ชีวประวัติเรื่องนี้จะมีแต่ความแปลกประหลาด

เราเคยเห็นภาพยนตร์ที่สร้างจากตำนานของเพลงมาแล้วอย่าง Freddie Mercury เจ้าของบทเพลง ‘Bohemian Rhapsody’, Elton John เจ้าของบทเพลง ‘Rocketman’, Aretha Franklin เจ้าของบทเพลง ‘Respect’ และ Elvis Presley เจ้าของบทเพลง ‘Elvis’ ยิ่งไปกว่านั้นเรายังมีภาพยนตร์ของ Whitney Houston เรื่อง I Wanna Dance with Somebody ที่จะฉายในช่วงปลายปีนี้อีกด้วย ชีวประวัติมากมายที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นที่เราจะได้เห็นหนึ่งในนักแสดงที่เหมาะสมที่สุดกับบท Weird: The Al Yankovic Story ได้แสดงให้เห็นว่า Daniel Radcliffe จากภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter และ Miracle Workers จะมารับบทเป็น Weird Al Yankovic ในตำนานล้อเลียนเรื่องนี้

Weird Al เป็นที่รู้จักอย่างดีจากการล้อเลียนเพลงฮิตหลายต่อหลายเพลง เช่น ‘Poker Face’ ของ Lady Gaga จากเพลงต้นฉบับ ‘Polka Face’, ‘Beat It’ ของ Michael Jackson จากเพลงต้นฉบับ ‘Eat It’ และ ‘Gangsta’s Paradise’ ของ Coolio จากเพลงต้นฉบับ ‘Amish Paradise’ ตามแบบฉบับของ Al Yankovic อย่างแท้จริง

Weird: The Al Yankovic Story จะทำหน้าที่เป็นล้อเลียนชีวประวัติทั้งหมดที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ อารมณ์ขั้น น้ำเสียงของภาพยนตร์เรื่องนี้ชวนให้นึกถึงเพลงที่แต่งโดย Weird Al เอง และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้นักแสดงที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีมากมาย ผู้ชมจึงมั่นใจได้ว่ามันจะนำมาซึ่งความสุขขณะรับชม นี่จึงเป็นคู่มือนักแสดงฉบับสมบูรณ์จาก Weird: The Al Yankovic Story แต่ก่อนเราจะไปแนะนำว่าใครเป็นใครบ้าง ไปอ่านเรื่องย่ออย่างเป็นทางการกันก่อนค่ะ

เรื่องจริงที่ไม่พูดเกินจริงเกี่ยวกับนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเรา จากการอบรมเลี้ยงดูแบบเดิมๆ ที่การเล่นกับหีบเพลงนั้นเป็นบาป ‘Weird Al’ Yankovic ได้ทำการแหกกฎนั้นและทำตามความฝันของเขาในการเปลี่ยนคำพูดให้เป็นเพลงที่มีชื่อเสียงระดับโลก ความสำเร็จในทันทีและสัญลักษณ์ทางเพศของ AI ที่ใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยง และการแสดงหาความรักที่น่าอับอายนั้นได้เกือบทำลายชีวิตเขาไปด้วย

Daniel Radcliffe รับบทเป็น Al Yankovic

Daniel Radcliffe จากผลงานสุดโด่งดังของเขา Harry Potter and the Deathly Hallows Part 2 รับบทเป็นตำนานที่โลกรู้จักในชื่อ Weird Al Yankovic ซึ่ง Radcliffe เป็นที่รู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างดีในฐานะตัวละครที่แฟนๆ ทั่วโลกชื่นชอบ Harry Potter หลายคนอาจติดตาภาพของเด็กชายใส่แว่นกลมที่แผลเป็นรูปสายฟ้าติดอยู่ที่หน้าผากจนลืมไปว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีความสามารถมากๆ คนหนึ่ง ซึ่งได้ทำผลงานออกมามากมายไม่ว่าจะเป็น Swiss Army Man (2016), Guns Akimbo (2020) และซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่อง Miracle Workers

