จัดอันดับ! เกมที่น่าสนใจทั้งหมดใน Alice in Borderland ซีซัน 2
เกมในซีซันที่ 2 ของ Alice in Borderland ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีฉากแอ็กชันเหมือนกับซีซันแรก! และผู้เล่นแต่ละคนต่างแยกย้ายกันไป แต่ตัวเกมยังคงมีความตื่นเต้นเหมือนเดิม
วันนี้เราจึงจะพาไปจัดอันดับเกมหลักทั้ง 7 เกมที่ได้ถูกนำเสนอในซีซันที่ 2 นี้ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกเล่นโดยตัวละครหลักของเราอย่าง Arisu รับบทโดย Kento Yamazaki, Usagi รับบทโดย Tao Tsuchiya และ Chishiya รับบทโดย Nijiro Murakami
7. สมรภูมิของคิงดอกจิก
อย่าพลาด แม้จะดูเป็นเกมที่อ่อนที่สุดในรายการ แต่นั่นไม่ได้แปลว่านี่จะเป็นเกมที่แย่ที่สุด และนี่ยังเป็นเกมที่พาเราเข้าสู่โลกของการแข่งขันในซีซันที่ 2 อีกด้วย แน่นอนว่าทุกอย่างจะยิ่งอันตรายมากขึ้น มีการยิงในสมรภูมิซึ่งผู้เล่นแต่ละฝั่งจะผลัดกันสู้หรือหนี และทั้ง 2 ตัวเลือกนี้มีผลที่ตามมาอย่างน่าตื่นเต้น
สิ่งที่ทำให้เกมของคิงดอกจิก น่ากลัวคือมันได้เบี่ยงเบนความรู้สึกที่มีต่อเกมและผู้เล่น Borderland อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พวกเขาใช้เวลานานพอสมควรในการพยายามค้นหากฎของเกมๆ นี้ เพียงเพื่อตระหนักว่าสำหรับเกมนี้นั้นแท้จริงแล้วไม่มีกฎอะไรเลย คุณต้องเป็นฝ่ายฆ่าหรือขโมยคะแนนของอีกฝั่งเท่านั้น และเนื่องจากภายนอกมีเกมปืนกลที่ต้องหลบหนี เกมๆ นี้จึงเป็นทางออกเดียวของพวกเขาที่จะรักษาชีวิตและต่อเวลาของผู้เล่นได้
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกมนี้แตกต่างออกไปคือมันได้ขยายแนวคิดออกไปให้กับตัวละครที่ได้เล่นเกมนี้ และภัยคุกคามที่อยู่นอกเกมนี้ทำให้ Arisu และเพื่อนๆ ของเขาตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่สามารถเพิกเฉยหรือหนีได้อีกต่อไปแล้ว เกมนี้ได้นำไปสู่การนองเลือดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ปัญหาของเกมนี้คือจะไม่มีใครสามารถเอาชีวิตรอดได้นานกว่า 10 นาที ซึ่งทำให้มันยากขึ้นและยืดเยื้อขึ้นหากต้องการเอาชีวิตรอดไปให้ได้
6. การเล่นโครเก้พื้นฐานของควีนโพธิ์แดง
เกมนี้เป็นเกมสุดท้ายของซีซันที่ 2 และถึงแม้ว่ามันจะดูไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรมากนักในตอนแรก แต่มันก็น่าสนใจมากขึ้นในทันทีที่ Arisu และ Uasgi ได้ขึ้นไปบนยอดตึกอันเป็นที่ตั้งของเกมควีนโพธิ์แดงที่มี Mira Kano รับบทโดย Riisa Naka เป็นผู้คุมเกม เธอได้แจ้งข่าวที่น่าประหลาดใจ 2 เรื่องแก่พวกเขาคือหนึ่ง พวกเขาจะได้เล่นเกมโครเก้นี้แบบง่ายๆ และพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องชนะ และสองจะไม่มีการพลิกผันอะไร ไม่มีกฎอะไร…พวกเขาแค่ต้องเล่นเกมนี้ให้จบก็เท่านั้น
แน่นอนว่าหากผู้อ่านได้ดู Alice in Borderland คุณจะรู้ได้ว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น และต้องคิดในทันทีว่ามีอะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่ นี่คือสิ่งที่ทำให้เกมนี้น่าผิดหวัง เพราะตัวเกมดันไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกแตกต่างจากเกมจริงๆ แต่ในทันทีที่ Mira เริ่มเบี่ยงเบนความสนใจครั้งใหญ่จนทำให้ Arisu และ Uasgi ไร้ความสามารถทั้งทางร่างกายและจิตใจในการแข่งขันง่ายๆ นี้
