Everything Everywhere All At Once (2022) ภาพยนตร์จากสค่ายหนังอินดี้ A24 ที่ตอนนี้มีโอกาสที่จะทำรายได้แซง Uncut Gems (2019) ของผู้กำกับพี่น้อง Safdie Brothers และอาจกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินในอเมริกาสูงสุดของสตูดิโอ A24

A24 เป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอิสระซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องภาพยนตร์แนวแปลกประหลาด ที่มักจะมีความสยองขวัญปนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น ภาพยนตร์จากสตูดิโอนี้ก็ได้รับการยอมรับและมีรางวัลติดใหญ่ติดมืออยู่เสมอ เช่น Lady Bird และ Moonlight ที่เคยชนะรางวัลใหญ่สุดของเวทีออสการ์ ได้แก่รางวัล สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ดี ๆ อีกหลายเรื่อง ได้แก่ Midsommar, The Witch, The Lighthouse และ The Green Knight เป็นต้น

โดยโปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของสตูดิโอนี้คือ Everything Everywhere All At Once กำกับโดย Daniel “Dan” Kwan และ Daniel Scheinert ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ จะติดตามเรื่องราวของ Evelyn Wang (รับบทโดย Michelle Yeoh) เจ้าของร้านซักรีดที่การตรวจสอบเรื่องภาษีของเธอเกิดผิดพลาด จากนั้นเธอได้รู้ว่าเธอเป็นเพียงตัวตนหนึ่งเท่านั้น และมีตัวเธออยู่ในจักรวาลคู่ขนานอีกมากมาย ซึ่งตัวเธอในแต่ละจักรวาลจะมีความสามารถที่ไม่เหมือนกัน แต่ทว่าจากตัวเธอเป็นคนเดียวที่เหมือนจะเป็นศูนย์กลางของทุกตัวตนทำให้เธอสามารถดึงทักษะต่าง ๆ ของตัวเธอในจักรวาลอื่นมาใช้ได้ ทำให้เธอเป็นเพียงความหวังเดียวที่จะสามารถต่อสู้และปราบเหล่าร้ายในทุกจักรวาลและทำให้โลกกลับมาสงบสุข นอกจาก Michelle Yeoh แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังนำแสดงโดย Jamie Lee Curtis, Stephanie Hsu และ Ke Huy Quan อดีตนักแสดงเด็กที่แสดงใน
Indiana Jones and the Temple of Doom (1984)

ล่าสุด Deadline ได้รายงานรายได้ในสัปดาห์ของ Everything Everywhere All At Once ซึ่งทำรายได้เป็นอันดับในอเมริกาประจำสัปดาห์นี้ ด้วยรายได้ทั้งหมด 5.3 ล้านดอลลาร์ ทำให้รายได้รวมในอเมริกาตอนนี้เท่ากับ 35.2 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้ในสัปดาห์นี้ลดลงจากสัปดาห์ก่อนเพียง 2 % ถือเป็นผลงานที่ดีเยี่ยม และถึงแม้ว่าจะมีการคาดการณ์รายได้ของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็มีโอกาสที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำเงินได้มากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในอเมริกาของสตูดิโอ A24 เหนือหนังระทึกขวัญอาชญากรรมของ Adam Sandler อย่าง Uncut Gems (2019)

แต่สิ่งสำคัญคือรายได้ 35.2 ล้านดอลลาร์นี้ของ Everything Everywhere All At Once เป็นเพียงรายได้ในอเมริกาเพียงเท่านั้น แม้ว่า Uncut Gems จะครองตำแหน่งรายได้ในอเมริกาสูงสุดของ A24 ที่รายได้ 50 ล้านดอลลาร์ แต่ทว่า Uncut Gems ไม่ได้ออกฉายทั่วโลก ทำให้รายได้หยุดที่แค่นั้น ถ้านับรายได้ทั่วโลกก็ยังมีภาพยนตร์เรื่องอื่นจากสตูดิโอนี้ที่ทำเงินได้สูงกว่า เช่น Moonlight (65 ล้านดอลลาร์), Lady Bird (79 ล้านดอลลาร์) และ Hereditary (81 ล้านดอลลาร์) ซึ่งตอนนี้ Everything Everywhere All At Once ยังไม่ได้ฉายนอกอเมริกา ถ้าหากฉายก็อาจกวาดรายได้ทั่วโลกได้สูงกว่านี้ แต่เนื่องจากตอนนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเข้าฉายในอเมริกาอยู่ และกระแสตอบรับก็ยังดีอย่างต่อเนื่อง จึงมีโอกาสที่จะสามารถเอาชนะรายได้ประเทศของ Uncut Gems ได้ สุดท้ายต้องรอดูกันต่อไป และสำหรับประเทศไทย ใครที่อยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ดู เพราะเรื่องนี้กำลังจะเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 12 พฤษภาคมนี้