Javier Bardem นักแสดงจาก Dune (2021) และ No Country for Old Men (2007) ออกมาแสดงท่าทีตื่นเต้นต่อบทภาพยนตร์เรื่อง Dune: Part Two (2023) โดยภาคต่อได้รับไฟเขียวจากค่าย Warner Bros. หลังจากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องแรกที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์และ HBO Max ในเดือนตุลาคม 2021 โดย Dune: Part Two (2023) มีกำหนดฉายในปี 2023 กำกับโดย Denis Villeneuve เช่นเคย ซึ่งจะดัดแปลงจากส่วนที่ 2 ของหนังสือไซไฟเขียนโดย Frank Herbert

หนังสือเซต Dune ของ Herbert มักถูกวิจารณ์ว่าเป็นเรื่องราวที่ไม่สามารถนำมาดัดแปลงได้ โดยในปี 80s ผลงาน Dune (1984) ของ David Lynch ได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบ ต่อมา Alejandro Jodorowsky ได้ตระหนักถึงความซับซ้อนของจักรวาล Dune เขาพยายามสร้างภาพยนตร์ Dune ที่มีความยาว 10 ชั่วโมงเพื่อบรรจุรายละเอียดทั้งหมดลงไป แต่ก็ล้มเหลวและการผลิตในช่วงหลังจึงเปลี่ยนเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Jodorowsky’s Dune (2013) ซึ่งว่าด้วยการสำรวจความล้มเหลวของ Jodorowsky ในการดัดแปลงนิยายไซไฟเรื่องดังกล่าว ส่วนผู้กำกับภาพยนตร์ไซไฟ Arrival (2016) อย่าง Denis Villeneuve ได้แบ่งภาพยนตร์ Dune (2021) ที่นำแสดงโดย Timothée Chalamet ออกเป็น 2 ส่วน เนื่องจากหนังสือ 1 เล่มมีรายละเอียดและมีความซับซ้อนเยอะเกินไปที่จะเล่าภายในเวลาที่จำกัด โดยนักแสดงคนอื่น ๆ ได้แก่ Oscar Isaac, Rebecca Ferguson, Zendaya และ Javier Bardem

ล่าสุด Javier Barden ได้ออกมาเผยถึงความรู้สึกของเขาต่อบทภาพยนตร์เรื่อง Dune: Part Two (2023) ในขณะที่ตัวบทยังคงยึดตามเนื้อเรื่องของหนังสือแต่วิธีการผสานส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกันจะทำให้แฟน ๆ เซอร์ไพรส์ โดย Barden พูดอย่างมั่นใจถึงบทภาพยนตร์ของ Villeneuve และชื่นชม Dune (2021) ภาคแรกด้วยเช่นกัน อ้างอิงจาก Comicbook Bardem ได้กล่าวถึงผลกระทบที่จักรวาล Dune มีต่อเขาว่า

“ผมได้อ่านฉบับร่างใหม่ของภาพยนตร์แล้ว และผมคิดว่าพวกเขาทำงานได้ยอดเยี่ยมในการรวบรวมชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อให้ผู้คนประหลาดใจ ผู้ชมจะไม่แปลกใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะพวกเขารู้อยู่แล้ว พวกเขาอ่านหนังสือมาก่อนแล้ว แต่การเอาเรื่องต่าง ๆ ที่รู้อยู่แล้วมาผสานเข้าด้วยกันได้อย่างน่าทึ่งคือสิ่งที่จะทำให้ผู้ชมประหลาดใจ ผมรู้สึกถึงแรงผลักดันหลังจากอ่านฉบับร่าง มันจะเป็นภาพยนตร์ที่เต็มอิ่มและคุณจะสัมผัสกับน้ำหนักของเรื่องราวได้ และเช่นเคยมันจะทำให้คุณรู้สึกสนุกขณะดู ผมรอไม่ไหวที่จะกลับไปยังดินแดนทะเลทรายพร้อมกับพวกเขาเหล่านั้น และผมดีใจมากที่จะได้กลับไปทำงานร่วมกับ Denis เขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ยอดเยี่ยมที่สุด เขาเป็นคนที่น่ารักมาก”

แม้ว่าในภาคแรกจะมีคำวิจารณ์ถึงการดัดแปลงที่ยังขาดความสมบูรณ์ แต่ใน Dune: Part Two (2023) อาจเป็นโอกาสให้ Villeneuve ได้พัฒนาและโชว์ฝีมือเพื่อทำให้เรื่องราวสมบูรณ์ยิ่งขึ้น Javier Bardem มั่นใจเป็นอย่างมากว่าผู้กำกับจะหาทางปิดร่องรอยที่เกิดจากภาคแรกได้ เขาสังเกตถึงจุดแข็งในการกำกับของ Villeneuve ได้เป็นอย่างดี โดย Villeneuve มีชื่อเสียงในวงการหนังไซไฟจากผลงานเด่นในเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวและภาษาประหลาดอย่าง Arrival (2016) และภาพยนตร์ไซไฟงานภาพสวยอย่าง Blade Runner: 2049 (2017) โดย Dune (2021) ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมาโดยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 10 รางวัล และกวาดรางวัลในหมวดหมู่ทางเทคนิคเป็นหลัก

จากความล้มเหลวของผู้กำกับก่อนหน้าสามารถพูดได้ว่าส่วนที่ยากของการสร้างจักรวาล Dune คือการผสานรายละเอียดยิบย่อยต่าง ๆ เข้าด้วยกัน Villeneuve อาจเป็นผู้กำกับเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถรับงานนี้ได้ แต่ในช่วงแรกของโปรเจกต์นั้นก็มีแฟน ๆ หนังสือบางคนที่ยังคงกังขาถึงความสามารถของเขา โดย Villeneuve เองก็ได้แสดงฝีมือด้วยผลงานการกำกับภาพยนตร์ไซไฟในอดีตที่ต่างได้รับคำชมมากมาย ในขณะที่ Dune: Part Two (2023) จะเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ถูกเก็บเข้าคลังไซไฟของเขาพร้อมทั้งลบภาพจำของจักรวาล Dune ที่ขึ้นชื่อว่าไม่สามารถนำมาดัดแปลงได้ออกไป แฟนหนังสือและภาพยนตร์ภาคแรกคงต้องตั้งตารอดูว่าความเห็นของ Javier Bardem ต่อ Dune: Part Two (2023) นั้นเป็นจริงหรือไม่ในปี 2023 ที่กำลังใกล้เข้ามา