การเกาะติดกับหน้าจอไม่ได้ผลเสมอไป

เป็นหนึ่งในฉากที่ยอดนิยมมากที่สุดฉากหนึ่ง Albus Dumbledore รับบทโดย Michael Gambon วิ่งข้ามห้องมาแล้วผลัก Harry รับบทโดย Daniel Radcliffe จนหลังชนกำแพง พร้อมกับตะโกนถามด้วยความโกรธและสับสนว่า “เธอใส่ชื่อของเธอลงไปในถ้วยอัคนีหรือเปล่า!” การส่งสายตาของ Michael Gambon ในฉากนั้นทรงพลังและน่าทึ่ง แต่สำหรับแฟนๆ หลายคน ช่วงเวลานั้นจากภาพยนตร์ลำดับที่ 4 ในแฟรนไชส์ Harry Potter นั้น เป็นสัญลักษณ์ของความประมาทที่พวกเขารู้สึกว่าเป็นเพราะผู้เขียนบท Steve Kloves และผู้กำกับอีกหลายคนของแฟรนไชส์นี้ที่ได้ดัดแปลงนิยาย

Dumbledore ในฉากนั้นจากในหนังสือเขาไม่ตีโพยตีพายโวยวายหรือใช้ความรุนแรงกับนักเรียนของเขา เขาจะต้องมีทาที่ที่เมินเฉยและไม่เปิดเผยความรู้สึกออกมามากนัก ซึ่งนั่นคือลักษณะนิสัยของเขา ในฉากนั้นภาพยนตร์ทั้งหมดตั้งแต่ Harry Potter and the Prisoner of Azkaban ไปจนถึง Harry Potter and the Half-Blood Prince ได้ทิ้งตัวละคร โครงเรื่องย่อย และการแสดงออกเกี่ยวกับตำนานของโลกเวทมนตร์ที่เหล่าแฟนๆ มักโหยหาจากภาพยนตร์ที่พวกเขาชื่นชอบ สำหรับพวกเขาการดัดแปลงที่เกิดขึ้นสองส่วนของ Harry Potter and the Deathly Hallows นั้นใช้ความพยายามมากขึ้นในการรักษาสิ่งที่มากจากในหนังสือ ซึ่งก็ยังคงมีบางจุดที่ดูจะผิดไปจากในหนังสืออยู่พอสมควรสำหรับภาพยนตร์ 2 เรื่องนี้

การแสดงของ Gambon ไม่ได้ดูมีปัญหามากในฉากนั้นก็จริง และไม่ใช่แค่เพราะมันสนุก Dumbledore อาจเก็บความเท่ไว้ในหนังสือ แต่ Harry Potter and the Goblet of Fire ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าเขาดูกังวลมากกว่าหลายปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการกลับมาของ Voldemort ที่กำลังจะเกิดขึ้น และเขาก็ต้องตกใจอย่างมากเมื่อรู้ว่าชื่อของ Harry ไปอยู่ในถ้วยอัคนีและต้องลงแข่งขันในเกมที่อาจมีอันตรายถึงชีวิต ความกลัวของเขายังถูกถ่ายทอดผ่านคำพูดของ Hagrid และการสังเกตของ Harry

ในภาพยนตร์ดัดแปลงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำให้อยู่ในเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง นักแสดงที่รับบท Dumbledore สามารถแสดงความกังวลใจนี้ต่อหน้าผู้ชมได้โดยตรง และอาจมีคนโต้แย้งว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจมีความละเอียดอ่อนมากกว่านี้ และเป็นที่ยอมรับได้อย่างง่ายดาย แต่ตัวเลือกของ Gambon และผู้กำกับ Mike Newell แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงอารมณ์ของ Dumbledore ที่อยู่ในหนังสือ ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน เนื้อหาบางส่วนดูมีความลึกซึ้งกว่าในหนังสือ และความกังวลของเขาต้องปรากฎอยู่ในฉากใดฉากหนึ่งอยู่แล้ว

