รันไทม์ของ Shazam! Fury of the Gods จะสั้นกว่าภาคที่แล้ว

จากข้อมูลของ One Take News ระบุว่า Shazam! Fury of the Gods จะมีความยาวมากกว่า 2 ชั่วโมง 10 นาที หากเป็นจริงภาพยนตร์เรื่องนี้จะสั้นกว่า Shazam (2019) ที่มีความยาว 2 ชั่วโมง 12 นาที อยู่ 2 นาที แต่ยาวกว่าภาคแยกเรื่องล่าสุดอย่าง Black Adam (2022) ซึ่งมีความยาว 2 ชั่วโมง 5 นาที แต่เมื่อเทียบกับภาพยนตร์ที่มีความยาวมากที่สุดอย่าง Zack Snyder’s Justice League (2021) ด้วยรันไทม์ 4 ชั่วโมง 2 กับ Birds of Prey (2020) ที่สั้นที่สุดเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 49 นาที ภาพยนตร์ Shazam! Fury of the Gods ก็ถือได้ว่าไม่ยาวและไม่สั้นเกินไปสำหรับจักรวาล DC Universe (DCU)

Shazam! Fury of the Gods จะเกิดขึ้นหลายปีหลังจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์ Shazam! (2019) และติดตามชีวิตครอบครัว Shazam (Shazamily) เมื่อพวกเขาต้องเข้าต่อสู้กับธิดาแห่ง Atlas ได้แก่

• Hespera (รับบทโดย Helen Mirren)
• Kalypso (รับบทโดย Lucy Liu)
• Anthea (รับบทโดย Rachel Zegler)

ผู้กำกับ David F. Sandberg พึ่งอธิบายว่าทำไมภาคต่อของเขาจึงใช้ตัวร้ายตามตำนานเทพเจ้ากรีกแทนวายร้ายจากหนังสือการ์ตูน DC Comics ซึ่งเขาได้ให้เหตุผลว่า เทพเจ้ากรีกที่ถูกขโมยพลังไป อยากล้างแค้นเหล่า Shazamily

Fury of the Gods จะนำเสนอเรื่องราวของShazamily มากขึ้น
Zachary Levi จะกลับมาในฐานะซูเปอร์ฮีโร่ในภาคต่ออีครั้ง เช่นเดียวกับ Asher Angel ที่จะกลับมารับบทเป็น Billy Batson หนุ่มน้อยที่สามารถแปลงร่างเป็นฮีโร่ด้วยการพูดคำว่า “Shazam!” ยอดมนุษย์พลังเทพเจ้าได้รับพลังความสามารถมาจากเทพปกรณัมกรีก 6 อย่าง ได้แก่

• สติปัญญาของ Solomon
• พละกำลังของ Hercules
• ความแข็งแกร่งของ Atlas
• พลังของสายฟ้าของ Zeus
• ความกล้าหาญของ Achilles
• ความเร็วของ Mercury

ซึ่ง Billy ได้แบ่งพลังเหล่านี้ให้เพื่อนๆ ของเขาใน Shazam! (2019) ทำให้เกิดทีมฮีโร่เด็กโข่งนาม Shazamily ซึ่งจะมีบทบาทมากขึ้นใน Shazam! Fury of the Gods โดยตัวอย่างแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้เผยให้เห็นว่า Billy ร่วมมือกับทีม Shazamily เพื่อปราบปรามภัยคุกคามครั้งใหม่

Shazam! Fury of the Gods เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 17 มีนาคม 2023