ในเวลาเดียวกัน เราก็ต้องพิจารณาว่าประเด็นของเกมสุดท้ายนี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจหรือเป็นการปฏิวัติ เนื่องจากสิ่งที่สำคัญที่สุดคือข้อมูลที่ Mira ได้มอบให้กับตัวละครหลัก และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเกมจบลง ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นเพียงเกมที่เล่นกับจิตวิทยาและจิตใจของผู้เล่น ซึ่งแม้ว่าจะไม่น่าตื่นเต้นเท่าเกมอื่นๆ ในรายการก็ตาม
5. หลบหนีจากสนามกีฬา
เกมนี้ดูเหมือนจะเป็นเกมเล็กๆ สำหรับซีซันนี้ และไม่มีตัวละครหลักเลย แต่ก็มีการเล่นเกมให้เราได้เห็นตั้งแต่ต้นจนจบเกม ซึ่งเป็นเกมที่ค่อนข้างง่าย ผู้เล่นเพียงแค่ต้องหลบหนีออกจากภายในสเตเดียมที่กำลังพังทลายตั้งแต่นาทีแรกที่เกมเริ่มต้นขึ้น
อย่างไรก็ตามจุดเด่นของเกมนี้แตกต่างออกไปเล็กน้อย เนื่องจากมันถูกใช้เพื่อนำเสนอเรื่องราวเบื้องหลังให้กับตัวละครใหม่อย่าง Akane Heiya รับบทโดย Yuri Tsunematsu ซึ่งเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับอดีตของเธอและการสูญเสียขาข้างหนึ่งของเธอเกิดขึ้นได้อย่างไร
4. เกมรุกฆาตกับควีนโพธิ์ดำ
เกมนี้เป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องกดปุ่มของอีกฝ่ายให้เป็นสีเดียวกับทีมของตนเอง โดยจะเล่นกันทั้งหมด 16 รอบ ในแต่ละรอบใช้เวลาในการเล่น 5 นาที เป็นกฎง่ายๆ สำหรับเกมเกมนี้ หากปุ่มถูกฝ่ายตรงข้ามกดในรอบต่อไปผู้เล่นจะต้องย้ายไปอยู่อีกทีมในทันที และเมื่อสิ้นสุดรอบทั้งหมด หากทีมไหนมีผู้เล่นเหลือมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ อย่างไรก็ตามควีนโพธิ์ดำมีความมั่นใจมากว่าทีมของเธอที่เริ่มต้นด้วยสมาชิกเพียง 4 คนจะเป็นฝ่ายชนะ
แม้ว่านี่จะเป็นหนึ่งในเกมที่เรียบง่ายที่สุดของซีซันนี้ แต่ระดับความเครียดของเกมก็ไม่เป็นรองใคร เมื่อทีมผู้ท้าชิงเริ่มเห็นว่าทีมขอวควีนโพธิ์ดำมีจำนวนคนมากขึ้น ผู้ท้าชิงบางคนก็คิดที่จะเอาตัวรอดด้วยการยอมกลายเป็นผู้เล่นทีมเดียวกับควีนโพธิ์ดำ และผู้เล่นบางคนต้องตกอยู่สภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเกี่ยวกับเรื่องของศีลธรรม คุณจะยอมเข้าร่วมทีมควีนโพธิ์ดำง่ายๆ และดูเพื่อนในทีมของคุณตายไปต่อหน้าได้หรือไม่? หรือคุณจะพยายามเล่นจนสุดความสามารถและไม่ยอมแพ้ต่อการปกครองแบบเผด็จการของ Borderland? ซึ่งความจริงแล้วความโหดร้ายของ Alice in Borderland คือมีเด็กอยู่ในเกมด้วย ซึ่งทำให้การเลือกทางที่ถูกต้องทางศีลธรรมนั้นยากขึ้นไปอีก
3. เครื่องชั่งแห่งความสมดุลกับคิงข้าวหลามตัด
หนึ่งในไม่กี่เกมที่ผู้เล่นได้อยู่เฉยๆ กับที่ เกมนี้ Chishiya ได้นั่งร่วมโต๊ะกับผู้เล่นอีก 4 คนในอาคารของศาลฎีกาที่ยิ่งใหญ่ ในเกมนี้ความซับซ้อนคือกุญแจสำคัญ ผู้เล่นจะมีเวลาเพียง 3 นาทีในการเลือกตัวเลขระหว่าง 0 ถึง 100 เมื่อเลือกตัวเลขเสร็จแล้ว ระบบเกมจะนำตัวเลขทั้งหมดที่เลือกมาบวกกันแล้วหาค่าเฉลี่ยซึ่งต้องนำไปคูณด้วย 0.8 และใครก็ตามที่สามารถเลือกหมายเลขได้ใกล้เคียงที่สุดกับผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นผู้ชนะในรอบนั้น หากคุณแพ้ในรอบนั้นจะต้องเสียคะแนนอย่างน้อย 1 คะแนน และการเสียคะแนนจะนำไปสู่ความน่าสะพรึงกลัว
