ซีรีส์ Percy Jackson ของ Disney+ กำลังหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่ฉบับภาพยนตร์เคยทำไว้
เมื่อไม่นานมานี้ ทาง Disney ได้ประกาศสร้างซีรีส์ Percy Jackson and the Olympians ซึ่งถูกวางไว้ให้ออกอากาศทาง Disney+ แม้ว่าจะอีกนานกว่าที่เราจะได้ดูกัน แต่ดูเหมือนว่าฉบับซีรีส์นี้กำลังหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดจากการดัดแปลงภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้าของแฟรนไชส์นี้ อย่าง Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief (2010) และ Percy Jackson: Sea of Monsters (2013) ซึ่งทั้ง 2 ภาคนี้ ไม่ถูกใจแฟนนิยายอย่างมาก
โปรเจกต์ซีรีส์ Percy Jackson and the Olympians ได้ถูกประกาศการสร้างออกมาตั้งแต่ปี 2020 และตอนนี้ก็สรุปได้แล้วว่าจะฉายทาง Disney+ และปัจจุบันนี้ก็กำลังอยู่ในกระบวนการผลิต โดยซีรีส์เรื่องนี้นั้น ดัดแปลงมาจากนวนิยายยอดนิยมอย่าง Percy Jackson and the Olympians ที่ตีพิมพ์ออกมาครั้งแรกในปี 2005 ผลงานการเขียนของ Rick Riordan ซึ่งจะติดตามเรื่องราวของเด็กชายวัยรุ่นที่เป็นครึ่งคนครึ่งเทพ ที่ต้องออกเดินทางทำภารกิจที่สำคัญ เพื่อหยุดยั้งเหล่าไททันที่หมายจะทำลายล้างโลก
โดยภาพยนตร์เรื่องแรกที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายชุดนี้คือ Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief ที่ได้ออกฉายครั้งแรกในปี 2010 กำกับการแสดงโดย Chris Columbus นำแสดงโดย Logan Lerman, Alexandra Daddario และ Brandon T. Jackson แม้ว่าจะประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านรายได้ แต่กลับไม่ถูกใจแฟนนิยายอย่างมาก และมีข้อผิดพลาดมากมายเนื่องจากปรับเปลี่ยนไปจากนิยายต้นฉบับมากเกินไป และความผิดพลาดนี้ก็เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งในภาคต่ออย่าง Percy Jackson: Sea of Monsters ที่ออกฉายในปี 2013 แม้ว่าจะประสบความสำเร็จในด้านรายได้เหมือนเคย แต่ในด้านคำวิจารณ์จากแฟนนิยายก็ยังคงไปในทางลบเหมือนเดิม เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนจากฉบับนิยายมากเกินไป
ในที่สุด แฟรนไชส์นี้ก็ได้เกิดใหม่อีกครั้งในรูปแบบของซีรีส์ ซึ่งดูเหมือนว่าในเวอร์ชันนี้จะพยายามที่จะหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่ฉบับภาพยนตร์เคยทำเอาไว้ เนื่องจากฉบับภาพยนตร์นั้นละเลยแง่มุมที่สำคัญของนวนิยาย ทั้งการปรับอายุตัวละครหลักใหม่ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ประหลาด และตัวละครบางตัวที่ปรากฏตัวออกมาเร็วเกินไป ทำให้ภาพยนตร์ 2 ภาคที่ออกมาก่อนหน้าเป็นเหมือนเวอร์ชันที่ไม่เคารพต้นฉบับ ซึ่งในซีรีส์ Percy Jackson and the Olympians ดูเหมือนพยายามที่จะไม่ผิดพลาดซ้ำเดิม
บทความที่เกี่ยวข้อง : Rick Riordan ได้ออกมาอัปเดตเรื่องการคัดเลือกนักแสดงในบท Grover และ Annabeth ในซีรีส์ Percy Jackson
