การแสดงที่น่าทึ่งของนักแสดงจากเรื่อง Pachinko ทำให้พวกเขามีชื่อเข้าชิงรางวัล Emmys

5959
ซีรีส์ที่โดดเด่นเรื่อง Pachinko ที่กำลังสตรีมอยู่บน Apple TV+ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือประเภทของรายการที่ควรเข้าชิงในเเวที Emmys แม้ว่ารางวัลจะไม่ใช่ทุกอย่าง หรือแม้แต่เป็นเครื่องบ่งชี้คุณค่าทางศิลปะของการแสดงที่ดีที่สุด แต่ก็ยากที่จะนึกถึงงานที่ยอดเยี่ยมอย่างครอบคลุมในปีนี้ ซีรีส์เรื่องนี้มีงานภาพที่ถ่ายมาอย่างสวยงาม สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน และมีการแสดงที่ดีอย่างเหลือเชื่อ ถึงแม้จะได้ดีทั้ง 3 อย่างที่กล่าวมาบนรายการทางโทรทัศน์ แต่การเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Emmys ก็ไม่ได้เหมารวมถึงทั้ง 3 ข้อด้านบน แม้จะเป็นผลงานที่น่าทึ่งและไม่เหมือนกับผลงานชิ้นไหนๆ ที่ได้ออกฉายในปีนี้ แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็ถูกส่งต่อไปยังรางวัลมากมายที่คู่ควร การที่จะได้เห็นการแสดงหรือซีรีส์ดราม่าที่ดีที่สุดนั้นบางครั้งก็เป็นไปได้ยาก ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นการกำกับดูแลที่มีปัญหาที่สุดเรื่องหนึ่งในยุคนั้น เมื่อเราได้เห็นรายชื่อผู้ที่มีสิทธิ์เข้าชิงรางวัลระดับกลางก็ทำให้เราเกิดความสงสัยว่าผู้ที่มีสิทธิ์ในการคัดเลือกเคยได้ดูผลงานเหล่านั้นจริงๆ หรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลว่าพวกเขาอาจข้ามการดูทั้งหมด

ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นผลงานที่ดีที่สุดของปีนี้ แต่เป็นหนึ่งในผลงานทางโทรทัศน์ที่ดีที่สุดในความทรงจำล่าสุด ดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อเดียวกันที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ โดยนักเขียนผู้มีชื่อเสียงอย่าง Min Jin Lee ได้ทำการเปลี่ยนแปลงไทม์ไลน์ของเรื่องราวในลักษณะที่ทั้งกล้าหาญ และสวยงาม การแสดงในอดีตทำให้เราเห็นว่าทุกอย่างสะท้อนมาถึงปัจจุบันได้อย่างไร อุปสรรคของการปรับเปลี่ยนเป็นบทโทรทัศน์นี้มีสูงมาก เนื่องจากนวนิยายนั้นมีความโดดเด่นในตัวของมันเองอยู่แล้ว ตัวนวนิยายมีประวัติอันยาวนานและหนังสือได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นการแสดงบนจอโทรทัศน์ทำให้ขาดความสมบูรณ์ของเนื้อหาหลายส่วน ผู้อ่านที่ได้ชมเรื่องราวมีการแสดงความผิดหวังกับสิ่งเหล่านี้อยู่ไม่น้อย Pachinko ไม่เพียงแต่เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมถึงแม้จะมีปัญหาของการปรับบทไปบ้าง แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอย่างเต็มที่ในการเปลี่ยนแปลงของสื่อที่สามารถนำเสนอได้ แม้ว่ามันอาจจะอาศัยความแข็งแกร่งของข้อมูล แต่มันก็เปลี่ยนให้กลายเป็นการเล่าเรื่องด้วยภาพที่มีชีวิตชีวา บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวชาวเกาหลีที่มีมานานหลายชั่วอายุคน ในขณะที่พวกเขาพยายามเอาชีวิตรอดจากโลกที่โหดร้าย มันกินเวลาหลายสิบปี และมีการเดินทางมาอย่างยาวนานจากสถานที่ที่สวยงาม หากคุณต้องถ่ายเฟรมใดๆ จากการแสดง คุณจะต้องพบกับภาพเวลา และสถานที่ที่น่าดึงดูดใจอย่างแน่นอน

