Amazon กำลังมองหาการลงทุนครั้งใหญ่ในภาพยนตร์เพื่อสำหรับฉายในโรงภาพยนตร์ ตามรายงานจาก Bloomberg ระบุว่า Amazon วางแผนที่จะใช้เงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี สำหรับภาพยนตร์ที่ตั้งใจจะให้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เท่านั้น ตามรายงานยังบอกอีกด้วยว่า ในขณะนี้บริษัทมีแผนถ่ายทำภาพยนตร์ 12 ถึง 15 เรื่องต่อปี

จากข่าวนี้นับว่าเป็นความมุ่งมั่นในการกลับสู่โรงภาพยนตร์ครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัทที่ให้บริการสตรีมมิง อย่างไรก็ตาม จากรายงานก็ยังไม่เปิดเผยกลยุทธ์ที่แท้จริง ทางด้าน Amazon ที่เริ่มมองหาโรงภาพยนตร์เพื่อฉายภาพยนตร์ของตัวเองถือเป็นการเบี่ยงเบนเล็กน้อยจากบริการสตรีมมิงส่วนใหญ่ รวมถึง Netflix ที่ลดจำนวนการฉายในโรงภาพยนตร์น้อยลงและใช้เวลาน้อยลง ดังตัวอย่างของภาคต่อ Knives Out อย่าง Glass Onion ซึ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะให้สตรีมบน Netflix

แผนการของ Amazon น่าจะเป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ จากสิ่งนี้ก็ทำให้หุ้นของ AMC และ Cinemark ต่างก็เพิ่มขึ้น โรงภาพยนตร์มียอดจำหน่ายตั๋วลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากโรคระบาดที่ทำให้โรงภาพยนตร์ต้องปิดให้บริการเกือบทั้งหมดในปี 2020 และเห็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ในการเผยแพร่ภาพยนตร์ไปสู่บริการสตรีมมิง ซึ่งก็ยังคงดำเนินต่อไป ในขณะเดียวกันสตูดิโอภาพยนตร์รายใหญ่ก็ยังคงดำเนินการสร้างภาพยนตร์ออริจินัลสำหรับเผยแพร่บนแพลตฟอร์มสตรีมมิงที่เกี่ยวข้องของตัวเอง

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Jennifer Salke ประธานของ Amazon Studios ได้พูดถึงกลยุทธ์ด้านภาพยนตร์และการฉายในโรงภาพยนตร์ของบริษัทไว้ว่า:

คุณจะได้เห็นเราลงทุนในฐานะบริษัทภาพยนตร์มากขึ้น คุณจะเห็นการลงทุนมากขึ้นและโอกาสที่กว้างขึ้นสำหรับภาพยนตร์ คุณจะเห็นความลื่นไหลมากขึ้นระหว่างตัวเลือกการดูในโรงภาพยนตร์และสตรีมมิงสำหรับภาพยนตร์ จากนั้นก็จะมีทีมงานสำหรับทีวีที่ยังคงทำงานในรายการที่ยอดเยี่ยมซึ่งอยู่นอกบริษัทของเรา และเราหวังว่าจะได้ร่วมงานกันมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป