Indiana Jones and the Dial of Destiny ภาพยนตร์เดี่ยวเรื่องที่ 5 ของ Indiana Jones (รับบทโดย Harrison Ford) ได้เปิดตัวออกมาแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดรายได้จากการฉายคืนพรีวิวในอเมริกาได้ออกมาแล้ว และดูเหมือนว่าจะทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก เนื่องจากภาคต่อเรื่องนี้ทำรายได้จากการฉายรอบพรีวิวไปได้เพียง 7.2 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

สำหรับรายได้ในการฉายรอบพรีวิวของ Indiana Jones and the Dial of Destiny ที่ทำไปได้เพียง 7.2 ล้านดอลลาร์นั้นนับว่าต่ำพอสมควรสำหรับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แบบนี้ ตัวเลขดังกล่าวนี้น้อยกว่า The Flash ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้ด้วยรายได้พรีวิว 9.2 ล้านดอลลาร์เสียอีก ทั้งที่ภาคต่อของ Indiana Jones เรื่องนี้มีทุนสร้างที่สูงถึง 295 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับ The Flash ที่มีทุนสร้างอยู่ที่ 200 ล้านดอลลาร์ แต่ถึงอย่างงั้นรายได้จากการฉายรอบพรีวิวก็ไม่สามารถกำหนดอะไรได้ ต้องรอดูว่าสุดท้ายแล้วภาคต่อเรื่องนี้จะสามารถสร้างกระแสปากต่อปากได้หรือไม่ และจะสามารถทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกได้เท่าไหร่ โดยมีการคาดการณ์ว่า Indiana Jones and the Dial of Destiny จะทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในอเมริกาได้เพียง 60-70 ล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่นั้นคงต้องรอติดตามกันต่อไป

สาเหตุที่ทำให้ Indiana Jones and the Dial of Destiny ไม่ได้รับกระแสเท่าที่ควรอาจเป็นเพราะช่วงเวลาในการเปิดตัวที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เนื่องจากช่วงนี้มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องจ่อเข้าฉาย ทำให้แฟนๆ หลายคนตัดสินใจที่จะเก็บเงินไว้ดูเรื่องอื่นที่น่าสนใจมากกว่า อาทิ Barbie ฉบับไลฟ์แอ็กชันของ Warner Bros. Pictures, Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One ภาคต่อของ Tom Cruise ที่แฟนๆ รอคอย และ Oppenheimer ของผู้กำกับ Christopher Nolan ภาพยนตร์ทั้ง 3 เรื่องนี้มีกำหนดการที่จะเปิดตัวออกมาในเดือนหน้า และยึดกระแสหลักไปทั้งหมด ซึ่งหากใครที่ติดตามข่าวสารกันก็คงจจะเห็นได้ว่าในช่วงนี้แทบไม่มีการพูดถึง Indiana Jones and the Dial of Destiny เลยด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าเข้าฉายโรงแบบเงียบๆ เพราะผู้คนมัวแต่ตื่นเต้นและตั้งตารอภาพยนตร์ทั้ง 3 เรื่องที่กล่าวมาข้างต้น ตอนนี้คงทำได้เพียงรอลุ้นว่าภาคต่อของ Indiana Jones นี้จะสำเร็จหรือไม่

Indiana Jones and the Dial of Destiny ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์