การปรับเปลี่ยนเนื้อหาที่เหลือ โดยพิจารณาจากสิ่งที่ถูกตัดออกไปนั้น มันค่อนข้างสำคัญสำหรับสคริปต์ที่ถูกดัดแปลงขึ้นใหม่ ในบางส่วนของโครงเรื่อง และตัวละครก็ดูไม่สมเหตุสมผล แต่จำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยน จุดสำคัญบางจุดไม่ได้ถูกทำให้ชัดเจน Goblet of Fire เป็นตัวอย่างที่ดีมากกว่าทัศนคติของ Dumbledore และ Dobby ได้ถูกทำให้ออกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ Harry ยังต้องการ Gillyweed จึงต้องกลายเป็นหน้าที่ของ Neville ในการจัดหามาให้ ยังมีประวัติของครอบครัว Crouch ส่วนใหญ่และความน่าสนใจทั้งหมดในบ้านของพวกเขาถูกตัดออก แต่ Barty Crouch Sr. รับบทโดย Roger Lloyd-Pack เขาจำลูกชายของเขาได้ และถูกฆ่าตาย เขาจึงได้เห็นการปลอมตัวของ Moody สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเล็กๆ ที่ยอมรับได้ในโลกของภาพยนตร์ เราจะเห็นว่า Neville ตั้งใจที่จะหา Gillyweed ให้กับ Harry ซึ่งเป็นแผนดั้งเดิมของ Crouch Jr จากในหนังสือ แต่ในภาพยนตร์นั้นไม่เพียงพอที่จะใส่ทุกอย่างที่มีจากในหนังสือลงไปได้ รวมถึงการดัดแปลงก่อนหน้านี้ก็มีความสำคัญทั้งหมดเช่นกัน

ในหนังสือ* Harry Potter and the Deathly Hallows* นั้นเต็มไปด้วยตัวละคร ความสัมพันธ์ รายละเอียดต่างๆ และโครงเรื่องย่อยที่ได้รับการสร้างขึ้นจากนิยาย 6 เล่มแรก แต่ความขัดแย้งระหว่าง Harry และ Voldemort ก็ถูกตัดออกด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ Deathly Hallows ก็ยังไม่ได้แสดงให้เห็นส่วนที่ตรงกับในหนังสือมากนัก

ยกตัวอย่างในตอนที่พี่ชายคนโตยอง Ron ในภาพยนตร์อย่าง Bill รับบทโดย Domhnall Gleeson และ Charlie Weasley จะไม่มีอยู่ก่อนในภาค Deathly Hallows โดย Charlie ถูกพูดถึงครั้งหรือสองครั้ง แต่จะมีมี Bill อยู่ในช่วงเวลานั้น เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของเขากับ Fleur Delacour รับบทโดย Clémence Poésy ไม่เพียงเพราะ Bill ไม่อยู่เท่านั้น แต่เพราะ Fleur ก็ไม่ได้ถูกพบเห็นหรือกล่าวถึงเลยหลังจาก Goblet of Fire และ Deathly Hallows พาร์ต 1 ได้รวมงานแต่งงานของพวกเขาเข้าด้วยกัน งานแต่งงานที่ยังคงจัดขึ้นที่บ้านโพรงกระต่ายของครอบครัว Weasley แม้ว่าผู้เสพความตายจะโจมตีในภาพยนตร์ไปแล้วก็ตาม จุดนี้ทำให้คนสงสัยกันว่าทำไม Harry ถึงยังอยู่ที่นั่นได้อย่างปลอดภัย ทำไมพวก Weasley ถึงกล้าที่จะอยู่ที่นั่นต่อ และทำไมผู้เสพความตายถึงสนใจที่จะโจมตีทั้งๆ ที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีผลอะไรตามมาเลย คำถามต่อมาคือ Bill Weasley คือใคร เขากับ Fleur ไปคบกันตอนไหน เพราะอะไร Harry และเพื่อนๆ ของเขาจึงเลิกค้นหา Horcruxes ตามสิ่งที่ลิสเอาไว้ หากคนที่ไม่ได้อ่านหนังสือจะไม่ได้รับคำตอบพวกนี้เลย และไม่มีเหตุผลที่จะสนใจตัวละครเหล่านี้ด้วย

