Avatar (2009) ของผู้กำกับ James Cameron ฉบับรีมาสเตอร์ กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งในวันที่ 23 กันยายนนี้ และอาจก้าวข้ามความสำเร็จครั้งสำคัญได้ นั่นคือการเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำรายได้ทั่วโลกเกิน 3,000 ล้านดอลลาร์

ย้อนกลับไปในปี 2009 ผู้กำกับ James Cameron ได้ทำการปฏิวัติอุสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์ด้วย Avatar ที่มีการนำเสนอโลกของแพนดอร่า ซึ่งมีการใช้เทคนิค CGI ที่เหนือชั้นและไม่มีใครสามารถทัดเทียมได้ในยุคนั้น จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในตลาดอเมริกาและจีน โดย Avatar ประสบความสำเร็จในด้านรายได้อย่างมาก สามารถกวาดรายได้ทั่วโลกจนกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล และทำลายสถิติของ Titanic ที่ครองอันดับ 1 มาตั้งแต่ปี 1997 แถม Titanic ก็กำกับโดย James Cameron เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าทำลายสถิติตัวเอง จากความสำเร็จนี้จึงมีการสนับสนุนให้ James Cameron สร้างภาคต่อของ Avatar อีก 4 ภาค ด้วยทุนสร้างรวมกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตอนนี้ Avatar: The Way of Water (ภาค 2) มีกำหนดการเข้าฉายในวันที่ 16 ธันวาคมนี้

สำหรับภาคต่ออย่าง Avatar: The Way of Water เป็นภาคต่อที่แฟน ๆ ทั่วโลกรอคอยกันมากว่า 13 ปี เนื่องจากภาคแรกได้สร้างปรากฎการณ์ครั้งใหญ่ ทำให้ทางผู้กำกับอย่าง James Cameron ต้องการให้ภาคต่อนั้นต้องเหนือชั้นขึ้นไปอีก จึงมีความพยายามอย่างมากในการใช้เทคนิคในการถ่ายทำชั้นสูง และต้องการให้ทันสมัยที่สุด โดยใน Avatar: The Way of Water ส่วนใหญ่จะถ่ายทำโดยใช้การจับการเคลื่อนไหวใต้น้ำในถังขนาดใหญ่ที่บรรจุน้ำมากถึง 900,000 แกลลอน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจและปฏิวัติวงการอย่างแท้จริง ส่วนในด้านการคาดการณ์รายได้ของ Avatar 2 ยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากภาคต่อนั้นห่างจากภาคแรกนานถึง 13 ปี แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่ภาคต่อจะยังคงออกมาดีงามและประสบความสำเร็จเหมือนเดิม

ก่อนการเปิดตัวของ Avatar: The Way of Water ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ทางสตูดิโอได้ตัดสินใจส่ง Avatar (2009) ฉบับรีมาสเตอร์กลับเข้าไปฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้ง เพื่อให้แฟน ๆ ได้ดูซ้ำอีกรอบและเตรียมตัวสำหรับภาคต่อ ทำให้มีโอกาสที่ช่วยให้ Avatar (2009) สามารถสร้างสถิติใหม่ได้ โดยในปัจจุบันภาพยนตร์เรื่องนี้มีรายได้รวมอยู่ที่ 2.847 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต้องทำรายได้อีกเพียงแค่ 153 ล้านดอลลาร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะกลายเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในประวัติศาสตร์ ที่สามารถทำรายได้เกิน 3 พันล้านดอลลาร์

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Avatar ได้กลับเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์ เพราะก่อนหน้านี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เคยเข้าฉายซ้ำมาหลายครั้งแล้ว ในปี 2010 ก็เคยเข้าฉายซ้ำอีกครั้ง โดยมีการเพิ่มฟตเทจพิเศษความยาว 8 นาทีเข้าไป นอกจากนี้ Avatar ยังได้เข้าฉายอีกครั้งในประเทศจีนในปี 2021 ซึ่งสามารถทำเงินได้มากกว่า 35 ล้านดออลาร์ และได้กลับมาครองตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลอีกครั้งหลังจากแพ้ให้กับ Avengers: Endgame ในปี 2019 และล่าสุดก็กำลังจะเข้าฉายอีกครั้งเดือนกันยายนปีนี้ ซึ่งในช่วงเดือนดังกล่าวไม่มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องไหนเข้าฉาย ทำให้มีโอกาสสูงที่ Avatar จะกวาดรายได้มหาศาลอีกครั้ง จึงมีแววที่จะทำรายได้รวมทะลุ 3 พันล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