Screen Shot 2565-07-13 at 11

สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากทิศทางที่ค่อนข้างแน่นอนของ Kogonada และ Justin Chon ทั้งคู่ทำงานกันอย่างเต็มที่ในการกำกับ พวกเขายังมีสายตาและมุมมองที่แตกต่างกันในการถ่ายทอดงานภาพที่มีความงดงาม ซึ่งสามารถทำให้รู้สึกได้ถึงความสนิทสนมอันเงียบสงบของการสนทนาระหว่างตัวละคร และความกว้างใหญ่ของภูมิประเทศที่น่าทึ่งในที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคน ทุกช่วงเวลาเป็นเพียงความมั่งคั่งที่เกิดขึ้นมากมาย การจัดตำแหน่งของศิลปินทั้งหมดที่ทำงานในเรื่องนี้ได้มารวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่สวยงาม ไม่มีช่วงเวลาที่อ่อนแอ เพราะมันได้ดึงดูดคุณเข้าสู่รายละเอียดอันอุดมสมบูรณ์ของโลก มีช่วงเวลาแห่งความสยดสยองน่าสะพรึงกลัว การวางอุบายอันโหดร้ายของประวัติศาสตร์ จากนั้นจึงผสมผสานกับฉากที่สนุกสนานของชัยชนะเล็กๆ นี่คือที่ที่ผลงานของนักเขียน และนักแสดงต้องทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนาน Soo Hugh ทำทุกอย่างออกมาทั้งหมด เขาจับภาพของอารมณ์ด้วยความทุ่มเทที่สามารถสัมผัสได้ในทุกฉากที่ทำให้เราหลงใหลไปกับตัวละครเหล่านี้ มันไม่เคยผิดพลาดเลย โดยมีการขยายขอบเขตของเรื่องราวไปสู่บริบทกว้างๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยไม่ละสายตาจากบุคคลที่เจาะจง มันได้สร้างสมดุลที่รายการส่วนใหญ่ทำได้เพียงแค่ฝันถึงการค้นหา และหลายคนไม่เคยทำอย่างมีความหมาย

ส่วนประกอบสำคัญของเรื่องนี้คือกลุ่มนักแสดงที่น่าทึ่ง ซึ่งคนอยู่ในระดับต้นๆ ของวงการ และเป็นที่ยอมรับจากพรสวรรค์อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม เมื่อได้มุ่งเน้นไปที่นักแสดงที่โดดเด่นอย่าง Kim Min-ha ผู้เล่นบทวัยรุ่นของ Sunja ที่เป็นตัวละครหลัก เขาทำหน้าที่เป็นรากฐานของเรื่องราว เธอจับทั้งความเปราะบาง และความแข็งแกร่งของตัวละครของเธอได้อย่างงาย แม้เธอจะเหลืออะไรไม่มากในชีวิต และต้องเผชิญกับโอกาสที่ไม่อาจคาดเดาได้ ความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ที่เธอปลูกฝังด้วยการแสดงของเธอนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ เธอได้สร้างตัวละครที่ซับซ้อนขึ้นมาด้วยตัวเธอเอง ทำให้ทุกช่วงเวลาที่โดดเดี่ยวรู้สึกเหมือนเต็มไปด้วยอารมณ์ ขณะที่ Sunja แบกโลกไว้บนบ่าของเธอ เราก็เข้ามาในชีวิตของเธอด้วยความเมตตาและความห่วงใย ฉากหนึ่งที่โดดเด่นคือตอนที่เธอมีบทสนทนาอย่างต่อเนื่องในตอนท้ายของตอนที่สามเกี่ยวกับมื้ออาหาร มันเป็นช่วงเวลาที่ควรเก็บไว้ในความทรงจำของผู้ชม ซึ่งมันน่าจะเป็นฉากหนึ่งที่ทำให้เวที Emmys เห็นถึงความคู่ควรของราลวัล มันแสดงให้เห็นว่าเธอมีความทะเยอทะยานในการแสดงของเธออย่างไร การถูกมองข้ามของเธอไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพในการแสดงจืดจางลงไปเลย ไม่มีอะไรสามารถหยุดเธอได้

มีการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล 1 รายการ และนั่นก็สำหรับการออกแบบชื่อโดดเด่นในการเปิดตัวที่ควรค่าแก่การกลับไปดูซ้ำ ในอีกมุมการแสดงที่ถูกดูถูกคือความจริงที่ว่าเวที Emmys รวมถึงรางวัลส่วนใหญ่ในวงกว้างได้ประเมินผลงานศิลปะในภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษต่ำเกินไป แม้จะเป็นเรื่องที่ดีที่เราได้เห็น Squid Game ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ความจริงที่ว่ารายการซีรีส์ภาษาต่างประเทศที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษเรื่องแรกที่ได้เสนอชื่อเข้าชิงทำให้หลายๆ คนหยุดและคิดเรื่องนี้ ยังมีผลงานดีๆ อีกทั่วโลกที่สมควรได้รับการยอมรับมากกว่านี้แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการมันก็ตาม เนื่องจากหลายๆ เรื่องยังขาดการตรวจสอบที่จริงจัง การเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Emmy จึงเป็นการแนะนำเรื่องราวให้ผู้คนได้รู้จักมากขึ้น แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีของซีรีส์ประเภทอาชญากรรมที่ร้ายแรงก็ตาม แต่ซีรีส์เรื่อง Pachinko ก็ถือเป็นซีรีส์ที่ควรค่าแก่การรับชมอย่างแน่นอน

ที่มา: Collider
0 ความคิดเห็น

คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวจัดอันดับ

ประจำเดือนนี้