโอกาสที่จะทำสิ่งที่แตกต่างออกไปนะ ซึ่งมันจะไม่ทำลายประสบการณ์ของเราในเกมถ้าเราเป็นแฟนของมัน แต่เราจะเพิ่มมันเข้าไป และถ้าเราไม่ทำ เราก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเกม เราแค่รู้สึกว่าใช่ มันต้องทำ’ และนั่นเป็นเรื่องน่ายินดีที่มันได้ดำเนินต่อไป และคนเหล่านั้นก็น่าทึ่งมากๆ

The Last of Us ตอนที่ 3 “Long Long Time” สามารถรับชมได้แล้วที่ HBO GO