Radcliffe จะต้องดึงเอาทักษะความตลกขบขันทั้งหมดที่เขามีมาสู่บทบาทใหม่ในเรื่องนี้ เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ทำหน้าที่เป็นเรื่องล้อเลียนมากกว่าที่จะเป็นชีวประวัติตามมาตรฐาน แนวความคิดในการเล่นให้ผู้คนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงโดยอิงตัวละครตามตัวตนจริงๆ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับเขา เราได้พูดคุยกับนักแสดง Al Yankovic เกี่ยวกับแนวทางของนักเขียนที่มีต่อภาพยนตร์เสียดสีว่า

พวกเขาไม่พลาดโอกาสที่จะโต้เถียง ไม่ว่าจะเป็นพ่อที่โกรธแค้น ครอบครัวที่กดขี่ข่มเหง หรือช่วงเวลาแห่งแรงบันดาลใจสำหรับบทเพลงของเขา บางครั้งเขาแค่พูดคำๆ นึงออกมา แล้วก็ลงมือเขียนมันทันที

Evan Rachel Wood รับบทเป็น Madonna

Madonna เป็นตัวละครเซอร์ไพรส์ใน The Al Yankovic Story เมื่อพิจารณาว่าทั้ง 2 ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กันในชีวิตจริง Evan Rachel Wood จากเรื่อง Westworld รับบทเป็นราชินีแห่งเพลงป็อป และเหมือนกับนักแสดงคนอื่นๆ ที่กำลังแสดงในบทบาทล้อเลียน Madonna เราคุยกับ Wood เกี่ยวกับบทบาทบ้าๆ บอๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ แล้วเธอก็พูดขึ้นมาว่า

ใช่ มันตลกพอๆ กับบนหน้ากระดาษ และตอนนั้นเองที่ฉันรู้ว่ามันจะออกมาดี คือตอนที่ฉันอ่านแล้วเราะออกมาอย่างดัง และเพียงแค่นึกภาพมันออกมาในหัว ฉันก็รู้ว่านี่มันต้องน่าทึ่งมากแน่ๆ

Weird: The Al Yankovic Story เป็นทั้งชีวประวัติและเรื่องล้อเลียน ดังนั้นการแสดงภาพของ Madonna ที่เกินจริงนี้จึงสมเหตุสมผลแล้ว แต่ส่วนที่แปลกประหลาดที่สุดของเรื่องทั้งหมดนี้คือ Al ไม่เคยพบเจอกับ Madonna มาก่อน

ในภาพยนตร์ Madonna กับ Al เกี่ยวข้องกันในเพลงล้อเลียนสุดฮิตของเธออย่าง ‘Like A Virgin’ ซึ่งปรากฎว่าการที่พวกเขารู้จักกันนั้นมีไว้สำหรับภาพยนตร์เท่านั้นตามที่ Weird Al ตัวจริงได้พูดในการใหัสัมภาษณ์กับ Parade Yankovic กล่าวว่า

ผมหวังจริงๆ ว่าเธอจะทำเรื่องตลกได้ ผมคิดว่าเธอทำได้นะ

ในความเป็นจริง Yankovic ได้ล้อเลียนเพลง ‘Like A Virgin’ ด้วยเพลง ‘Like A Surgeon’ ของเขา ซึ่งมีรายงานว่าหลังจากที่คนเริ่มรู้จักเพลงของ Madonna ก็ได้นำแนวคิดนี้ไปให้ Jay Levey ผู้จัดการของ Yankovic ซึ่งต่อมาได้แนะนำให้ Weird Al ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงดูเหมือนจะแสดงให้เห็นว่าศิลปินทั้ง 2 นั้นได้พบกันและเข้าสู่ความรักที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และยาเสพย์ติด ซึ่งในที่สุดได้นำไปสู่ความพินาศของ Weird Al ในรูปแบบชีวประวัติร็อคสตาร์ทั่วไป