สิ่งที่ทำให้เรามั่นใจได้มากขึ้นว่าซีรีส์เรื่องนี้จะออกมาดูดี นั่นก็คือการที่ซีรีส์ Percy Jackson and the Olympians ได้ดึงตัวผู้เขียนนิยายต้นฉบับอย่าง Rick Riordan มารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้าง รวมถึงมีส่วนร่วมในเรื่องการเขียนบท ซึ่งจะทำให้แฟนนิยายทุกคนมั่นใจได้ว่าการดัดแปลงครั้งนี้จะมีการเคารพต้นฉบับมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา และแนวทางนี้ก็เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในแฟรนไชส์พ่อมดผู้โด่งดังอย่าง Harry Potter ที่ให้ผู้เขียนนิยายอย่าง JK Rowling เข้ามามีส่วนร่วมกับภาพยนตร์ได้ โดยคำนึงถึงความสมบูรณ์และให้เหมือนกับต้นฉบับที่สุด
การที่ให้ Rick Riordan เข้ามามีส่วนร่วมกับโปรเจกต์นี้ ไม่เพียงแต่เป็นการแก้ไขปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในฉบับภาพยนตร์ แต่สิ่งนี้จะยังช่วยส่งผลต่อการตลาดของซีรีส์ Percy Jackson and the Olympians อีกด้วย เพราะแฟนนิยายก็อยากที่จะเห็นและพอไว้วางใจเมื่อมีผู้เขียนนิยายมาคอยควบคุม ซึ่งทาง Rick Riordan ก็มักจะออกมาอัปเดตความคืบหน้าของโปรเจกต์นี้ผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวของเขาเป็นระยะ ๆ แม้ว่าสิ่งนี้อาจไม่ใช่การรับประกันได้อย่างร้อยเปอร์เซ็น ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะออกมาดี แต่ก็พอจะเป็นความหวังเล็ก ๆ ให้กับเหล่าแฟนคลับที่ตั้งตารออยากจะเห็น Percy Jackson โลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม
บทความที่เกี่ยวข้อง : Ryan Reynolds ออกมาแสดงความยินดีกับ Walker Scobell ที่ได้รับบทนำในซีรีส์ Percy Jackson
นอกจากนี้สิ่งที่พอจะทำให้เราใจชื้นได้ คือการที่ Rick Riordan ออกมาประกาศชื่อของนักแสดง ผู้ที่จะมารับเป็น Percy Jackson ในซีรีส์เรื่องนี้ นั่นก็คือ นักแสดงหนุ่มน้อยไฟแรง Walker Scobell จากภาพยนตร์เรื่อง The Adam Project (2022) ซึ่งนี่ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะให้ฉบับภาพยนตร์ ตัวละคร Percy Jackson นั้น เป็นเด็กวัยรุ่นม.ปลาย ช่วงอายุราว ๆ 16 - 18 ปี แต่ในฉบับซีรีส์ Percy Jackson and the Olympians ทางผู้เขียนอย่าง Rick Riordan บอกว่า เขาต้องการนักแสดงที่ดูเหมือนเด็กอายุ 12 ปี ซึ่งจะใกล้เคียงกับฉบับนิยายมากกว่า และการที่อายุตัวละครหลักยังเด็กแบบนี้ อาจเป็นการบอกเป็นนัยว่าทาง Disney หวังที่จะสานต่อเรื่องราวของ Percy Jackson ไปอีกหลายปี ตามแบบที่ฉบับนิยายทำเอาไว้
โดยซีรีส์ Percy Jackson and the Olympians ซีซันแรกที่จะมาถึงนี้ ได้ถูกวางแผนเอาไว้ให้มีทั้งหมด 8 ตอน โดยแต่ละตอนจะมีความยาวอยู่ที่ 40 - 60 นาที ทำให้ซีรีส์มีเวลาในการบอกเล่าเรื่องราวของภารกิจการตามหาสายฟ้าที่หาไป มากกว่าที่ฉบับภาพยนตร์ภาคแรกที่ออกมาในปี 2010 อย่างน้อย 2 เท่า นั่นหมายความว่าในซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากที่จะมีเวลาในการเล่าเรื่องราวตามต้นฉบับนิยายมากขึ้นแล้ว ยังมีเวลาพอที่พาเหล่าผู้ชมไปสำรวจโลกของแฟรนไชส์นี้อย่างเต็มที่ ในแบบที่ฉบับภาพยนตร์ทำไม่ได้ ส่วนกำหนดการในการฉายยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ รู้เพียงแต่ว่าจะออกฉายผ่านทาง Disney+ ต้องรอติดตามกันต่อไป
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้