ความสัมพันธ์ระหว่าง Lupin รับบทโดย David Thewlis และ Tonks รับบทโดย Natalia Tena เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งเมื่อต้องมีการตัดบางอย่างออกไป ซึ่งเรื่องราวของทั้งสองคนนี้จะมีความสำคัญอยู่ในเล่มที่ 5 Harry Potter and the Order of the Phoenix และ Half-Blood Prince ที่ซึ่งทำให้เรารู้สึกเศร้าไปกับสิ่งที่พวกเขาต้องพบเจอ แต่เรื่องราวเบื้องหลังความรักของพวกเขากลับไม่ได้ถูกเปิดเผยมากเท่านั้น เป็นเพียงตัวละครเสริมที่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ในภาพยนตร์ บทบาทของพวกเขาในภาพยนตร์ Deathly Hallows มีเพียงเล็กน้อย พอๆ กับ The Order of the Phoenix และ The Halfblood Prince ผู้ชมยังคงขอให้เพิ่มความสัมพันธ์ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน และจะต้องเกิดความสะเทือนใจเมื่อตัวละครสองตัวที่มีเวลาหน้าจอน้อยที่สุดต้องตายเหมือนกับตอนของ Fred Weasley รับบทโดย James Phelps

แล้ว Dobby รับบทโดย Toby Jones หลังจากที่ Harry Potter and the Chamber of Secrets เอลฟ์ประจำบ้านปรากฎตัวในภาพยนตร์เพียง 1 เรื่องทั้งๆ ที่เขามีมิตรภาพที่ดีกับ Harry พวกเขาช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาตลอดโดยเฉพาะในแข่งขันไตรภาคี หรือจะเป็นเรื่องของกองทัพ Dumbledore รวมทั้งการสอดแนม Malfoy ด้วย ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ปรากฎในภาพยนตร์เลย แต่ใน Deathly Hallows พาร์ต 1 Dobby ได้ปรากฎตัวขึ้นและไม่ได้ยอมรับว่าหายไปไหนมา มีเพียงช่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเขาและ Harry เท่านั้นที่ได้เชื่อมต่อกันอีกครั้ง สำหรับผู้ชมที่ติดตามภาพยนตร์เท่านั้นจะได้รำลึกถึงอดีตของตัวละครของเขา เช่นเดียวกับ Bill และ Fleur เขาปรากฎตัวขึ้นเมื่อมีความจำเป็นบางอย่างที่ถูกกำหนดไว้ในโครงเรื่องเท่านั้นโดยไม่ได้ทำอะไรมาก และการตายของเขาก็ควรจะเป็นบทสรุปทางอารมณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย อีกทั้ง Dobby เองก็ไม่ได้มีเวลาที่หน้าจอมากพอที่ควรจะเสียชีวิตอย่างเศร้าโศก เพราะการมาปรากฎตัวอย่างกระทันหันนี้ทำให้ผู้ชมหลายๆ คนไม่ได้รู้สึกร่วมกับความสัมพันธ์ของพวกเขามากเท่าที่ควรจะเป็น

แต่แฟนๆ บางกลุ่มก็ชอบการปรับเปลี่ยนเหล่านี้ ด้วยการเขียนบทที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ไม่ว่าบาดแผลต่างๆ ภายในภาพยนตร์จะเป็นความคิดที่ดีหรือไม่ดี แต่ยังไงตามโครงเรื่องของหนังสือก็จะเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่ดี Bill และ Fleur ยังคงได้แต่งงานกัน แล้วตัดไปที่ความพยายามในการตามล่า Horcrux และ Harry และพวก Weasleys ได้ไปซ่อนที่ไหนสักแห่งหลังจากวันเกิดของ Harry อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องความรักของ Lupin และ Tonks ซึ่งมันเพียงพอสำหรับตัวละครหลักแล้ว และสุดท้าย Dobby ควรได้รับการแนะนำใหม่อีกครั้งหลังจากที่เขาหายไปนาน