Rainn Wilson รับบทเป็น Dr. Demento

Rainn Wilson จากผลงาน The Office รับบทเป็น Dr. Demento ที่แปลกประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ Barret Eugene Hansen เชี่ยวชาญเรื่องตลกและมันไม่ธรรมดาเลยสำหรับรายการวิทยุของเขา

ในภาพยนตร์เราจะได้เห็น Demento ทำหน้าที่เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นที่ปรึกษาให้กับ Al และนั่นก็เป็นความจริงในชีวิตจริงด้วยเช่นกัน Rainn Wilson อาจเป็นที่รู้จักกันดีในการเล่น Dwight Schrute ใน The Office ซึ่งเขาได้นำความสามารถของเขามาสู่บทบาทของ Dr.Demento ซึ่ง Wilson สามารถเปลี่ยนจากคนที่ดูสงวนตัวไปเป็นคนตลกได้ในทันที นั่นทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบในการเลียนแบบ Dr.Demento

Toby Huss และ Julianne Nicholson รับบทเป็น Nick และ Mary Yankovic

Nick Yankovic พ่อของ Weird Al รับบทโดย Toby Huss จากผลงาน The Rental กับ Mary Yankovic แม่ของเขาที่แสดงโดย Julianne Nicholson จากผลงาน I, Tonya ในตัวอย่างเราจะเห็นว่าพ่อและแม่ของ Al ต้องการให้เขาเลิกเป็นตัวของเองมากจนเกินไป แม้ว่าเขาต้องการไล่ตามความฝันของเขาเรื่องการแต่งเพลงล้อเลียนก็ตาม พ่อแม่ขอ Al ยังไม่เห็นด้วยกับความฝันนี้ของเขาตั้งแต่ต้นๆ แต่ทั้ง 2 คนน่าจะเข้ามาตอนที่เขาก้าวขึ้นไปเป็นคนมีชื่อเสียง ซึ่งทั้งคู่ยังได้ปรากฎตัวในมิวสิควิดีโอของเขาด้วยแม้ว่าจะอยู่ในบทบาทที่ดูไม่น่าเชื่อถือก็ตาม

Quinta Brunson รับบทเป็น Oprah Winfrey

Quinta Brunson จากผลงาน Abbott Elementary รับบทเป็น Oprah Winfrey ในภาพยนตร์เรื่องนี้ Oprah เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีจากรายการทอล์คโชว์ของเธอ Oprah และยังเป็นนักเขียนและผู้ใจบุญที่มีชื่อเสียงระดับโลก เราจะได้เห็น Al ปรากฎเป็นแขกรับเชิญของเธอในรายการทอล์คโชว์ด้วย และได้นำความตลกขบขันมาสู่สถานการณ์ของพวกเขา ผู้สร้างและนักแสดงระดับเล็กของ Abbott, Quinta Brunson ปรากฎตัวในภาพยนตร์ และเช่นเดียวกับ Oprah คุณไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้ต่อการปรากฎตัวของเธอ

นอกจากนักแสดงเหล่านี้แล้ว Weird: The Al Yankovic Story ยังมี Spencer Treat Clark รับบทเป็น Steve Jay, Dot-Marie Jones รับบทเป็น Mama Bear, Will Forte รับบทเป็น Ben Scotti, James Preston Rogers รับบทเป็น Hulk Hogan, Tommy O’Brien รับบทเป็น Jon “Bermuda” Schwartz, Nina West รับบทเป็น Divine, Arturo Castro รับบทเป็น Pablo Escobar, Conan O’Brien รับบทเป็น Andy Warhol, Jack Black รับบทเป็น Wolfman Jack, Jorma Taccone รับบทเป็น Pee-wee Herman, Akiva Schaffer รับบทเป็น Alice Cooper, Demetri Martin รับบทเป็น Tiny Tim, Paul F. Tompkins รับบทเป็น Gallagher, David Dastmalchian รับบทเป็น John Deacon, Lin-Manuel Miranda, Patton Oswalt และ Scott Aukerman เป็นต้น