ทุกครั้งที่เสีย 1 แต้ม หรือมากกว่านั้น แอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกแขวนอยู่เหนือหัวจะถูกเติมจนกว่าจะเต็ม ซึ่งแน่นอนว่านั่นไม่ใช่น้ำเปล่า แต่เป็นกรดกำมะถัน และหากคะแนน -10 เมื่อไหร่ อ่างด้านบนจะเทใส่ผู้เล่นและฆ่าพวกเขาในทันที ทุกครั้งที่ผู้เล่นถูกกำจัด กฎใหม่จะถูกเพิ่มเข้ามา
เกมนี้เป็นเกมที่แสดงให้เห็นว่า Alice in Borderland นั้นโหดร้ายได้มากเพียงใด ผู้เล่นไม่เพียงแต่จะต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ผู้เช่นจากเกมนี้ยังต้องถูกบังคับให้คิดหากลยุทธ์ที่จะทำให้พวกเยาอยู่รอดต่อไปได้ในแต่ละรอบด้วย และยังต้องใช้หัวด้านคณิตศาสตร์ การคิดเชิงตรรกะ ตลอดจนถึงการลองผิดลองถูกเพื่อควบคุมเกมให้ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องทำภายใน 2-3 รอบ เกมดังกล่าวยังได้แสดงให้เห็นถึงไหวพริบของ Chishiya และเผยให้เห็นอดีตของเขาก่อนที่เขาจะได้ไปยัง Borderland
- Osmosis ของคิงดอกจิก
Alice in Borderland ดีที่สุดตรงที่มีการผสมผสานระหว่างฉากแอ็กชันและการชิงไหวชิงพริบ Osmosis ถูกนำเสนอว่าเป็นเกมแท็กที่มีระยะเวลาการเล่น 2 ชั่วโมง แต่ระบบแต้มของมันบังคับให้ผู้เล่นต้องคอยคิดกลยุทธ์ เพราะแค่การไปแท็กทีมตรงกันข้ามนั้นไม่เพียงพอ ในเวอร์ชันนี้ผู้เล่นแต่ละครจะสวมสร้อยข้อมือ และทีมต้องตัดสินใจว่าผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับคะแนนเท่าไหร่ ความแตกต่างของคะแนนมีความสำคัญ เนื่องจากคุณต้องตัดสินใจว่าผู้เล่นคนใดสามารถเสียคะแนนได้มากกว่า และใครจะเสียคะแนนไม่ได้
Osmosis เป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของซีซันที่ 2 เนื่องจากเป็นเกมแบบไดนามิก มีการบังคับให้ผู้เล่นต้องหากลยุทธ์ในทันทีที่เริ่มเกม และกฎของเกมนี้ยังมีพื้นที่อีกมากมายในการสร้างสรรค์วิธีการเล่น แน่นอนว่าการใช้ความคิดสร้างสรรค์นี้อาจหมายถึงการตัดสินใจที่รุนแรงเพื่อรับประกันชัยชนะ ดังที่ Arisu ได้ค้นพบในภายหลัง
- ห้องขังเดี่ยวกับคิงโพธิ์แดง
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าสนใจคือการใส่ตัวละครที่ทำให้สถานการณ์ต่างๆ รู้สึกเหมือนจะจนมุม เกมห้องขังเดี่ยวนี้เข้าร่วมโดย Chishiya ที่ได้ท้าทายพฤติกรรมที่เมินเฉยของเขา และเป็นครั้งแรกของซีรีส์เรื่องนี้ที่ผู้ชมจะได้รู้สึกถึงความสิ้นหวังของ Chishiya แม้ว่าเขาจะไม่เคยแสดงออกมาก็ตาม
ในเกมนี้เมื่อทุกๆ รอบเริ่มขึ้น สร้อยคอที่ผู้เล่นสวมอยู่จะแสดงสัญลักษณ์ของไพ่ 1 ใน 4 ได้แก่ ดอกจิก ข้าวหลามตัด โพธิ์ดำ และโพธิ์แดง ขนจอขนาดเล็กด้านหลังคอ คุณจะเข้าสู่รอบต่อไปได้ก็ต่อเมื่อคุณระบุสัญลักษณ์ที่ถูกต้องเท่านั้นเมื่อสิ้นสุดรอบ หมายความว่าคุณจะถูกบังคับให้ต้องเชื่อใจใครบางคน และสร้างพันธมิตรหากคุณต้องการให้เกมจบ
เกมนี้เป็นเกมที่ดีที่สุดของซีซันนี้ ไม่ใช่แค่เพราะมันได้แนะนำตัวละครที่น่าสนใจหลายตัวเท่านั้น เรายังได้เห็นอีกมุมหนึ่งของ Chishiya เกมนี้ยังได้แนะนำ 2 ตัวละครที่น่าสนใจมากๆ อีก 2 ตัวละครด้วย หากซีรีส์นี้ได้รับการหยิบมาสร้างในซีซันที่ 3 แน่นอนว่าพวกเขาทั้งคู่จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในตอนต่อๆ ไปอย่างแน่นอน
ผู้อ่านสามารถสตรีมทุกตอนของ Alice in Borderland ได้แล้วทาง Netflix ตอนนี้เลย!
คุณต้อง สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ ก่อน เพื่อที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้