Nicolas Cage นักแสดงจาก The Unbearable Weight of Massive Talent ได้เล่าถึงบทบาทที่ยากที่สุดที่เขาเคยแสดงมา นับตั้งแต่เป็นนักแสดง

Nicolas Cage หลายชายของผู้กำกับชื่อดังอย่าง Francis Ford Coppola ผู้กำกับ The God Father ซึ่ง Nicolas Cage ได้เข้าวงการบันเทิงมาครั้งแรกในช่วงต้นยุค 80 ในภาพยนตร์คอมเมดี้สุดคลาสสิคอย่าง Fast Times at Ridgemont High (1982) จากนั้นก็ได้ไปแสดงใน Raising Arizona (1987), Moonstruck (1987) และ Honeymoon in Vegas (1992) จนในที่สุดเขาก็เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา นอกจากนี้เขายังเคยได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globe) และรางวัลออสการ์ (Academy Award) สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor) จากบทบาท Ben Sanderson ในภาพยนตร์เรื่อง Leaving Las Vegas (1995)

บทความที่เกี่ยวข้อง : Nicolas Cage ออกมาตอบคำถามแฟนคลับ เกี่ยวกับการกลับไปรับบท Ghost Rider

Nicolas Cage ได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของอาชีพนักแสดงในช่วงกลางปี 2000 แต่ทว่าเขากลับตัองประสบปัญหาทางการเงิน เนื่องจาก Interest Rate Swap (IRS) หรือ บริการธุรกรรมแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย ที่ได้มาเรียกเก็บภาษีย้อนหลังจาก Nicolas Cage ถึง 14 ล้านดอลลาร์ และเพื่อจะกลับมาตั้งตัวได้อีกครั้งหลังจากสูญเงินไป เขาจึงได้ตัดสินใจรับงานแสดงแบบไม่เลือกหน้า ใครเสนออะไรมาแกก็เล่นหมด และหลายเรื่องก็เป็นเพียงหนังเกรด B ที่เน้นขายเป็นแผ่น DVD และไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ด้วยซ้ำ แถมเกือบทุกเรื่องก็มีแต่หนังห่วย ที่โดนนักวิจารณ์จวกยับ จนหลายคนคิดว่าป๋าเคจกลายเป็นดาราตกอับไปแล้ว แต่ทว่าตอนนี้ ป๋านิคเคจได้กลับมาแล้ว เขาเตรียมที่จะกลับมารับหนังใหญ่ให้เราได้ดูกันในไม่ช้า ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่าง The Unbearable Weight of Massive Talent ที่กำลังจะเข้าฉายในบ้านเรา ก็ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมาก และถือเป็นการคืนฟอร์มของ Nicolas Cage อย่างแท้จริง

ล่าสุด ในการโพรโมต The Unbearable Weight of Massive Talent ป๋า Nicolas Cage ได้ออกมาตอบคำถามแฟน ๆ ใน Reddit ซึ่งเขาได้เปิดเผยออกมาว่า บทบาทไหน เป็นบทบาทที่ยากที่สุดในอาชีพการแสดงของเขา โดยเขาบอกว่า

ก็คงจะเป็นตัวละคร Nick Cage ใน The Unbearable Weight of Massive Talent เนี่ยแหละ ที่เป็นบทบาทที่ท้าทายที่สุดที่ผมเคยแสดงมา เพราะผมต้องคอยเพิ่มองค์ประกอบต่าง ๆ เข้าไปในบท เพื่อเป็นการปกป้องชื่อ Nick Cage แถมยังต้องคอยอำนวยความสะดวกให้กับวิสัยทัศน์ที่ไร้สาระของผู้กำกับที่เรียกว่า Nick Cage"

หรือจะอธิบายง่าย ๆ ก็คือ ในเรื่องนี้ ป๋าแกต้องรับบทเป็นตัวเอง แต่ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรื่อง มันมีหลายอย่างที่ผู้กำกับปรุงแต่งเพิ่มเข้าไป ดังนั้นป๋าแกก็เลยบอกว่า การที่ต้องเล่นเป็นตัวเองเนี่ย มันยากที่สุด เพราะว่าถ้าตัวละครนี้ทำอะไรไม่ดี คนก็อาจจะเข้าใจผิดได้ว่า ป๋าแกเป็นคนแบบนั้นจริง ๆ เพราะอาจมีหลายคนที่คิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำมาจากเรื่องจริง

โดยเรื่องราวใน The Unbearable Weight of Massive Talent จะเล่าถึงชีวิตของ Nick Cage ที่เป็นดาราตกอับและกำลังประสบปัญหาทางการเงิน แต่ทว่าตัวแทนของเขา Richard Fink (รับบทโดย Neil Patrick Harris) ได้เกลี่ยกล่อมให้เขาจ่ายเงิน 1 ล้านดอลลาร์ เพื่อเดินทางไปยังสเปน และเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของ Javi Gutierrez (รับบทโดย Pedro Pascal) ราชายาเสพติดตัวฉกาจ ซึ่งจะเกิดเรื่องราวสุดวายป่วงอะไรขึ้นบ้างในภาพยนตร์เรื่องนี้ ต้องรอไปดูกันด้วยตัวเอง โดยตัวหนังมีกำหนดการฉายในบ้านเราวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์