หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผู้กำกับ Michael Mann ได้ร่วมงานกับนักเขียน Meg Gardiner ในการเขียนนวนิยาย Heat 2 ซึ่งจะเป็นหนังสือนิยายภาคต่อจากภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่อง Heat ที่ Michael Mann เคยกำกับไว้ในปี 1995 และในที่สุดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้เขียนบทและผู้กำกับเองก็ได้ออกมายืนยันว่า Heat 2 ไม่ได้เป็นเพียงความตั้งใจเท่านั้น แต่กำลังจะมาในเร็วๆ นี้

โดยหลังจากที่ Michael Mann ทำนวนิยาย Heat 2 ออกมา ก็มีข่าวลือไปทั่วเกี่ยวกับภาพยนตร์ภาคต่อ ทว่าหลังจากมีข่าวลือไม่นาน แฟนๆ ก็ต่างรู้สึกผิดหวังเมื่อ Al Pacino นักแสดงผู้รับบทเป็นเจ้าหน้าที่ Vincent Hanna ที่ดื้อรั้นในภาพยนตร์ภาคแรก ได้ออกมาประกาศที่งาน Tribeca ว่าเขาอยากจะที่จะได้เห็น Timothée Chalamet รับบทเป็นตัวละครของเขาในวัยหนุ่ม ถ้าหากนิยายเรื่องนี้ได้ถูกพัฒนามาเป็นฉบับภาพยนตร์จริงๆ เนื่องจากในนวนิยาย Heat 2 จะเป็นการเล่าถึงเรื่องราวในอดีตของตัวละครหลักทั้ง 2 ในภาคแรก ว่าก่อนที่ทั้งคู่จะมาไล่ล่ากันนั้น แต่ละคนเจออะไรมาบ้าง

แม้ว่าจะไม่ล่าช้าเท่าภาคต่อของ Top Gun (1986) อย่าง Top Gun: Maverick ที่มีระยะห่างจากภาคแรกเกือบ 40 ปี แต่สำหรับ Heat 2 เองก็มีระยะเวลาห่างจากภาคแรกเกือบ 30 ปี จากการสัมภาษณ์กับ Deadline ผู้กำกับ Michael Mann ได้เปิดเผยว่า เขาตั้งใจเสมอที่จะทบทวนตำนานของเจ้าหน้าที่ Vincent Hanna และหัวหน้าอาชญากร Neil McCauley (Robert De Niro) โดย Michael Mann ได้กล่าวว่า

มีประวัติอันยาวนานหรือเรื่องราวเบื้องหลังเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชีวิตของคนเหล่านี้ก่อนเหตุการณ์ใน Heat ในปี 1995 และการคาดคะเนว่าชีวิตของพวกเขาจะพาพวกเขาไปที่ไหน

ตอนที่ผมเขียนภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผมที่จะต้องสร้างเรื่องราวชีวิตที่สมบูรณ์เกี่ยวกับตัวละครทั้งหมด และต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพวกเขา รวมถึงช่วงวัยแรกเริ่มของ Neil McCauley เมื่อเขาพลัดพรากจากน้องชายของเขา ก่อนที่เขาจะต้องออกไปเผชิญโลกบนท้องถนน ชายหนุ่มที่มีแต่ความเกรี้ยวโกรธและอันตราย และนวนิยายเรื่องนี้จะเกี่ยวกับ Neil McCauley เป็นส่วนมาก และเหตุการณ์อันน่าพิศวงที่ส่งผลให้เขามีคติประจำใจว่า ‘ถ้าคุณออกไปเดินบนท้องถนน อย่าให้ชีวิตยึดติดกับอะไรที่คุณไม่พร้อมจะทิ้งภายในเวลา 30 วินาที เมื่อคุณรู้สึกว่าความซวยกำลังมาเยือน’

