Sleeping Beauty (1959) หรือ เจ้าหญิงนิทรา (1959) เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่เก่าแก่และน่าประทับใจที่สุดของ Disney แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีนางเอกเป็นเจ้าหญิง

เจ้าหญิงนิทรา (1959) เป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมของ Disney ในด้านของแอนิเมชั่น และยังคงเป็นหนึ่งในภาพยนตร์คลาสสิกที่สำคัญที่สุดของพวกเขา ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่มีความหลากหลายอย่างน่าประหลาดใจ แม้ว่าชื่อเรื่องจะดูเหมือนสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหญิงก็ตาม อันที่จริงเจ้าหญิงนิทราไม่ได้เป็นตัวละครที่ดำเนินเรื่องนี้จนจบ แม้ว่าเธอจะเป็นนางเอกของเรื่องตามความเข้าใจของแฟนหนัง โดยส่วนใหญ่ของเนื้อหา นางฟ้าผู้พิทักษ์ของเธอจะรับหน้าที่ขับเคลื่อนเรื่องราวและการกระทำอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของชีวิตของเธอ และเราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความทุ่มเทและการสละเพื่อปกป้องใครบางคน

เจ้าหญิงนิทรา เป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าหญิง Aurora (ให้เสียงโดย Mary Costa) ซึ่งเป็นทายาทของราชวงศ์ผู้สูงศักดิ์ เมื่อแรกเกิดทารกได้รับพรด้วยคาถามากมายจากนางฟ้าทั้งสามคน ได้แก่ Flora (ให้เสียงโดย Verna Felton) กับ Fauna (ให้เสียงโดย Barbara Jo Allen) และ Merryweather (ให้เสียงโดย Barbara Luddy) ขณะเดียวกันก็ถูกคำสาปจากแม่มด Maleficent (ให้เสียงโดย Eleanor Audley) ผู้ชั่วร้าย เพื่อปกป้องเด็ก นางฟ้าจึงพาตัวเธอไปใช้ชีวิตอย่างสามัญชนที่เงียบสงบเพื่อป้องกันเธอจากภัยร้าย

แม้ว่าตัวละครเจ้าหญิงนิทราจะเป็นชื่อเรื่อง แต่ Aurora ก็ไม่ได้มีความสำคัญกับเนื้อหามากนัก แม้ว่าเธอจะมีลักษณะนิสัยที่อ่อนหวานตามพื้นฐานของเจ้าหญิงในสมัยนั้น กระทั่งในช่วงไคลแม็กซ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เธอก็ยังนอนหลับตามชื่อเรื่องเจ้าหญิงนิทรา (1959) ซึ่งเนื้อหาไม่ได้มุ่งความสนใจไปที่ Aurora มากนัก แต่เธอเปรียบเสมือนโครงสร้างหลักในภาพยนตร์เรื่องนี้

เมื่อมองโดยผิวเผินตัวเอกที่แท้จริงของเรื่องก็คือเจ้าชาย Phillip (ให้เสียงโดย Bill Shirly) เขาเป็นชายหนุ่มผู้กล้าหาญที่ตกหลุมรัก Aurora โดยที่ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคู่หมั้นกันแล้วตั้งแต่เด็ก เจ้าชายได้ออกเดินทางเพื่อช่วยชีวิตเธอและสังหาร Maleficent จนสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของเขาส่วนใหญ่มาจากความช่วยเหลือจากตัวเอกที่แท้จริงของภาพยนตร์เรื่องนี้นั่นคือ Flora กับ Fauna และ Merryweather

นางฟ้าทั้งสามเป็นที่รู้จักในฐานะตัวละครตลกที่ทะเลาะกันไปวันๆ แต่พวกเธอยอมสละการใช้เวทย์มนตร์ของตัวเองเพื่อปกป้อง Aurora และโดยพื้นฐานแล้วพวกเธออาจเป็นนางเอกของเรื่อง พวกเธอคือแม่บุญธรรมของ Aurora ที่คอยคุ้มครองเธออย่างมีประสิทธิภาพและตัดสินใจอย่างชาญฉลาด เพื่อหลีกเลี่ยงภัยร้ายจากแม่มด ท้ายที่สุดพวกเธอก็ต้องเข้าสู่การต่อสู้ร่วมกับเจ้าชาย Phillip เพื่อช่วยเหลือเจ้าหญิงนิทรา

ในแง่ของความชั่วร้ายจากตัวละคร Disney แม่มด Maleficent ยังคงเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดสำหรับผลงานภาพยนตร์ที่อมตะเรื่องนี้ เธอเป็นศัตรูกับนางฟ้าโดยตรง ด้วยการออกแบบเครื่องแต่งกายให้มีสีมืดมนซึ่งตรงข้ามกันอย่างชัดเจนกับเหล่านางฟ้า ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกันที่สุดในแฟรนไชส์ Disney Princess ฉบับดั้งเดิม

การดำเนินเรื่องของ เจ้าหญิงนิทรา (1959) ได้ฉีกกฎเดิมๆ ของภาพยนตร์เจ้าหญิงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้อย่าง Snow White and the Seven Dwarfs (1947) และ Cinderella (1950) ด้วยการดึงความสนใจไปที่บุคคลแวดล้อมของเจ้าหญิงแทนที่จะเจาะจงเล่าเรื่องราวของเจ้าหญิงโดยเฉพาะ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงมีการดำเนินเรื่องที่เปิดกว้าง ซึ่งสามารถเป็นส่วนขยายในการเล่าเรื่องของตัวละครอื่นๆ เช่นภารกิจปกป้อง Aurora ของสามตัวละครนางฟ้าแม่ทูนหัว เป็นต้น

จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เมื่อตัวละครเหล่านี้ถูกดัดแปลงเป็นฉบับคนแสดง จุดสนใจของเรื่องกับเปลี่ยนไปที่วายร้ายอย่าง Maleficent ที่รับบทโดย Angelina jolie ในภาพยนตร์เรื่อง Maleficent (2014) และ Maleficent: Mistress of Evil (2019) ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงเอกลักษณ์และความน่าดึงดูดใจในแอนิเมชั่นของ Disney ที่ปรับตัวตามยุคสมัย เช่น การไม่เจาะจงไปที่เจ้าหญิงน้อยผู้แสนหวานหรือเจ้าชายผู้กล้าหาญ และดำเนินเรื่องผ่านตัวละครสมทบแทน เทพนิยายคลาสสิกของ Disney พิสูจน์ได้ว่าบางครั้งเรื่องราวที่ดีที่สุดก็สามารถมุ่งเน้นไปที่ตัวละครที่ไม่คาดคิดได้