นวนิยายเรื่อง Heat 2 กำลังจะวางขายในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะเล่าถึงเรื่องราวในอดีตและอนาคต โดยจะตรวจสอบเรื่องราว 6 ปี ก่อนเกิดเหตุการณ์ใน Heat (1995) และ 1 วันหลังจากสิ้นสุดเหตุการณ์ในภาพยนตร์ภาคแรก ซึ่งในนิยายจะไม่ได้โฟกัสไปที่เมืองลอสแอนเจลิสอย่างเดียวเหมือนกับในภาพยนตร์ต้นฉบับ แต่จะอธิบายถึงโลกใต้พิภพอันกว้างใหญ่ของอาชญากรรมระหว่างประเทศ แต่ยังคงตั้งเป้าที่จะเจาะลึกถึงแก่นของสิ่งที่ทำให้ทั้ง 2 ตัวละครหลักอย่าง Neil McCauley และ Vincent Hanna และด้วยความทะเยอะทะยานของ Michael Mann ในการเขียนนวนิยายเรื่องนี้ ก็ได้นำไปสู่การสร้างภาพยนตร์ภาคต่อ โดยผู้กำกับ Michael Mann ได้ออกมาโพสต์ผ่านทางบัญชี Twitter ส่วนตัวว่า “Heat 2 กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้” ดูโพสต์ของ Michael Mann ได้ด้านล่าง

ย้อนกลับไปในปี 1995 Heat เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีนักแสดงเบอร์ใหญ่ของฮอลลีวูด 2 คนในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน แต่หลังจากที่ผู้กำกับสร้างความตึงเครียดมากพอที่จะถึงจุดเดือดที่สมบูรณ์แบบ และในท้ายที่สุด พวกเขาก็ต้องพินาศกันทั้งคู่ Al Pacino และ Robert De Niro แสดงเป็นตัวละครหลัก 2 ตัวที่ยึดติดกับอุดมการณ์อันสูงส่งของตัวเอง คนหนึ่งเป็นนักสืบตำรวจที่เก่งกาจ อีกคนเป็นปรมาจารย์ในการปล้น ทั้งคู่เกิดมาเพื่อทำลายล้างกันและกัน ภาคต่อของผู้กำกับ Michael Mann จะขยายเรื่องราวให้กว้างกว่าเดิม ว่าตัวละครทั้ง 2 กลายมาเป็นคนแบบนี้ได้อย่างไร พร้อมกับลงลึกไปถึงความเสียหายที่เกิดจากพวกเขา และสิ่งที่เป็นหลักประกันที่เหลืออยู่หลังจากการปะทะกันของพวกเขา

ในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ Michael Mann ทุ่มเทเพื่อนำความเป็นของแท้มาสู่ภาพยนตร์ของเขา เขาพยายามทำให้ทุกอย่างดูสมจริง เช่นเดียวกับตัวละคร Neil McCauley ที่เหมือนกับอาชญากรตัวจริง รวมถึงความทะเยอทะยานที่ไม่หยุดนิ่งของตัวละคร Vincent Hanna โดยผู้กำกับ Michael Mann เคยให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ถึงแนวคิดของเขาในการสร้างตัวละครต่างๆ เขาได้บอกว่าเขาได้แก่นของความเห็นที่ถากถางและดูถูกต่อระบบในการทำภาพยนตร์มาจากพ่อของเขา และมุ่งมั่นที่จะสร้างภาพยนตร์ในแบบของตัวเอง ภาพยนตร์หลายเรื่องที่ Michael Mann กำกับอย่าง Thief (1981), Miami Vice (2006) และ Collateral (2004) ทุกเรื่องที่เอ้ยมาล้วนแต่ยึดติดอยู่ในความเป็นจริงที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตาม Heat 2 จะกลับมาสู่โลกที่ผู้กำกับ Michael Mann ได้ค้นหามาตลอดตั้งแต่ช่วงปลายยุค 70s โดยเขาได้บอกว่าภาคนี้จะให้ความรู้สึกที่ “ทั้งแดกดันและสมบูรณ์แบบ” และแฟนๆ จะได้รับความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับตัวละคร Vincent Hanna และ Neil McCauley สำหรับตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลออกมามากนัก ต้องรอติดตามกันต่อไป